ดวงชะตาเมืองว่าทำนายยากแล้ว ดวงชะตาตลาดหุ้นยิ่งทำนายยากยิ่งกว่าเพราะปัจจัยบวก-ลบเต็มและคานกันเต็มไปหมด
เมื่อปลายปีที่แล้วผู้เขียนได้กัดฟันทำนายสภาวะตลาดหุ้น หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไว้กับทุกรายการที่ไปออกสื่อ รวมทั้งเขียนเป็นหลักฐานไว้ในการทำนายดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์2567ในไทยโพสต์ว่า” ตลาดหุ้นมีโอกาสทำสถิติใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านมูลค่าซื้อขาย หรือมีผลิตภัณฑ์-กลุ่มธุรกิจใหม่เข้าในตลาดหุ้นเพิ่มมาให้เลือกลงทุน”
และแล้วตลาดที่ทำท่าจะร่อแร่มาตลอดตั้งแต่ต้นปี จนแม้แต่คนทำนายเองพอร์ตก็ติดลบไปสามสิบเปอร์เซ็นต์ สูงสุดในประวัติศาสตร์ที่เข้าตลาดมา ก็ทำท่าตื่นเต้นคึกคักขึ้นตั้งแต่ซื้อขายวันแรกที่คุณอุ๊งอิ๊ง หรือแพทองธาร ชินวัตรมาเป็นนายกรัฐมนตรี
จึงหลังจากรอคอยมานานขอให้จับตาว่าจากนี้ไปจนถึง 13 พฤษภาคม 2568 ตลาดหุ้นจะทำสถิติใหม่หรือไม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งมูลค่าซื้อขาย
สถิติเดิม-มูลค่าซื้อ-ขายสูงสุดของตลาดหุ้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ที่ 204,855.67ล้านบาท
ส่วนดัชนีตลาดที่สูงสุดที่1,838.96จุดเมื่อวันที่24มกราคม 2561นั้นก็แค่มองๆไว้เพราะทางดวงดาวบอกว่าไม่น่าจะใช่ช่วงนี้
แต่ถ้าใช่ก็ถือเป็นของแถมก็แล้วกัน
ทีนี้มาว่าถึงหลักโหรที่ใช้ทำนายว่าปรากฎการณ์ดวงดาวใดที่จะทำให้ตลาดหุ้นได้เกณฑ์นี้-นำไปสู่ปรากฎการณ์นี้
อ้างอิงครูโหรเทพย์ สาริกบุตรผู้ล่วงลับ ได้ให้หลักไว้ในตำราโหราศาสตร์ปริทรรศน์ เล่มสอง ครหวินิฉัยสั้นๆที่หากไม่สังเกตุหรือจับจุดจะผ่านตาไปเลยว่า “พฤหัสบดี(๕)ในดวงชะตาใดถ้าสถิตร่วมราศีกับพระพุธ(๔)และพระศุกร์(๖) ซึ่งเรียกกันว่าดวง-สี่โหงวลัก-จะช่วยให้เจ้าชะตาบริบูรณ์มั่นคง
หรือพูดง่ายๆตามภาษาผู้เขียนคือเป็นเศรษฐี(ตามระดับวาสนา)นั่นเอง จึงเมื่อเห็นชะตาเดิมใครได้เกณฑ์นี้ผู้เขียนจะพูดติดปากว่าพวกเศรษฐีสี่โหงวลัก เพราะยังมีเกณฑ์รวยอีกหลายประเภท
ส่วนพื้นดวงชะตาเดิมของตลาดหุ้นที่ไม่ได้-ไม่มีหรอกเกณฑ์เศรษฐีสี่โหงวลัก
แต่ตลาดก็มีตัวล่อให้เกณฑ์นี้ได้ตามจังหวะและเวลาคือ มีพระพุธ(๔)กุมพระศุกร์(๖)อยู่ในราศีพฤษภ รอตัวส่งคือพฤหัสบดี(5)จรมาถึง-ทับ-เล็งให้ครบเกณฑ์ก็โป๊ะเช๊ะเช่น
ระหว่าง 30 เมษายน 2567-พฤษภาคม 2568 พฤหัสบดี(5)จรหรือเดินในราศีพฤษภ ทับดาวสองดวงนี้ ได้เกณฑ์เศรษฐีสี่โหงวลัก หรือ-5๔๖-เป็นเวลาหนึ่งปี
ปรากฎการณ์นี้แหละทำให้มีวันที่ยอดซื้อขายในตลาดหุ้นเพิ่มมหึมาในแต่ละวัน หรือบางวันทำสถิติสูงสุด-หรือตลาดอุดมไปด้วยยอดซื้อ-ขายนั่นเอง
แต่ตลาดอุดมไม่ใช่คนจะรวยด้วยเพราะอาจจะเก็งกำไรรวยกัน เหมือนคราววันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ที่ซื้อ-ขายสนั่นจนยอดซื้อขายทำสถิติสูงสุดเป็นสถิติตั้งรอถูกทำลายอยู่
