‘ป้อม’คว่ำดินเนอร์ โจ้โวยสั่งธรรมนัส

“ประยุทธ์” วอนอย่าขยายความขัดแย้งหรือเฟกนิวส์ ดินเนอร์ธรรมนัส-เพื่อไทยหัวทิ่มแล้ว “ประวิตร” ออกโรงต่อสายคุยบอกให้ทำงานเพื่อประชาชนดีกว่า “ยุทธพงศ์” พิลึกบอกบิ๊กป้อมไม่ควรจุ้นข้ามพรรค! “ชัยวุฒิ-สุชาติ” ย้ำเสียงหนุนรัฐบาลยังแข็งปั๋ง “อนุทิน-จุรินทร์” ประสานเสียงไม่มีถอนสมอจากเรือแป๊ะแน่นอน

เมื่ออังคารที่ 10 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าเรื่องอะไรที่เป็นเรื่องสร้างสรรค์ขอให้สื่อช่วยกันขยาย แต่อะไรที่เป็นความขัดแย้ง ไม่ใช่ข้อเท็จจริง เป็นความบิดเบือน กรุณาอย่านำไปเผยแพร่ เพราะเป็นความคิดของคนเพียงคนเดียว ส่วนของเราเป็นความคิดของ ครม.ทั้งคณะที่ได้ช่วยกันทำงาน และยังมีข้าราชการอีกจำนวนมาก กว่าจะคิดอะไรออกมาแต่ละโครงการต้องมีความรอบคอบ ส่วนหลายคนที่มีความคิดอะไรออกมาก็คงห้ามไม่ได้ แต่เมื่อคิดแล้วกรุณานึกถึงว่าแล้วจะทำอย่างไร สำคัญที่สุดคือทำได้หรือเปล่า ถ้าทำไม่ได้แล้วพูดออกไปก็เหมือนเป็นการหลอกลวงกัน

 “ผมจะไม่พูดอะไรที่เป็นการหลอกลวงหรือทำไม่ได้ หรือแม้แต่กระทั่งการแก้ไขปัญหาความยากจนก็ต้องใช้ระยะเวลาแก้ไขปัญหา ที่ผ่านมาผมบอกว่าเราต้องเริ่มต้นในปี 2560 คือเริ่มดำเนินการ เข้าถึงเป้าหมาย พุ่งเป้า จัดหาเมนูให้ จัดหาการสนับสนุนให้ อย่างการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชลบุรีเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ความฝันของผมคือการทำให้เกษตรกรของเราลืมตาอ้าปากได้โดยใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือ อุปกรณ์ที่ทันสมัย แต่ยอมรับว่าอาจมีปัญหาเรื่องสภาพพื้นดิน แหล่งน้ำ  เครื่องจักร ซึ่งผมพยายามขับเคลื่อนในเรื่องนี้ และได้สั่งการในวันเดียวกันนี้ให้หลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับแผนงานโครงการให้สามารถดำเนินการได้ทันเวลาเพื่อมาช่วยกันตรงนี้ โดยต้องอาศัยความร่วมมือทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เราต้องลดต้นทุนการผลิตให้ได้” นายกฯ กล่าว

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในที่ประชุม ครม.เต็มคณะในช่วงต้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการเดินทางไปประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 ที่กรุงวอชิงตัน ระหว่างวันที่ 12-13 พ.ค. ว่ามีหลายเรื่องที่ต้องพูดคุย ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน มีการหารือทวิภาคี และไม่ได้ไปประชุมอย่างเดียว ยังมีการพบคนไทยและอีกหลายภาคส่วนด้วย

“ระหว่างนี้ผมได้มอบหมายงานตามระเบียบราชการบริหารแผ่นดินให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนในขณะที่ผมไม่อยู่”นายกฯ กล่าวในที่ประชุม 

รายงานข่าวแจ้งว่า ในระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่..) พ.ศ.... ที่เป็นการเพิ่มสิทธิผู้ประกันตนให้นำเงินสะสมกรณีชราภาพออกมาใช้ก่อนได้ โดยเรื่องนี้ใช้เวลาพิจารณานานพอสมควร มีรัฐมนตรีหลายคนแสดงความคิดเห็นทั้งในแง่เสนอแนะและทักท้วง ซึ่งนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ชี้แจงและตอบข้อซักถามรัฐมนตรีทุกคน ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับเอ่ยปากชมนายสุชาติที่นำเสนอได้ดีว่า ทำงานได้ดี พูดจาคล่องแคล่ว อธิบายได้ดี ตอบคำถามได้ดี เดี๋ยวพอกฎหมายเข้าสภาขอให้ไปตอบที่สภาด้วย

