“บิ๊กตู่” เซ็นตั้งประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ “บิ๊กป้อม” เชื่อมือคุมเสียงอยู่ เมินฝ่ายค้านจ้องนับองค์ประชุม “นิโรธ” ป้อง ส.ส.สันหลังยาวทำสภาล่ม อ้างตาลาย-อ่อนล้า ด้าน “ชินวรณ์” แฉบางพรรคนั่งในห้อง แต่ไม่ยอมแสดงตน ติง ส.ส.ดรามาทำภาพลักษณ์เสีย “เรืองไกร” จี้นายกฯ ปรับ “นิพนธ์” พ้น รมต. เหตุขัด รธน.
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ลงนามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 299/2564 แต่งตั้งนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) เพื่อดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสภาผู้แทนราษฎรและรัฐสภาให้เป็นไปอย่างมีระเบียบตามแบบแผนระบบรัฐสภา ตลอดจนเพื่อให้การประสานงานสมาชิกสมาชิกรัฐสภาและพรรคการเมืองในปัญหาต่างๆ นิติบัญญัติดำเนินการไปอย่างราบรื่น
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านขู่จะนับองค์ประชุมในที่ประชุมสภาให้บ่อยขึ้นว่า เป็นเรื่องของฝ่ายค้าน ส่วนรัฐบาลต้องเตรียมพร้อม และเข้าประชุมให้พร้อม ซึ่งเราคุมเสียงของเราได้ และเชื่อว่านายนิโรธ ในฐานะประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ จะคุมเสียงได้ ไม่ต้องห่วง และเป็นหน้าที่ของ ส.ส.อยู่แล้ว ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง
เมื่อถามว่า กังวลว่าเมื่อนายนิโรธเข้าทำหน้าที่ จะมีการรับน้องหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่กังวลอะไรเลย เพราะเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ต้องร่วมมือกันในการทำงานของสภา และเชื่อว่าการทำงานในสภาของสมัยประชุมนี้จะราบรื่น เหมือนที่ตนบอกตั้งแต่แรกแล้ว
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีตนเองกับนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถูกมอบหมายเข้าไปช่วยเสริมการทำงานของนายนิโรธว่า ไม่ถึงขนาดนั้น เพราะตนเป็น ส.ส. ก็ช่วยประสานงานในสภาตลอด อย่างไรก็ตาม ประธานวิปรัฐบาล และกรรมการวิปฯ ที่มีหลายสิบคนของทุกพรรคต้องช่วยกันทำงาน ไม่ใช่ให้ประธานวิปฯ ทำงานคนเดียว และรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.เมื่อประชุมสภาต้องช่วยกันติดตาม รวมทั้งเรื่องในกรรมาธิการ เพราะมีเรื่องกฎหมายที่จะต้องเข้าไปช่วยดูเพื่อให้การขับเคลื่อนงานต่างเดินหน้า และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ซักว่าจะมีการคาดโทษหากมีสมาชิกป่วนการประชุม เพื่อการต่อรองอะไรบางอย่างหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่มี ตนยังไม่เห็น และยืนยันว่าไม่มีใครจงใจป่วนสภา
ด้านนิโรธ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่ว่าได้เป็นประธานวิปรัฐบาล เพราะเป็นเด็กของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ว่าตนเป็นฝ่ายการเมือง ยังไม่เคยคุยกับนายกฯ สักคำ ยังไม่เคยคุยตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ แต่ต้องให้ความเคารพนายกฯ ในฐานะผู้นำของประเทศ รวมถึงผู้นำฝ่ายค้าน ตนให้ความเคารพเช่นกัน
นายนิโรธยังกล่าวถึงปัญหาองค์ประชุมสภาว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมาองค์ประชุมไม่ได้ล่ม และต้องให้ความเป็นธรรมกับ ส.ส.ทุกคน เพราะร่วมกันทำงานผลักดันกฎหมายตั้งแต่ช่วงเช้า วันดังกล่าวมีกฎหมายที่ต้องดำเนินการตามระเบียบวาระจำนวน 3 ฉบับ แต่ละฉบับมีรายละเอียดหลายมาตรา เราต้องพิจารณาทุกมาตราตั้งแต่ฉบับที่ 1 จนถึงฉบับที่ 3
