สนข.ผุดสถานีต้นแบบเชื่อมฟีดเดอร์รอบกรุง เชื่อมการเดินทางรถเมล์ - รถไฟฟ้า

สนข. เตรียมสรุปรายละเอียดส่งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งปรับปรุง ลุยออกแบบ 8 สถานีต้นแบบ ถก ขบ. เปิดประมูลฟีดเดอร์สายใหม่ ประเดิม 60 เส้นทางภายในปี 68 ขนคนออกจากซอยมาขึ้นรถไฟฟ้า จูงใจประชาชนทิ้งรถส่วนตัว แก้รถติด คาดเสนอร่างแผนพัฒนาฯ ให้ คจร. เคาะ ส.ค.นี้

1 มิ.ย. 2566 – นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เป็นประธานการสัมมนาเพื่อเผยแพร่โครงการ ครั้งที่ 2 การนำเสนอผลการศึกษา และแถลงผลงานโครงการศึกษาการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงรูปแบบการเดินทาง เพื่อเข้าถึงสถานีรถไฟฟ้า และสนามบินในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยโครงการนี้นอกจากจะพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการเชื่อมต่อการเดินทางแล้ว จะมีการจัดเส้นทางระบบขนส่งมวลรอง (Feeder) เพื่อรวบรวมประชาชนที่อยู่ห่างจากแนวเส้นทางรถไฟฟ้า มาส่งยังสถานีรถไฟฟ้า อำนวยความสะดวกให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าใช้บริการขนส่งสาธารณะได้สะดวกมากขึ้นด้วย

นายชาครีย์ กล่าวว่า ปัญหาจราจรติดขัดที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เกิดจากการที่ประชาชนยังนิยมใช้รถยนต์ส่วนบุคคลมากกว่าระบบขนส่งสาธารณะ ดังนั้นจะต้องจูงใจให้ประชาชนหันกลับมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา ราคาสมเหตุสมผล เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ทั้งนี้คาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จ และสามารถเสนอร่างแผนพัฒนาการเข้าถึงสถานีรถไฟฟ้า ตามแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล(M-MAP) สนามบิน และระบบขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่น เพื่อปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกเชื่อมต่อการเดินทางบริเวณสถานีรถไฟฟ้า และสนามบิน (Intermodal Transfer Facility : ITF) ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาได้ในเดือน ก.ค.66 ก่อนเสนอคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในเดือน ส.ค.66

ด้านนายสุรพงษ์ เมี้ยนมิตร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กล่าวว่า ผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่า สถานีรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน และสถานีที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างทั้งหมด 212 สถานี ของรถไฟฟ้า 9 สาย (เขียว, น้ำเงิน, แอร์พอร์ตเรลลิงก์, ม่วง, ทอง,แดง, เหลือง ชมพู และส้ม) ยังต้องปรับปรุงการเชื่อมต่อเข้าสู่สถานีให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่ง สนข. จะจัดทำรายละเอียดของแต่ละสถานีที่ต้องเพิ่มเติมแตกต่างกันไปเสนอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับปรุงต่อไป

อย่างไรก็ตามเบื้องต้น สนข. ได้ออกแบบสถานีนำร่อง เพื่อเป็นต้นแบบในการปรับปรุงการเชื่อมต่อเข้าถึงสถานีรถไฟฟ้า 8 สถานี โดยต้องเพิ่มความสะดวกที่จำเป็น อาทิ จุดจอดรถแท็กซี่ จุดจอดรถจักรยาน ติดตั้งราวจับที่ทางลาด ปรับปรุงทางเท้า ติดตั้งพื้นผิวต่างสัมผัสระหว่างสถานีรถไฟฟ้ากับป้ายรถประจำทาง ติดตั้งป้ายแสดงจุดจอดรถโดยสารและข้อมูลสายรถโดยสาร ติดตั้งหลังคาคลุมทางเดินเชื่อมต่อ (Covered Walkway) ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำไปใช้กับรถไฟฟ้าทุกสายในแผน M-MAP ที่มีเส้นทางรถไฟฟ้ารวม 14 เส้นทาง 381 สถานี ทั้งนี้ 8 สถานีต้นแบบ ได้แก่ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสีม่วง ชมพู และน้ำตาล, สถานีเตาปูน จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสีม่วง และน้ำเงิน, สถานีบางซื่อ จุดเชื่อมต่อสายสีแดงเข้ม แดงอ่อน รถไฟทางไกล และรถไฟความเร็วสูงในอนาคต, สถานีท่าพระ จุดเปลี่ยนทิศทางการเดินทางของสายสีน้ำเงิน, สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จุดเชื่อมต่อกับศูนย์การประชุมระดับนานาชาติที่มีผู้สัญจรมากเป็นพิเศษ, สถานีบางแค เป็นสถานีสำคัญในย่านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ที่มีปริมาณการเดินทางสูง, สถานีศรีรัช พื้นที่ที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่น และสถานีชุมทางตลิ่งชัน เป็นสถานีสำคัญย่านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ต้องจัดระบบขนส่งมวลชนรอง เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า(Feeder) 81 เส้นทาง โดยจะดำเนินการให้ได้ประมาณ 60 เส้นทางภายในปี 68 ซึ่งเรื่องนี้ได้หารือกับกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เบื้องต้นแล้ว เพื่อดำเนินการหาผู้ประกอบการเดินรถในแต่ละเส้นทางตามระเบียบของ ขบ. ต่อไป โดยทั้งนี้เส้นทางเหล่านี้เป็นเส้นทางใหม่ โดยจะเป็นรถโดยสารหมวด 4 ที่จะเดินรถในเส้นทางสายย่อย ผ่านซอย หมู่บ้าน หรือแหล่งชุมชนต่างๆ เพื่อขนคนมายังสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งรถโดยสารที่จะมาเดินรถนั้นควรเป็นรถอีวี เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย สำหรับเส้นทางฟีดเดอร์สายใหม่ อาทิ สถานีคูคต(เขียว)-คลอง 3, สถานีดอนเมือง(แดง)-ถนนประชาอุทิศ, สถานีรังสิต(แดง)-ธัญบุรีคลอง 7, สถานีเตาปูน(ม่วง)-โรงเรียนโยธินบูรณะ และสถานีบางจาก(เขียว)-สถานีสวนหลวง ร.9(เหลือง) เป็นต้น