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่นายกฯ มอบหมาย กรณีนายกฯ รู้สึกอย่างไรเรื่อง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) รับนัดทานข้าวจากนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ท่ามกลางกระแสร้อนทางการเมืองว่า ทราบว่าขณะนี้ยังไม่ได้ไป

ดินเนอร์ฝ่ายค้านเหลว

พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า เขาไม่ไปหรอก ได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัสแล้ว พร้อมย้ำว่าให้ทำงานเพื่อประชาชนดีกว่า

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงเรื่องดังกล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มี โดย ร.อ.ธรรมนัสโทร.มาบอกแล้วว่าไม่ไป ทำงานเพื่อประชาชนดีกว่า ทุกฝ่ายทำงานเพื่อประชาชน ไม่ต้องห่วง

เมื่อถามย้ำว่า ยังเหลือเวลาอีกหลายวันก่อนถึงวันนัด มีโอกาสที่จะเปลี่ยนใจหรือไม่ พล.อ.ประวิตรปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า แสดงว่าฝ่ายค้านพยายามดึงฝ่ายรัฐบาลให้ร่วมโหวตไม่ไว้วางใจ เพราะเสียงฝ่ายค้านไม่เพียงพอ เป็นเกมการเมืองตามปกติ แต่เราคุยกันได้

เมื่อถามถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้ ร.อ.ธรรมนัสก็เดินเกมลักษณะนี้เช่นกัน นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ได้ไปเดินด้วย

ด้านนายยุทธพงศ์กล่าวในเรื่องนี้ว่า พล.อ.ประวิตรไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายแทรกแซงการทำงานของ ร.อ.ธรรมนัสและพรรคเศรษฐกิจไทย ระวังอาจนำไปสู่การยุบพรรค พปชร.ได้ ร.อ.ธรรมนัสไม่ได้อยู่พรรค พปชร.แล้ว ดังนั้น ร.อ.ธรรมนัสจะไปนัดดินเนอร์กับใครก็เป็นเรื่องของ ร.อ.ธรรมนัสและพรรคเศรษฐกิจไทย ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพรรค พปชร.เลย พล.อ.ประวิตรจะไปครอบงำได้อย่างไร

นายยุทธพงศ์ยืนยันว่า ตั้งแต่แถลงข่าวไปยังไม่เห็นข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัสจะมาออกปฏิเสธนัดในครั้งนี้ ดังนั้น พล.อ.ประวิตรไม่ควรมายุ่งกับเรื่องที่พรรคฝ่ายค้านและ ร.อ.ธรรมนัสนัดรับประทานอาหารเพื่อพูดคุยปัญหาบ้านเมืองที่เศรษฐกิจพังพินาศ คอร์รัปชันเต็มบ้านเต็มเมือง คนตายเพราะโควิด-19 เป็นหมื่นๆ คน พล.อ.ประวิตรควรเอาเวลาไปหาเครื่องยนต์ไปใส่เรือดำน้ำที่จัดซื้อตั้งแต่สมัยที่เป็น รมว.กลาโหมจะดีกว่า ก่อนที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 พล.อ.ประวิตร ในฐานะบิดาแห่งเรือดำน้ำไทย จะโดนอภิปรายด้วย

เมื่อถามย้ำ ร.อ.ธรรมนัสยังยืนยันร่วมนัดรับประทานอาหารเย็นอยู่อีกหรือไม่ นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ยังไม่เห็น ร.อ.ธรรมนัสออกมาปฏิเสธอะไร ฝากถามด้วยว่า พล.อ.ประวิตรอยากจะไปด้วยหรือไม่ จะได้เรียนเชิญ พล.อ.ประวิตรด้วย ถ้าอยากจะไล่ พล.อ.ประยุทธ์ อยากเป็นนายกฯสำรองก็ยินดีให้ไปดินเนอร์ด้วย

เมื่อถามว่า จะไปร้องเอาผิด พล.อ.ประวิตร ฐานเข้าข่ายครอบงำพรรคหรือไม่ นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องไปร้อง เสียเวลา เพราะนักร้องมีอยู่เยอะแยะ ปัดกวาดบ้านเมืองให้สะอาดดีกว่า

