'นักไวรัสวิทยา' จับตา 'โอมิครอนล่องหน' หรือ BA.2 กระจายตัวเองได้ไวกว่ารุ่นพี่หรือ BA.1

'ดร.อนันต์-นักไวรัสวิทยา'จับตาโควิดสายพันธุ์โอมิครอนตัวน้อง ที่เรียกว่า โอมิครอนเวอร์ชันล่องหน หรือ BA.2 ล่องหน มีแนวโน้มการกระจายตัวเองได้ไวกว่าและกำลังจะแซงโอมิครอนรุ่นพี่หรือ BA.1

12 ม.ค.2565 - ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ(ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์ข้อความว่า

หลังจากที่ติดตามข้อมูลมาสักระยะหนึ่ง ตอนนี้เหมือนจะชัดเจนขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะในอินเดียว่า โอมิครอนตัวน้อง หรือที่ก่อนหน้านี้เรียกชื่อกันว่า โอไมครอนเวอร์ชันล่องหน (Omicron Stealth) หรือ BA.2 มีแนวโน้มการกระจายตัวเองได้ไวกว่าโอมิครอนรุ่นพี่ หรือ BA.1 ที่มีต้นกำเนิดมาจากแอฟริกาใต้ ตัวเลขของตัวอย่างไวรัสที่ตรวจในหลายประเทศเห็นแนวโน้มแบบเดียวกันคือ ตัวอย่าง BA.1 เริ่มลดลง ขณะที่ BA.2 เริ่มสูงขึ้นชัดเจน

ถึงแม้ว่า BA.2 จะมีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งเหมือน BA.1 แต่ไวรัสตัวนี้มีจุดสำคัญหลายตำแหน่งที่เป็นคุณสมบัติของตัวเอง และที่แตกต่างชัดเจนคือ BA.2 ขาดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมในยีนโปรตีนหนามสไปค์ ที่เรียกว่า S gene dropout ( DEL69-70) หรือการตรวจไม่พบยีนหนาม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญช่วยให้ตรวจพบโอไมครอนสายพันธุ์ดั้งเดิมด้วย RT-PCR อย่างรวดเร็ว ทำให้ยากต่อการตรวจวัด จึงเป็นที่มาของคำว่า "ล่องหน" ของชื่อไวรัสตัวนี้ครับ

น่าสนใจว่าไวรัส 2 สายพันธุ์นี้แตกต่างกันไม่มากนัก แต่ถ้า BA.2 วิ่งไวกว่า BA.1 จะทำให้นักวิจัยสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง 2 สายพันธุ์ได้ชัดขึ้น ตำแหน่งไหนที่ทำให้ไวรัสวิ่งได้ไว

ไม่แน่นะครับโอมิครอนตัวหลักอาจโดนตัวน้องเอาชนะได้ในอีกไม่นานครับ อารมณ์ในอินเดียเหมือนตอนไวรัสตัวพี่ของเดลต้า B.1.617.1 ถูกรุ่นน้องอย่างเดลต้า B.1.617.2 ชนะยังไงไม่รู้ครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อึ้ง! นักไวรัสวิทยายกผลงานวิจัยไอร์แลนด์ชี้ 'อัลไซเมอร์' อาจเกิดจากจุลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ(ไบโอเทค)

งานวิจัยแดนปลาดิบชี้สารใน 'ชาเขียว-ดำ' ช่วยยับยั้งโอมิครอนได้ดี!

ข่าวดีเล็กๆ นักไวรัสวิทยาเผยมีการวิจัยสัญชาติปลาดิบเพิ่งตีพิมพ์ สารที่อยู่ในชาเขียวและชาดำช่วยยับยั้งไวรัสโอมิครอนได้ดี ลองผลิตเป็นลูกอมทดสอบแล้วแต่ใช้ได้แค่ 15 ปีเมื่อหมดก็สิ้นฤทธิ์