หรือขายหนีตาย เมื่อ 19 ธันวาคม 2549 ที่ยอดซื้อขายก็มหึมา เพราะธนาคารแห่งประเทศไทยสั่งกันสำรองร้อยละ 30 ป้องกันกันเก็งกำไรค่าเงินก็อีกเรื่องหนึ่ง
ไม่ว่าจะเกิดทางไหนเหตุก็จะเกิดแบบไม่คาดฝัน-ชวนตาค้าง(มีอิทธิพลมฤตยูจรร่วมด้วย)
แม้โอกาส-สัญญาณจะออกแนวบวกหรือลบต่อตลาด ผู้เขียนก็ยังย้ำเหมือนเดิมว่า โปรดจัดการกับพอร์ตของพวกท่านให้สุภาพ-เรียบร้อยภายในวันเกิดเมืองที่21 เมษายน 2568 หลังจากนั้นถ้าล่อตาล่อใจนักใช้วิธีแหย่ๆหรือเก็งกำไรไป
ซึ่งเรื่องนี้จะอยู่ในคำทำนายดวงเมืองปี 2568
สุดท้ายฝากเตือนเรื่องอุบัติเหตุใหญ่-เจ็บ-ตาย-เสียหายหมู่ ทุกทางทั้งดิน-น้ำ-ลมอากาศ-ไฟ เริ่มกลับมาแรงจัดอีกรอบแล้วเริ่มตั้งแต่บัดนี้-ประมาณ 20 ตุลาคม 2567 ในระดับเครื่องบินเล็กตกมาแล้วสองลำ ล่าสุดก็ที่บางปะกงจะเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไปเลย
เป็นเรืองที่ต้องรอดูและทำใจเหมือนกับเหตุการณ์ฝนตกขี้หมูไหล คน(สำคัญ)หรือเหตุการณ์(สำคัญ)อะไรผุดขึ้นในเมืองก็ยังเกิดขึ้นถี่จัดให้เห็นเต็มตาและจะไม่จบง่ายๆ
ทั้งสองเหตุการณ์หลังนี้จบหรือจางไปเมื่อใดจะบอกมาอีกครั้ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เด็กฝึกงาน...ไม่ผ่านโปร
ฉากทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยหลังจากรู้ผลของการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นภาพที่สร้างความกังวลให้กับคนไทยจำนวนมากที่ไม่ได้เลือกพรรคส้มหรือพรรคแดง
'ความเป็นไทย' กับกรณีน้ำท่วมภาคเหนือ-ภาคใต้
ถึงแม้จะก่อเกิด ถือกำเนิด ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี...แต่ด้วยเหตุเพราะไปเติบโตที่ภาคใต้ ไม่ว่าเริ่มตั้งแต่อำเภอทุ่งสง จังหวัดหน่ะคอนซี้ทำหมะร่าด ไปจนอำเภอกันตัง
ได้ฤกษ์ 'นายพล' ล็อต 2
ผ่านเดดไลน์ตามคำสั่ง ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ทุกหน่วยส่งบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น
ผ่าดวงชะตา 9 บุคคลสำคัญ 'บิ๊กตู่' บวกลบรับเต็มๆปี 69 'แม้ว' สู้แล้วได้ 'อิ๊งค์' ฟันฝ่าให้ถึงวันเกิดปีหน้า
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี หลังจากผ่านปรากฏการณ์ต้องคลาดคลาพิจารณาให้เสียดายคือหลังเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 ลาออกจากทุกตำแหน่ง
ช่างกล้า...ช่างมั่น รับประกันด้วยตำแหน่ง
ในขณะที่ประชาชนผู้รักชาติ รักแผ่นดิน มีความเป็นห่วงเป็นใยว่าการเจรจาแบ่งผลประโยชน์จากทรัพยากรในท้องทะเลใต้เกาะกูดตามที่มีการลงนามความเข้าใจร่วม (MOU) 44
จาก...'ต้มยำกุ้ง' ถึง 'ต้มยำกบ'
ด้วยเหตุเพราะ ความคิดถึง อย่างสุดซึ้งถึงเพื่อนเก่า เพื่อนแก่ อย่าง เพื่อนแป๊ะ (โดย แป๊ะ รายที่ว่านี้ออกไปทาง เทพบุตร หรือคนละคนกับ แป๊ะ ปิศาจ) ที่ห่างหายไม่ได้เจอะหน้า เจอะตา