นายธนกรยังตอบคำถามแทนนายกฯ กรณีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการประมูลโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ให้คนในเป็นคณะกรรมการเหมาะสมหรือไม่ เพราะเหมือนเป็นการตรวจสอบกันเองว่า นายกฯ กล่าวว่าก็ต้องไว้ใจ ฟังเหตุผลข้อเท็จจริงด้วยใจเป็นธรรม หากมีปัญหาก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ส่วนนายชัยวุฒิกล่าวถึงการขับนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ออกจากพรรค หลังร่วมมือกับพรรคฝ่ายค้านตรวจสอบโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี ว่า​เรื่องนั้นให้เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ถ้าทำผิดข้อบังคับ ก็ต้องลงโทษตามปกติ ซึ่งอยู่ที่ข้อเท็จจริง ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อให้นายพิเชษฐมาให้ข้อมูลแล้ว ว่ากรณีที่เกี่ยวกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร.นั้น มีข้อมูลอะไรบ้าง ต้องนำข้อเท็จจริงมาพูดคุยกันก่อน ยังไม่ชัดเจนว่าถูกหรือผิด

มั่นใจเสียงรัฐบาลยังปึ้ก

เมื่อถามว่า กรณี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไปเคลื่อนไหวเช่นนี้ ถือว่าขัดมารยาททางการเมืองหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ต้องแยกส่วนกัน วันนี้ยังไม่มีการโหวตหรือลงมติ เพียงแค่ไปตรวจสอบโครงการท่อน้ำอีอีซี ที่ไม่เห็นด้วย และจึงออกมาคัดค้าน ซึ่งตรงกับ ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนมองว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะสมัยก่อนก็เคยเกิดกรณี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องปกติของ ส.ส.ในการตรวจสอบหน่วยงานรัฐ ส่วนจะผิดถูกอย่างไรต้องดูข้อเท็จจริง หากมีความบริสุทธิ์ใจและตรงไปตรงมาก็ไม่มีอะไร

เมื่อถามว่า มีความกังวลในการอภิปรายรัฐบาลในครั้งนี้หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า เคยคุยกันมาหลายครั้งแล้วว่า เสียงเราพอ รัฐบาลยังมีเสียงเกินครึ่ง ตรงข้ามกับเสียงฝ่ายค้านที่ไม่ได้มีเอกภาพ ไม่ได้แข็งอย่างที่คิด เพราะแตกไปอยู่พรรคอื่นเยอะแยะแล้ว

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรค พปชร. กล่าวถึงเสียงโหวตสนับสนุนรัฐบาลและนายกฯ ว่าน่าจะเกิน 250 เสียง ไม่มีปัญหาหรอก ส่วนในการรับหน้าที่ประสานกับบรรดาพรรคเล็กนั้น ด้วยความที่ยังเป็นเด็ก คุยกับใครได้หมดเลยโชคดี และมีความสัมพันธ์ที่ดีกันอยู่แล้ว ก็คุยปรับความเข้าใจสิ่งที่แต่ละคนมองว่าเป็นประเด็นต่างๆ ทุกอย่างแก้ไขได้ เช่น กรณีการประมูลโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี นายกฯ ก็ให้มีการตรวจสอบแล้ว ขณะที่ พล.อ.ประวิตรก็มีความเฟรนด์ลีอยู่แล้ว มีการโทร.คุยกัน ท่านเป็นคนใจดีอยู่แล้ว

"ถามว่าวันนี้ไม่คบกับคนใจดี คนใจถึงแล้วจะคบกับใคร ผมถาม คบกับคนใจดีใจถึงหัวหน้าพรรคผม แล้วจะคบกับใคร ถ้าไม่คบกับคนแบบนี้" นายสุชาติกล่าว

เมื่อถามว่า เสียงพรรคเล็กที่จะโหวตให้รัฐบาลมีจำนวนเท่าไหร่ นายสุชาติกล่าวว่า "ครบหมด"

เมื่อถามถึงเสียงของพรรคเศรษฐกิจไทย นายสุชาติกล่าวว่า ไม่ได้ก้าวยุ่งตรงนั้น และไม่ขอพูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัสจะไปพูดคุยกับฝ่ายค้าน