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันต้องปรับปรุงการเชื่อมต่อขนส่งสาธารณะอื่นๆ บริเวณสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิให้มีความสะดวกมากขึ้น อาทิ การจัดทำป้ายหยุดรถโดยสารเพิ่มเติมที่สนามบินสุวรรณภูมิ นอกเหนือจากศูนย์การขนส่งสาธารณะ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้รถโดยสารสาธารณะเข้าสู่ตัวเมืองได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้จะมีการเปิดให้บริการแอปพลิเคชั่น BKKTransit ซึ่งจะมีข้อมูลแนะนำการเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้า และระบบขนส่งสาธารณะแก่ประชาชนบริเวณโดยรอบสถานี รวมถึงแบบแปลนสถานีทางเข้า-ออกไปยังสถานที่สำคัญ เพื่ออำนวยความสะดวกในการวางแผนการเดินทาง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘สุระพงษ์’ ลุยสางปัญหาความเดือดร้อนแท็กซี่ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

‘สุรพงษ์’รับปากกลุ่มแท็กซี่พร้อมดูแลความเดือดร้อน สั่ง ‘กรมขนส่ง’เร่งศึกษาพิจารณาแก้ปัญหาข้อเรียกร้อง 9 ข้อโดยเร็ว เพื่อเป็นธรรมทุกฝ่าย ให้อยู่ร่วมกันได้และไม่มีปัญหาตาม

ข่าวดี! ศาลปกครองกลาง สั่งเพิกถอนคำชี้ชาดอนุญาโตตุลาการ คดีค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้านบาท

ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการที่ให้กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย ชดใช้ ค่าโง่โฮปเวลล์2.4 หมื่นล้าน พร้อมดอกเบี้ยแก่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หลังศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 65

‘สุริยะ’ นั่งหัวโต๊ะสั่งการบ้านสรุปแผนโปรเจกต์คมนาคมขีดเส้นเดดไลน์ภายในสิ้นเดือนนี้

‘สุริยะ’สั่งการบ้านกำหนดแผน-สรุปโปรเจกต์ เดดไลน์ส่งภายในสิ้นเดือนนี้ วางแนวทางการทำงาน 4 ด้าน ครอบคลุม ‘บก-น้ำ-ราง-อากาศ’ก้าวสู่ศูนย์กลางการเดินทาง-ขนส่ง ชูนโยบายเปิดฟรีวีซ่าลุยจัดตารางการบินช่วงฤดูหนาวเพิ่มขึ้น 15% รองรับนักท่องเที่ยวกว่า 5 ล้านคน

‘สุริยะ’ แบ่งงาน 2 รมช.คมนาคม โยน ‘สุรพงษ์’ดูระบบราง

‘สุริยะ’แบ่งงานคมนาคม มอบ ‘สุรพงษ์’รัฐมนตรีช่วยคุม 8 หน่วยรวมระบบราง เดินหน้าสางปมสายสีส้ม พร้อมเจรจาเอกชนเข้าร่วมนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ต้องเกิดภายใน 2 ปี

‘สุริยะ’ โชว์ฟิตประกาศลุยสางปัญหาสายสีส้มดันพัฒนาขนส่งระบบรางให้มีประสิทธิภาพ

‘สุริยะ’ เข้ากระทรวงคมนาคมวันแรก ประกาศสางปัญหารถไฟฟ้า ‘สายสีส้ม’ ส่วนหนี้สิน ‘บีทีเอส’ โยนมหาดไทยพิจารณา พร้อมเดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งทางราง เตรียมเข็นประมูลรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น – หนองคาย ย้ำจะทำงานเดินหน้าร่วมมือกันก้าวข้ามความขัดแย้ง

7 ก.ย.นี้ ‘แท็กซี่’ เตรียมบุกคมนาคมยืน 7 ข้อวอนแก้ปัญหาปากท้อง

7 ก.ย.นี้ ‘แท็กซี่’นัดรวมตัวยื่นหนังสือ ‘สุริยะ’หลังเข้าทำงานตำแหน่งเจ้ากระทรวงคมนาคมใหม่ป้ายแดงวันแรก วอนแก้ปัญหาปากท้อง 7 ข้อ ขึ้นค่าโดยสาร-แก้หนี้เสีย-รถป้ายดำ-หนุนใช้แท็กซี่ไฟฟ้า