'ส.ส.นครพนม' ทิ้งเพื่อไทย ซบ 'หญิงหน่อย'

‘ส.ส.นครพนม’ ทิ้งเพื่อไทย ซบไทยสร้างไทย ชี้ทางออกประเทศพ้นความขัดแย้ง โวยรัฐบาลในอดีต ไม่เอาข้อเสนอปรองดองไปใช้

23 ม.ค. 2566 – ที่สำนักงานพรรคเพื่อไทย อ.นาแก จ.นครพนม เมื่อเวลา 8.30 น. นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม เขต 4 พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวลาออกจากพรรคเพื่อไทย โดยมีทีมงานและประชาชนในพื้นที่มาร่วมรับฟัง หลายคนพกข้าวปลาอาหาร และดอกไม้ มาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

นายชวลิต กล่าวว่า ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 โดยไม่มีปัญหาส่วนตัวใดๆ ในพรรคเพื่อไทย และยังคงให้ความเคารพนับถือผู้ใหญ่ของพรรคและผู้บริหารพรรค รวมถึง 2 อดีตนายกรัฐมนตรีเสมอมาไม่เปลี่ยนแปลง แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้ตกผลึกความคิดทางการเมืองว่า นับจากปี 2549 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาเกือบ 20 ปี การเมืองประเทศไทยยังอยู่ในวังวนแห่งความขัดแย้ง แบ่งเป็นฝัก เป็นฝ่าย ทำลายล้างกัน จนประเทศติดหล่ม ถอยหลังเข้าคลอง วิ่งตามเพื่อนบ้านไม่ทัน และประชาชนยากจนลงแต่หนี้สินเพิ่มขึ้น

พรรคการเมืองที่เคยสังกัดถูกยุบ 2 ครั้ง ถูกปฏิวัติ 2 ครั้ง รัฐมนตรีของพรรคต้องโทษจำคุกแล้วกว่า 10 คน และยังมีอีกหลายคนที่ต่อคิวเพราะคดีความยังไม่สิ้นสุด ตนเห็นว่าการยุบพรรคการเมืองและการรัฐประหารเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม ไม่สอดคล้องกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย ยิ่งกระทำกับพรรคการเมืองที่ตนเคยสังกัด ยิ่งทำให้ความขัดแย้งฝังรากลึก ต่อเนื่อง ยาวนาน ดังนั้น จึงตกผลึกทางความคิดว่า ต้องหาพรรค การเมืองที่มีจุดยืนอุดมการณ์ประชาธิปไตย และต้องมีนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งระหว่างการเมืองสองขั้ว เพื่อเป็นทางออกให้กับบ้านเมือง

นายชวลิต กล่าวว่า มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมืองโดยการทำงานกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และรับแนวคิดนโยบายการปรองดอง สมานฉันท์ มาปรับใช้ในการทำงานการเมืองเสมอมา และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าอย่างปกติสุข เหมือนบ้านอื่น เมืองอื่น โดยได้ทำงานเป็นกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฏร ทำการศึกษาเรื่องแนวทางการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ โดยตนเป็นคนกลางประสานงานให้ นปช. กปปส. ส.ส. และ ส.ว. ได้พบกันนอกรอบปรึกษาหารือหาทางออกจากความขัดแย้งหลายครั้ง และจัดทำเป็นรายงานเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรจนมีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ แต่รัฐบาลกลับนำรายงานดังกล่าวเก็บเข้าลิ้นชัก ไม่ไปดำเนินการต่อ รวมทั้งยังศึกษาและสรุปรายงานแนวทางสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการพัฒนา สร้างสันติสุขและประชาธิปไตยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกด้วย

พรรคการเมืองที่เห็นว่าจะนำมาซึ่งทางออก ทางรอดให้กับประเทศไทยคือ พรรคไทยสร้างไทย ที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เคยประกาศว่าจะเป็นพรรคการเมืองที่ยึดอุดมการณ์ประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขอเป็นพรรคทางออกที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในปัจจุบัน คุณหญิงสุดารัตน์ ยังเป็นผู้นำที่มีประสบการณ์ทางการเมืองสูงเป็นเวลา 30 ปี มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในหลายกระทรวง โดยเฉพาะโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ขยันอดทน เสียสละ โดยเฉพาะการเลือกตั้งปี 2562 ที่แม้รู้ว่าจะไม่ได้เป็น ส.ส. แต่ก็ตั้งใจช่วงคนในพรรคหาเสียงเต็มที่ เป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ซื่อสัตย์ สุจริตไม่เคยมีเรื่องทุจริต ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะสามารถแก้ไขปัญหาชาติได้

ที่สำคัญคือคุณหญิงสุดารัตน์เป็นลูกอีสาน ตรงกับความนิยมของคนในพื้นที่ เคยเสนอทำนโยบายแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งตอนสมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และยังมีนโยบายที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของคนอีสานอีกมากมาย รวมทั้งจะสานต่อโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งด้วย ที่ผ่านมา ส.ส.อีสานมีมาก แต่เป็นเหมือนเบี้ยในเกมการเมือง ไม่ใช่ขุนที่จะแก้ไขปัญหาในชาวอีสานได้ นอกจากนี้ในพรรคไทยสร้างไทยยังมี ดร.โภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มีความคุ้นเคยและทำงานร่วมกันมานาน

“พรรคไทยสร้างไทยเป็นเหมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่จะพาประชาชนออกจากความขัดแย้งเกือบ 20 ปี เป้าหมายในชีวิตทางการเมืองของเขาคือ นำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งที่มีมาช้านาน หาทางออก ทางรอดให้ประเทศ และสร้างประเทศที่ดีที่สุดเพื่อส่งมอบให้ลูกหลาน ตนจะสมัครเข้าไปเป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทยในวันที่ 24 มกราคม” นายชวลิต ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุวัจน์' หวนคืนชื่อเดิม 'พรรคชาติพัฒนา' แต่งตั้ง สส.แจ้ เป็นรองหัวหน้าพรรค

พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า , นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ,

'ชัยเกษม' ออกตัวไม่เกี่ยวปรับครม. ผู้บริหารพรรคจะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ สบายๆ

นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การเดินทางมาไหว้วันนี้เกี่ยวอะไรกับการปรับ ครม.หรือไม่

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 20: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า

'เผ่าภูมิ' ปัดนายกฯ ส่งสัญญาณนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวได้เดินทางมารับเอกสารกรอกแบบฟอร์มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว ว่า ตนไม่ให้คอมเมนท์ ยืนยันว่าขณะ

อดีตบิ๊กข่าวกรองเตือนสติ! อย่าหลับตาพูดลืมตาดูสถานการณ์โลกด้วย

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