ถามอีกว่า ในอนาคตจะมีตัวแปรทำให้เสียงเปลี่ยนหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ไม่น่ามีอะไร เพราะการเมืองอยู่ที่รัฐบาล  หรือนายกฯ ไปทำอะไรทุจริตหรือไม่ ซึ่งนายกฯ ไม่มี ทุกอย่างมันคลีน ส่วนรัฐบาลคนไหนผิดพลาดหรือพลาดพลั้งก็ต้องชี้แจงให้ได้ ส่วนที่ฝ่ายค้านขู่อภิปรายรัฐบาลในประเด็นต่างๆ ก็ปั่นเป็นเรื่องปกติ

เมื่อถามว่า จะมั่นใจได้อย่างไรกับพรรคเล็ก เพราะคุยกับทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน นายสุชาติกล่าวว่า เราต้องมีกระแสจิตรู้กันว่าใครคิดอะไร คนที่คบกับเรา เมื่อโทร.หาเราเรารับสายหมด ทุกเรื่องทุกปัญหาเราแก้ให้หมด ไม่ใช่เรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องนู้นเรื่องนี้ เรื่องนโยบายพรรค ปรึกษาเรา เราทำให้หมด แต่ถ้าเราเป็นคนใช้ไม่ได้ โทร.หาเราแล้วไม่รับสาย เราไม่ว่ากัน แต่นี่เราไม่เคยไม่รับสายสักครั้ง แล้วจะมีเหตุผลใดที่จะไม่ไปในทิศทางเดียวกัน

ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ออกมาทำนายว่า ภท.และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อาจเปลี่ยนขั้วทางการเมืองว่า ไม่มี ถ้าไปเปิดร้านหมอดูก็เจ๊งหมดพอดี เปลี่ยนขั้วได้อย่างไร อยู่กันมาถึงขนาดนี้ การทำงานก็เป็นไปได้ด้วยดี ความเห็นต่างเกิดขึ้นได้ แต่สุดท้ายทุกคนเคารพกติกา

เมื่อถามว่า มองบทบาท ส.ว.อย่างไรที่มาวิจารณ์การเมือง นายอนุทินกล่าวว่า จริงๆ แล้วหน้าที่ใครหน้าที่มันมากกว่า ถ้าบอกสิ่งที่คิดในใจไปเดี๋ยวก็ทะเลาะกันตาย อย่าพูดดีกว่า ถ้าคนอื่นโดนแล้วเขาคิดอย่างไรก็พอกัน มนุษย์เหมือนกันเพียงแต่พูดหรือไม่พูด แต่เรามาจากพี่น้องประชาชน และพี่น้องประชาชนเลือกเรา

ถามย้ำว่า ภท.จะเซอร์ไพรส์อะไรในสภาหรือไม่ นายอนุทินบอกว่า ไม่มี

ภท.-ปชป.ประสานเสียงไม่ถอนยวง

เมื่อถามว่า เสียงรัฐบาลยังมี 270 เสียงหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เสียงรัฐบาลเท่าไหร่ไม่รู้ แต่เสียงพรรคภูมิใจไทยมีหลายเสียงอยู่ พร้อมสนับสนุนรัฐบาล และนายกฯ พร้อมให้การสนับสนุนเรื่องที่ถูกต้อง

เมื่อถามว่า มีใครมาทาบทามให้ล้มนายกฯ หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี คิดว่าแนวทางปฏิบัติของพรรค สไตล์การทำงานและสปิริตของการอยู่ร่วมกันไม่มีใครมาหา และที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย และไม่อยากมีปัญหาด้วย

ถามย้ำว่า ในอดีต ภท.เคยเปลี่ยนขั้วในสภามาแล้ว นายอนุทินกล่าวว่า พรรคไม่เคยเปลี่ยนขั้ว สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ตอนนั้นไม่ใช่เปลี่ยนขั้ว ตอนนั้นพรรคพลังประชาชนยุบไป และเราถูกถีบออกมา ไม่ได้เปลี่ยนขั้ว เราแค่ต้องไปหาบ้านอยู่ ตอนนั้นวิ่งแทบไม่มีที่อยู่ อนาคตเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ มืดมนไปหมด โชคดีที่เรามาจากพื้นเพที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ แล้วเราก็ก่อร่างสร้างตัวมาจนถึงทุกวันนี้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวประเด็นถอนตัวว่า เรารู้หน้าที่ดี เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ต้องทำหน้าที่ในการที่จะสนับสนุนรัฐบาล ในการที่จะให้เดินหน้าทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศกับประชาชนต่อไปให้ดีที่สุด วันนี้ก็มีปัญหาวิกฤตซ้อนวิกฤตหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นโควิด-19 วิกฤตเศรษฐกิจก็เป็นทั่วโลก และปัญหาการเมืองมันก็ซ้ำซ้อนเข้ามา สงครามยูเครน-รัสเซียก็ซ้ำซ้อนเข้ามา เพราะฉะนั้นเราก็ต้องจับมือกัน ที่จะเข้าไปแก้ปัญหา เพราะถ้าไปทิ้งกลางคันตอนนี้มันก็ไปสร้างปัญหาอีกมุมหนึ่ง เพราะฉะนั้นในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด พรรคทำงานร่วมกับรัฐบาล ก็ต้องสนับสนุนรัฐบาล พรรคมีหลักชัดเจน ถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลเราก็มีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ได้ย้ำอยู่เสมอ เรารู้หน้าที่ของเราว่าเราต้องทำอะไร

นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ออกมาระบุว่าข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ได้รับมาจากประชาชนมีข้อมูลเกี่ยวกับพรรค ภท.มากที่สุดว่า การจะกล่าวหาว่าใครทุจริตหรือใครทำอะไรไม่ถูกควรมีหลักฐาน ไม่ใช่กล่าวหาลอยๆ ถ้ามีข้อมูลอะไรก็ต้องชี้แจงกัน ไม่ใช่ในสภาทีเดียว หากเห็นรัฐมนตรีทุจริตมีหลายช่องทางให้ตรวจสอบ

เมื่อถามว่าเป็นการตีกินหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ นายสุทินเป็นผู้ใหญ่ และพูดสรุปในการอภิปรายทุกครั้ง  นายอนุทินย้ำว่า มีความมั่นใจว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี พรรคสามารถชี้แจงได้ทั้งในและนอกสภา และทำไมไม่มองว่ารัฐมนตรีพรรคทุ่มเทปกป้องประโยชน์ของรัฐเยอะแยะ อาทิ เช่น โฮปเวลล์  รถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ยังเข้าไม่ได้ เพราะประชาชนยังไม่ได้ประโยชน์สูงสุด เป็นเพราะรัฐมนตรีพรรคใด

"ถ้ากล่าวหาก็ต้องดูด้วยว่าพรรคใดมีชื่อเสียงทุจริตคอร์รัปชัน และพิสูจน์มาแล้วเป็นพรรคไหน คนทุจริตคอร์รัปชันที่โดนอาญาบ้านเมือง ส่วนใหญ่อยู่พรรคไหน ท่านดูแลตัวเองให้ดีก่อน" นายอนุทิน กล่าว

"เหมือนเราเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ถ้าทำอาหารไม่อร่อย แทนที่จะปรับปรุงอาหารของร้านตัวเอง แต่ไปเที่ยวด่าร้านอื่นลูกค้าที่ไหนจะเข้า และตอนนี้อยากให้มองเสถียรภาพประชาชน พักเรื่องการเมืองบ้างก็ดี ขอให้มาเน้นเรื่องการดูแลประชาชนให้ปากท้องดีขึ้น อย่างนี้พรรคภูมิใจไทยทำ" นายอนุทินกล่าว

นายธนกรกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์มีกำหนดกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานเสวนาถามมา-ตอบไปเพื่อประเทศไทยที่ดีกว่า ในช่วงเช้าวันที่ 19 พ.ค.นี้ โดยงานดังกล่าวจัดขึ้น 2 วัน ระหว่างวันที่ 19-20 พ.ค.นี้ ที่ห้างสยามพารากอน โดยมีรองนายกฯ รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญและผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมเวทีดังกล่าวด้วยเพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความคิดเชิงสร้างสรรค์ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม รวมถึงคุณภาพชีวิตยุคใหม่ และกฎหมายที่สำคัญให้คนไทยได้รับคำตอบ เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือในการพัฒนาประเทศที่ดีกว่าต่อไป ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวมีความสำคัญ เพราะถือว่าเป็นการจัดงานเสวนาที่เชิญทุกฝ่ายมาร่วม และมีการจัดนิทรรศการในเรื่องการทำงานของรัฐบาล.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอนทองเขาบรรทัด' สินค้า GI รายการที่ 3 ของตราด

รัฐบาลมุ่งเพิ่มมูลค่าสินค้าท้องถิ่นไทย ขึ้นทะเบียนทุเรียนหมอนทองเขาบรรทัด เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ จังหวัดตราด เพื่อความเชื่อมั่นคุณภาพสินค้า ยกระดับรายได้ชุมชน