คณะที่ปรึกษา FDA หนุนฉีดไฟเซอร์ให้เด็ก 5-11 ขวบ

คณะผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ซึ่งให้คำปรึกษาแก่องค์การอาหารและยาของสหรัฐลงมติอย่างท่วมท้นเมื่อวันอังคาร สนับสนุนให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทค กับกลุ่มเด็กอายุระหว่าง 5-11 ปี คาดเอฟดีเอเปิดไฟเขียวภายในไม่กี่สัปดาห์

แฟ้มภาพ เด็กชายอเมริกันวัย 13 ปีรับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ที่นครลอสแองเจลีสเมื่อเดือน พ.ค. 2564 หลังจากทางการสหรัฐอนุมัติให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้ (Getty Images)

รายงานเอเอฟพีเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 กล่าวว่า คณะผู้เชี่ยวชาญอิสระที่องค์การอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) เรียกประชุมเพื่อเสนอความคิดเห็นและอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นนี้ ลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 17 เสียง งดออกเสียง 1 คน สนับสนุนให้ฉีดวัคซีนแก่เด็กกลุ่มนี้ โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า ประโยชน์ที่ได้จากการฉีดวัคซีน ทั้งต่อสุขภาพของเด็กโดยตรง หรือประโยชน์ทางอ้อมด้านอื่นๆ อาทิการเปิดโรงเรียนอีกครั้ง มีมากกว่าความเสี่ยง

พอล ออฟฟิต กุมารแพทย์จากโรงพยาบาลเด็กฟิลาเดลเฟียที่ลงมติเห็นด้วย กล่าวว่า มีเด็กจำนวนมากที่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จะได้ประโยชน์จากวัคซีนนี้ และความเสี่ยงในเชิงทฤษฎีเกี่ยวกับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่น่ากังวลที่สุด น่าจะต่ำมาก เมื่อพิจารณาว่าปริมาณวัคซีนที่ฉีดให้เด็กนั้นมีเพียง 10 ไมโครกรัม เมื่อเทียบกับวัคซีนสำหรับกลุ่มที่อายุมากกว่าซึ่งอยู่ที่ 30 ไมโครกรัม

กระนั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแทรกคำเตือนไว้ในการลงมติด้วยว่า พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการบังคับให้ฉีดวัคซีนในโรงเรียน และการฉีดควรให้เป็นการตัดสินใจของครอบครัวเด็กเอง

คาดว่า เอฟดีเอจะให้การอนุมัติตามคำแนะนำของคณะผู้เชี่ยวชาญชุดนี้อย่างเร็วภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะทำให้เด็กอเมริกัน 28 ล้านคนในกลุ่มนี้จะได้ฉีดวัคซีนภายในกลางเดือนพฤศจิกายน

ผลวิเคราะห์ประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์ที่เอฟดีเอเผยแพร่ก่อนการประชุมแสดงให้เห็นว่า วัคซีนไฟเซอร์มีประสิทธิภาพ 90.7% ในการป้องกันโรคโควิด-19 แบบแสดงอาการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอธีระวัฒน์' แจง 5 ข้อ พูดเรื่องผลกระทบการวัคซีนโควิดทำไม ในเมื่อมันผ่านไปแล้ว

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

‘หมอมนูญ’ เตือนโควิดหลังสงกรานต์เปลี่ยนไป ใครมีอาการแบบนี้รีบตรวจ ATK

อาการของโรคโควิดเปลี่ยนไป ส่วนใหญ่เป็นอาการของทางเดินหายใจส่วนบน คอ จมูก มากกว่าทางเดินหายใจส่วนล่าง หลอดลม และปอด

‘หมอมนูญ’ เผยผลติดตามสถานการณ์ 5 โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ

ข้อมูลของโรงพยาบาลวิชัยยุทธที่ติดตามโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ไวรัสไข้หวัดใหญ่  ไรโนไวรัส (Rhinovirus) อาร์เอสวี (RSV) และ ฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส Human metapneumovirus (hMPV)

‘หมอยง’ ย้ำโควิดยังสายพันธุ์โอมิครอน JN.1 ไม่รุนแรง หายไข้-ไอมาก 1 วัน ใส่แมสทำงานได้

โควิด 19 ได้เปลี่ยนแปลงลดความรุนแรงลง จนปัจจุบันความรุนแรงเท่ากับโรคไข้หวัดใหญ่ RSVและเป็นการระบาดตามฤดูกาล

อาจารย์หมอ วิเคราะห์การระบาดโควิด มาจาก โอมิครอน สายพันธุ์ JN.1 เป็นหลัก

แม้ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยจะเป็นขาลง แต่จำนวนคนที่ติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันยังมีจำนวนไม่น้อย จึงควรใช้ชีวิตโดยไม่ประมาท