'หมอธีระ' เผย Omicron XBB.1.5 ระบาดแล้ว 38 ประเทศ ย้ำเป็นสายพันธุ์ที่ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากที่สุดที่เคยมีมา แนะคนไทยเรียนรู้จากประสบการณ์ป้องกันดูแลตัวเองให้ดีที่สุด
12 ม.ค.2566 - รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กถึงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 12 มกราคม 2566 ว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 328,963 คน ตายเพิ่ม 1,034 คน รวมแล้วติดไป 669,635,094 คน เสียชีวิตรวม 6,718,899 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา และฮ่องกง เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 94.87 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 82.78
...อัพเดตเรื่อง Omicron XBB.1.5
เมื่อคืนนี้ 11 มกราคม 2566 องค์การอนามัยโลกได้เผยแพร่ข้อมูลประเมินความเสี่ยงของการระบาดจาก XBB.1.5 ล่าสุดมีรายงานการตรวจพบทั่วโลก 38 ประเทศ นับตั้งแต่ 22 ตุลาคม 2565 ถึง 11 มกราคม 2566
ประเทศที่ส่งรายงานการตรวจพบมากสามอันดับแรกคือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเดนมาร์ก
อัตราการขยายตัวของการระบาดในสหรัฐอเมริกานั้นสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากสัปดาห์ละ 1% (ณ สัปดาห์ที่ 47) เพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 8% (ณ สัปดาห์ที่ 50) ภายในสามสัปดาห์ และมีการแพร่ระบาดมากแถบตะวันออกเฉียงเหนือ
สายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 นี้ เป็นลูกหลานในตระกูล XBB ซึ่งข้อมูลปัจจุบันชี้ชัดว่าดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากที่สุดในทุกสายพันธุ์ของโควิด-19 ที่เคยมีมา โดย XBB.1.5 นั้นดื้อเทียบเท่ากับสายพันธุ์ XBB.1 ในแง่ความรุนแรงของโรคนั้น ยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่าจะรุนแรงกว่า Omicron สายพันธุ์ย่อยอื่นๆ ที่ระบาดอยู่หรือไม่ องค์การอนามัยโลกประเมินว่า สายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 นี้มีแนวโน้มที่จะระบาดมากขึ้นทั่วโลกได้ จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวัง ติดตามอย่างใกล้ชิด
ในขณะเดียวกัน Wenseleers T จากเบลเยี่ยม และ Gerstung M จากเยอรมนี ได้ทำการประเมินสมรรถนะการขยายตัวของการระบาดจาก XBB.1.5 ในทวีปต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบกัน พบว่าปัจจุบัน XBB.1.5 มีอัตราการขยายตัวของการระบาดมากในทวีปอเมริกาเหนือ และยุโรป แต่ทวีปอื่นๆ ก็ยังพบการเพิ่มขึ้นในบางประเทศ ยังไม่มากนัก
...สำหรับคนไทยเรา ควรระลึก วิเคราะห์ และเรียนรู้จากบทเรียนในรอบสองปีกว่าที่ผ่านมาที่เกิดการติดเชื้อ ป่วย และเกิดความสูญเสียที่เกิดขึ้นจำนวนมาก สัจธรรมที่เห็นคือ การจะปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตได้ จำเป็นต้องมีความรู้เท่าทันสถานการณ์ รับรู้รับทราบข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องและทันต่อเวลา เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ ทำในสิ่งที่ควรทำ และควรหาทางช่วยกันจัดการ ป้องกันไม่ให้"รากเหง้าสาเหตุ"ของความสูญเสียในอดีต กลับมาทำให้เกิดปัญหาในอนาคต
สำคัญที่สุดคือ ความมีสติ ใส่ใจสุขภาพ ป้องกันตัวสม่ำเสมอ ไม่ประมาท ระมัดระวังกิจกรรมและสถานที่เสี่ยง แออัด คลุกคลีใกล้ชิดเป็นเวลานาน ระบายอากาศไม่ดี การไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบตามกำหนดจะช่วยลดเสี่ยงป่วยรุนแรง เสียชีวิต และ Long COVID ได้ หัวใจสำคัญคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง ระหว่างใช้ชีวิตประจำวันนอกบ้าน จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อแพร่เชื้อลงไปได้มาก
อ้างอิง:
XBB.1.5 rapid risk assessment. WHO. 11 January 2023.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อัปเดต’โควิด’ ช่วง 11-17 พ.ค. ติดเชื้อ 31,688 รายเสียชีวิต 2 ราย วัยทำงาน-มหาลัย นำโด่ง
หากสังเกตจากอีกฐานข้อมูล ที่จำนวนผู้ป่วยสงสัยรายใหม่ประจำสัปดาห์ที่ 20 จะพบว่าตัวเลขสูงถึง 36,258 ราย ซึ่งสูงกว่าจำนวนในรายงานสรุปซึ่งน่าจะเป็น confirmed cases
โควิดขาขึ้น! ติดเชื้อเพิ่ม 1.6 หมื่นราย ดับ 6 ราย ‘อาจารย์หมอ’ ห่วงยอดเสียชีวิตเพิ่ม 2 เท่า
สัปดาห์ที่ 19 ช่วง 4-10 พฤษภาคม 2568 นั้น มีเคสเพิ่มจากสัปดาห์ก่อนหน้าอย่างชัดเจน รวมแล้วมีผู้ป่วยที่ไปรักษารพ. ทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก 16,607 ราย เสียชีวิต 6 ราย
กสม.ชี้ 'กอ.รมน.' ละเมิดเสรีภาพทางวิชาการ!กรณีขอความร่วมมือไม่ให้แพร่งานวิจัย ศ.พวงทอง
กสม.ชี้กรณี กอ.รมน.ขอความร่วมมือมิให้เผยแพร่งานวิจัยเรื่อง 'ในนามของความมั่นคงภายใน การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย' เป็นการละเมิดเสรีภาพทางวิชาการ แนะยุติการแทรกแซง
'หมอธีระวัฒน์' แฉข้อมูล องค์การอนามัยโลก พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด กลับเพิ่มมากขึ้นหลังจากการฉีดวัคซีน
ศ. นพ. ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข และ ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
อาจารย์หมอจุฬาฯ ห่วงป่วยโควิดอาทิตย์เดียวเข้า รพ. 8.4 พันราย มีเด็กเล็ก 0-4 ปีเยอะ
27 เมษายน-3 พฤษภาคม 2568 ตัวเลขในระบบโควิด-19 รายงานไว้ 8,446 ราย ที่ป่วยไปรพ. ทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ไม่รวมคนที่ติดเชื้อแล้วไม่ได้ไปรักษาที่รพ.