อีกหนึ่งปัญหาร้อนในมือรัฐบาล “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่ต้องเร่งแก้จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบกับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการขนส่ง และรถบรรทุกที่ต้องรับภาระหนักที่สุด จนทนไม่ไหวออกมาจัดกิจกรรมคาร์ม็อบเรียกร้องรัฐบาลให้แก้ปัญหาหลายครั้งหลายหน พร้อมขู่หยุดการเดินรถขนส่งสินค้า
โดยล่าสุด “สหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย” รวมตัวจัดกิจกรรมม็อบรถบรรทุก Truck Power ซีซั่น 2 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ 25 บาทต่อลิตร โดยรถบรรทุกติดป้ายข้อความประท้วง เคลื่อนขบวนในถนน 4 สายหลัก ที่เป็นเส้นทางสำคัญที่ประชาชนใช้สัญจรเพื่อไปชุมนุมยังกระทรวงพลังงาน
ซึ่งเจ้ากระทรวงพลังงานอย่าง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ยังคงยืนยันรัฐบาลสามารถตรึงราคาให้อยู่ได้ที่ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรเท่านั้น ไม่มีเปลี่ยนแปลง
ด้าน “บิ๊กตู่” หวังแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มีบัญชาให้เตรียมระบบขนส่งรองรับหยุดเดินรถ และให้เหล่าทัพเตรียมสนับสนุนรถยนต์ทหารเข้าช่วยในการขนส่งอีกทางหนึ่ง ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าวทำให้ถูกวิจารณ์เช่นกันว่า “เอารถราชการมาแข่งกับชาวบ้าน” ซึ่งเจ้าตัวยืนยัน ไม่ใช่การประกอบการขนส่งหรือใช้วิ่งแทนรถบรรทุก แต่เป็นเพียงแผนสำรองเพื่อเติมระบบขนส่งหากมีความจำเป็นเท่านั้น
ขณะที่ในส่วนของ “กองทัพ” รับลูกทันที โดยกรมส่งกำลังบำรุงทหารบก กรมการขนส่งทหารบก กองทัพภาค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รวบรวมศักยภาพด้านการขนส่ง และเตรียมข้อมูลยานยนต์ทางทหาร ที่สามารถนำมาใช้ในการขนส่งสินค้ารองรับตามนโยบายของรัฐบาล โดยเบื้องต้นมีรถยนต์ทหารที่เหมาะสมกับภารกิจ 3,700 คัน พร้อมสนับสนุน
รวมถึงได้ศึกษาถึงกฎระเบียบเกี่ยวข้องและแนวทางปฏิบัติในการนำรถยนต์บรรทุกขนาดต่างๆ พร้อมกำลังพลเข้ารับภารกิจในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากมีข้อท้วงติงอาจผิด พ.ร.บ.ขนส่งทางบกและฝ่ายค้านจ้องฟ้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบด้วย
ส่วนฟีดแบ็กจากกลุ่มสหพันธ์การขนส่งฯ พร้อมท้าให้รัฐบาลนำรถทหารออกมาวิ่ง เพื่อให้รู้ถึงต้นทุนค่าขนส่งที่แท้จริงว่ากลุ่มผู้ประกอบการไม่ได้ยกเมฆปัญหาขึ้นมา และขีดเส้นให้เวลารัฐบาลถึงวันที่ 30 พ.ย.นี้ หากไม่มีคำตอบในวันที่ 1 ธ.ค. จะยกระดับการเรียกร้องในวิธีการใหม่ที่ไม่ใช้รถบรรทุกแล้ว และจะขับไล่นายสุพัฒนพงษ์ออกจากตำแหน่งด้วย
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่รุมเร้า ในส่วนของรัฐบาลได้แก้ปัญหาเบื้องต้น โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบ 20,000 ล้านบาท ประคองราคาน้ำมัน 4 เดือน โดยเห็นชอบการขออนุมัติกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เพื่อเสริมสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชน
โดยอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ. เปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ พ.ศ....เปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ เป็นจำนวนไม่เกิน 30,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันกำหนดไว้ 20,000 ล้านบาท
พร้อมเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์การกู้เงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยกำหนดให้ สกนช.จะต้องเสนอเหตุผลความจำเป็นในการกู้เงิน รายละเอียดการกู้เงิน แผนการกู้เงินแผนการใช้จ่ายเงินกู้ และแผนการชำระหนี้ ต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อให้ความเห็นชอบก่อนนำเสนอ ครม.เพื่ออนุมัติ
และอนุมัติการกู้ยืมเงิน โดยให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง โดยให้ สกนช.ดำเนินการกู้เฉพาะวงเงิน 20,000 ล้านบาท ตามกรอบของกฎหมายกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ และจะดำเนินการกู้เงินเพิ่มเติมวงเงิน 10,000 ล้านบาท ได้ต่อเมื่อ ร่าง พ.ร.ฎ.มีผลบังคับใช้แล้ว
จากนี้คงต้องจับตาการทำงานของรัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาจนเป็นที่พอใจของมวลชนก่อนถึงวันขีดเส้นไว้ได้หรือไม่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดิจิทัลวอลเล็ตสะดุด'พรบ.ธ.ก.ส.' แจกเงินหมื่น‘ลูกผีลูกคน’อีกแล้ว
ภาพ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง นำทีมหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค หรือแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มาแถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบหลักการ โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
คณะก้าวหน้า-ธนาธรปักธง "สว.สีส้ม" แชร์เก้าอี้สภาสูง
การเมืองช่วงเดือนพฤษภาคม วาระสำคัญเรื่องหนึ่งที่ต้องติดตามก็คือ การได้มาซึ่ง วุฒิสภา-สภาสูง ชุดใหม่ ที่จะมาแทนสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดปัจจุบัน ที่จะหมดวาระลงในวันที่ 10 พ.ค. แต่ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า สว.ชุดใหม่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่
ศึก“วางคน-วางเกม”รับมือ สะท้อนผ่านวอรูม“เมียนมา”
ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางหลังจาก นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา
‘บิ๊กโจ๊ก’ดิ้นสู้หัวชนฝา ยื้อแผน‘ฆ่าให้ตาย’
ความเคลื่อนไหวของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เที่ยวล่าสุด ถือเป็นการเขย่าวงการการเมือง ตำรวจ และองค์กรอิสระ
กองทัพโดดเดี่ยวในวงล้อม การเมืองไล่บี้ ผ่านปฏิรูป-แก้กม.
มีความเห็นและปฏิกิริยาทางการเมืองตามมา หลังมีการออกมาเปิดเผยจาก “จำนงค์ ไชยมงคล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกลาโหม (สุทิน คลังแสง) รับผิดชอบงานด้านกฎหมายและประชาสัมพันธ์” ที่เปิดเผยว่า ที่ประชุมสภากลาโหมเมื่อ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา รับทราบร่างแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่...) พ.ศ...
'ทักษิณ-โจ๊ก'ย่ามใจ! จุดจบเส้นทาง'สีเทา'
ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีความเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างการพักโทษ เดินทางมาร่วมเทศกาลสงกรานต์ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) และ สส.ของพรรค ร่วมรับประทานอาหารกับนายทักษิณอย่างคึกคัก