มีกำลังใจดีอยู่แล้ว บิ๊กตู่ปรากฏตัวต่อสาธารณะ ฝ่ายค้านดัน‘มีชัย’เป็นพยาน

“ประยุทธ์” ปรากฏตัวต่อสาธารณะแล้ว  เป็นประธานเปิดงานอุปกรณ์ป้องกันประเทศ พ่วงต้อนรับรัฐมนตรี กห.มาเลเซีย-ผบ.ทหารสูงสุดซาอุฯ ลั่นมีกำลังใจดีอยู่แล้ว “ฝ่ายค้าน” จุ้นการทำงานศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมเรียก “มีชัย-ปกรณ์” พ่วงนักวิชาการให้ความเห็นประกอบการพิจารณาปม 8 ปี “วิษณุ-อนุทิน” ประสานเสียงไร้เรื่องปรับ ครม. ประชาธิปัตย์สวนดุเรื่องทวงกระทรวงเกษตรฯ-พาณิชย์

               เมื่อวันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม ถือเป็นวันแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ปรากฏตัวต่อสาธารณะ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องวินิจฉัยปมการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี พร้อมมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย

โดยเมื่อเวลา 09.51 น. ที่อาคารชาลเลนเจอร์ 1  ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี  พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศ (Defense & Security  2022) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 ส.ค.-1 ก.ย. โดย  พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดงานก่อนเดินเยี่ยมชมนิทรรศการ ที่จัดแสดงเทคโนโลยีทางการทหารและความปลอดภัยอย่างตั้งใจ และเดินเยี่ยมชมทุกบูธโดยได้ทดลองขึ้นไปนั่งปืนใหญ่อัตตาจรล้อยาง ATMG ขนาด 155  มิลลิเมตร พร้อมดูอุปกรณ์ภายใน นอกจากนี้ได้ทดลองยกปืนขนาดยาวและเล็ก โดยได้ยกปืนกลยาวขึ้นเล็งซึ่งเป็นปืนขนาด 7.62 X 51 มม. รุ่น SIG-MCX รุ่น XM 5 ซึ่งในระหว่างการเดินเยี่ยมชม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆ กับสื่อมวลชนว่า “มีกำลังใจดีอยู่แล้ว”

ขณะที่ พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห.ระบุว่า  พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้การต้อนรับการเยี่ยมคำนับและหารือร่วมกับ ดะโต๊ะ ซรี ฮิชามมุดดิน บิน ตุน ฮุดเซน รมว.กลาโหมมาเลเซีย ณ ห้องรับรอง อาคารอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้ย้ำจุดยืนร่วมกันในการดำรงความเป็นหนึ่งเดียวกันของอาเซียน และความร่วมมือกันที่จะรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของภูมิภาคในลักษณะสมดุล

ต่อจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้การต้อนรับและหารือกับ พล.อ.อ.ไฟยาด บิน ฮาเมด อาล โรไวลิ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดซาอุดีอาระเบีย ในฐานะผู้แทนเจ้าชายมุฮัมมัด  บิน ซัลมาล บิน อับดุลอะซิส อัล ซะอูด มกุฎราชกุมาร

ด้าน พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ปฏิเสธตอบคำถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่มีการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมกดดัน พล.อ.ประยุทธ์ปมดำรงตำแหน่ง 8 ปี โดยระบุสั้นๆ ว่า "ไม่มี"

ขณะที่ความคืบหน้าในการประชุมแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี ผบ.ทบ.ย้ำว่า ขึ้นอยู่กับว่า พล.อ.ประยุทธ์จะประชุมเมื่อไหร่ อีกไม่นานคงทราบ แต่ยืนยันว่าการดำเนินการทำตามกรอบเวลา