ประธานวิปรัฐบาลชี้แจงว่า สองฉบับแรกผู้แทนทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลแทบไม่ได้ขยับ เพราะมีจิตสำนึกต้องผลักดันกฎหมายเพื่อบ้านเมือง ทำให้เกิดความล้า ใช้เวลาประชุมกว่า 8 ชั่วโมง ก็ต้องเออเรอร์ อ่อนล้าบ้าง ความจริงเมื่อเข้าสู่การพิจารณากฎหมายฉบับที่ 3 ตามไทม์ไลน์จะปิดประชุมในช่วงเวลา 18.00 น. จึงได้ประสานกับประธานที่ประชุมในขณะนั้น คือนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ว่าเริ่มการพิจารณากฎหมายฉบับที่ 3 ไว้ หากผู้แทนฯ ไม่ไหวจะขออนุญาตปิดประชุม เรื่องเป็นแบบนี้
“ในระหว่างการพิจารณาถึงมาตราที่ 5 ของกฎหมายฉบับที่ 3 มี ส.ส.สงวนความเห็นและอภิปรายกัน ตอนนั้นเวลาประมาณ 17.00 น. ผู้แทนฯ ไม่ไหว เขาเริ่มลงไปรับประทานอาหารกัน เมื่อมีการอภิปรายเสร็จแล้ว ประธานที่ประชุมก็สั่งปิดการประชุม เพราะดูแล้วผู้แทนฯ เหนื่อย ต้องเห็นใจผู้แทนฯ เราไม่ได้ขี้เกียจสันหลังยาว เพราะร่างกายแต่ละคนแข็งแรงไม่เหมือนกัน การทำงานแบบนี้ผมคิดว่าบางทีเกินอายุขัย ต้องเห็นใจ และขอให้ประชาชนเข้าใจ ทุกคนเหน็ดเหนื่อย บางทีตาลาย เออเรอร์ ฮิวแมนเออเรอร์” นายนิโรธกล่าว
ส่วนกรณีที่รัฐมนตรีไม่ยอมมาชี้แจงสภา ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดทางเทคนิค เพราะนายกฯ เดินทางไปต่างประเทศ ทำให้การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เลื่อนมาประชุมวันที่ 4 พ.ย. ตรงกับวันตั้งกระทู้ถามพอดี และ ส.ส.ไม่ทราบว่ามีการเลื่อนประชุม ครม. เป็นการขัดข้องผิดพลาดทางเทคนิค น่าจะให้อภัยกัน อย่าไปถือเป็นสาระว่ารัฐมนตรีไม่มาตอบ
เมื่อถามอีกว่า หากพรรคฝ่ายค้านยังใช้เทคนิคเล่นเกมในสภา ไม่ยอมกดบัตรแสดงตนเพื่อเป็นองค์ประชุมจะแก้เกมอย่างไร ประธานวิปรัฐบาลปฏิเสธว่า “มันไม่ใช่เกมของเขา บางทีมันเออเรอร์ เชื่อผมสิ บางทีนานๆ ผมยังเออเรอร์เลย แบบฮิวแมนเออเรอร์ ความผิดพลาดของมนุษย์ และเราใช้งานผู้แทนฯ หนัก บางทีตี 1 ตี 3 ยังนั่งประชุมกัน เมื่อทำงานหนักๆ ก็เบลอ”
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การประชุมเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ไม่ถือว่าองค์ประชุมล่ม แต่เนื่องจากมีพรรคการเมืองบางพรรคไม่แสดงตน ทั้งที่นั่งอยู่ในห้องประชุม จึงอยากฝากความปรารถนาดีกับเพื่อนสมาชิกรัฐสภาว่า เราต้องรับผิดชอบร่วมกัน
“เหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ฝ่ายค้านอภิปรายสนับสนุนกฎหมาย แต่พอลงมติก็ไม่ลงมติ ผมคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น และได้นำเรียนนายนิโรธในฐานะประธานวิปรัฐบาลคนใหม่แล้วว่า เราจะต้องหารือร่วมกันระหว่างวิปทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อที่จะให้บรรยากาศของสภาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่ก่อความเสียหายต่อรัฐสภาโดยภาพรวม”นายชินวรณ์ระบุ
รองประธานวิปรัฐบาลยังแสดงความเห็นถึงพฤติกรรม ส.ส.บางรายว่า ในยุคนี้ตนไม่เห็นด้วยที่จะเอามีดมากรีดแขนในสภา หรือเอาข้าวมาหว่านในสภา ตนยอมรับว่า ส.ส.เป็นตัวแทนความเดือดร้อนของประชาชน แต่ควรจะนำเสนอเหตุผลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้งตัวเลขและข้อมูลมายืนยันต่อสภาหรือมาพูดให้สาธารณชนได้เข้าใจว่า เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายให้ประชาชนอย่างไร ดังนั้นอยากขอความร่วมมือกับเพื่อนสมาชิกให้ช่วยกันกอบกู้สร้างภาพลักษณ์ของสภาที่ถูกต้องต่อไป
ขณะที่นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปฝ่ายค้านฯ เปิดเผยถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า จะนำปัญหาของประชาชนมาสอบถามรัฐบาลถึงแนวทางแก้ไข เพราะประเทศมีปัญหามากมาย นอกจากนี้ รัฐบาลไม่เคยตอบคำถามหรือให้คำชี้แจงที่ประชาชนฟังแล้วมีความหวังแต่อย่างใด พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยใช้เวทีรัฐสภาแก้ปัญหาให้ประชาชน
“กรณีสภาล่มชัดเจนว่ารัฐบาลไม่รักษาหน้าที่ในการทำงานในสภา ทั้งๆ ที่องค์ประชุมเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และฝ่ายค้านก็ช่วยเป็นองค์ประชุมมาให้ตลอด 2 ปี มาลงชื่อแต่เช้า แต่เป็นความไม่รับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาลเอง” นายสมคิดกล่าว
วันเดียวกัน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ถึงนายกฯ เพื่อขอให้พิจารณาปรับนายนิพนธ์ บุญญามณี พ้นจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย เนื่องจากถูก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ออกคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 1528/2564 ให้พ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา ซึ่งความตามคำสั่งดังกล่าว ทำให้นายนิพนธ์กลายเป็นผู้เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ และคำสั่งยังไม่ถูกเพิกถอน จึงอาจมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160 (6) กับมาตรา 98 (8) เรื่องนี้นายกฯ อาจเทียบเคียงกรณีที่รัฐมนตรี 3 คน ที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุก หรือเทียบเคียงกรณีที่รัฐมนตรี 2 คนถูกปรับออกด้วยเหตุผลเพื่อความเหมาะสมและให้เกิดประโยชน์แก่ราชการ
เมื่อวันศุกร์ นายวิทยาธร ท่อแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการสื่อสารการเมืองและสังคม มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้เปิดเผยผลสํารวจความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับประชาชนในกรุงเทพมหานครต้องการผู้นำที่มีคุณลักษณะแบบใดเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป และคุณลักษณะพรรคการเมืองแบบใดที่ผู้นําสังกัดหรือได้รับการเสนอชื่อเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป โดยดําเนินการสํารวจระหว่างวันที่ 28 ต.ค.-2 พ.ย.64 กลุ่มตัวอย่างจํานวน 12,350 คน เป็นชาย 6,820 คน (55.22%) หญิง 5,530 คน (44.78%)
ปรากฏว่า ประชาชนใน กทม.ประเมินว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ผู้นําจากพรรคประชาธิปัตย์ เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ในสถานการณ์ช่วงเวลา 4-5 ปีข้างหน้านี้ เนื่องด้วยมีคุณลักษณะความเป็นผู้นําเฉพาะตัวเด่นชัด และมีคุณลักษณะพรรคการเมืองที่สังกัดเด่นชัด
โดยผลสรุปภาพรวมคุณลักษณะความเป็นผู้นําของผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป นายจุรินทร์มีคะแนนโดยภาพรวมสูงสุด 54.24% รองลงมาคือ พล.อ.ประยุทธ์ 52.99%, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 38.12% ส่วน น.ส.พินทองทา ชินวัตร มีคะแนนน้อยที่สุด 8.87%.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อุ๊งอิ๊ง' ดูไว้! นักการเมืองต้องรักษาสัจจะเหมือน 'อภิสิทธิ์' เคยหาเสียงไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์
เมื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวในงานอีเวนต์ ”10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10“ ว่า พรรคเพื่อไทยตัดสินใจถูกตั้งรัฐบาลผสม
ระลึกถึงคำปฏิญาณ พระราชดำรัสแก่12รมต. พิชิตนัดแจงทุกปม7พ.ค.
"ในหลวง" พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกฯ นำรัฐมนตรีใหม่เข้าเฝ้าฯ
‘เพื่อไทย’เปิดตัวชิงเก้าอี้‘อบจ.’
เพื่อไทยจัดงาน "10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10" “สรวงศ์” ประกาศความพร้อมสู้ศึกนายก
‘พท.’รับเดิน2ขาแก้รธน. ก.ก.ขีด1ด.รื้อประชามติ
“เพื่อไทย” ประกาศยุทธศาสตร์เดิน 2 ขา ฝ่าด่านรัฐธรรมนูญ
‘อิ๊งค์’ซัด‘ธปท.’ฉุดฟื้นเศรษฐกิจ
“อุ๊งอิ๊ง” กร้าวฉะแบงก์ชาติเป็นปัญหาแก้เศรษฐกิจ ยึดติดแต่คำว่าอิสระ
นิดตามแม้ว‘นายกฯพบปชช.’
ถึงคิว "เศรษฐา" โคลนนิงนายกฯ พบประชาชน ขอจ้อส่งตรงกับชาวบ้านเดือนละครั้ง