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ กล่าวว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์หยุดทำหน้าที่นายกฯ  แต่ยังทำงานปกติในหน้าที่ รมว.กลาโหม ซึ่งได้ไปเป็นประธานเปิดงานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศ โดยมีประเทศต่างๆ นำอาวุธยุทโธปกรณ์และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัย และการบรรเทาสาธารณภัยมาร่วมจัดการแสดงในงานนี้ แสดงให้เห็นว่านานาประเทศยังเชื่อมั่นในประเทศไทยภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์

แรมโบ้จัดเต็มนายกฯ เถื่อนดูไบ

 “ประชาชนเขารู้ว่านายกฯ คนใดทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้อย่างแท้จริง ไม่ได้มีเรื่องของผลประโยชน์ส่วนตัวหรือพวกพ้อง เช่นเดียวกันกับนักการเมืองบางพรรคที่ไม่เห็นอกเห็นใจประชาชน และคิดทำแต่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม” นายเสกสกลกล่าวและว่า ประชาชนฝากมาบอกนายกฯ ประยุทธ์ว่าอย่าท้อแท้ อย่าอ่อนแอและถอดใจเด็ดขาด ไม่ว่าผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น นายกฯ ประยุทธ์พร้อมน้อมรับคำตัดสิน  เพราะเป็นตัวอย่างผู้นำที่ดี เคารพกฎหมาย เคารพกติกา  ไม่หนีกฎหมายเหมือนอดีตผู้นำที่อยู่ดูไบ นายกฯ ที่เคารพกฎหมายคือผู้นำประเทศที่ถูกต้องชอบธรรม แต่อดีตนายกฯ คนไหนที่ไม่ยอมรับกฎหมายคือนายกฯ เถื่อนมากกว่า ที่เห็นๆ ก็อยู่ที่ดูไบแล้วสองคน

ด้านนายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงผลการประชุมผู้นำฝ่ายค้านและพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะเชิญนายมีชัย  ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)  และนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขานุการ กรธ. มาเพื่อให้การเป็นพยานต่อศาลเป็นลายลักษณ์อักษรในเรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี และอาจเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจเป็นอาจารย์จากคณะนิติศาสตร์ หรือประชาชนที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่เป็นกลาง รวมถึงสื่อมวลชนที่เป็นกลาง เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญได้สอบถาม เพื่อเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรม และประโยชน์ต่อการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

 “ผู้นำฝ่ายค้านจะทำหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อเรียกบุคคลอื่นนอกจากนายมีชัยและนายปกรณ์มาเป็นผู้เชี่ยวชาญ ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายจะร่างหนังสือและส่งให้นายชวนอย่างด่วนที่สุด ส่วนใครจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมนั้นอยู่ระหว่างหารือและประสาน โดยจะแนบชื่อบุคคลไปในหนังสือคำร้องด้วย”

นายอดิศรยังกล่าวถึงการทำหน้าที่รักษาการนายกฯ  ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ว่าที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่า การใช้อำนาจของรักษาการนายกฯ ต้องใช้อย่างจำกัดและระมัดระวัง ไม่ใช้อำนาจตามที่เนติบริกรบางคนอธิบายไปไกลถึงขั้นยุบสภา หรือโยกย้ายบุคลากรต่างๆ จึงอยากให้ พล.อ.ประวิตรใช้อำนาจอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) และคณะกรรการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เพราะไม่อยากให้มองว่านายกฯ รักษาการใช้อำนาจที่มีจำกัดจนเกินอำนาจที่มีอยู่

สำหรับความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี  (ครม.) นั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ถูกศาลฎีกามีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ว่า ไม่มีปัญหาอะไร กรณีที่เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการ เพราะอำนาจก็จะกลับไปสู่รัฐมนตรีว่าการ ซึ่งตอนนี้รัฐมนตรีช่วยว่าง 2 ตำแหน่ง ก็ยังเห็นไม่มีการปรับ ครม.เลย ซึ่งในส่วน ศธ.มีรัฐมนตรีอยู่ 3 คน จึงไม่มีปัญหาอะไร

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ในส่วนของพรรคกรณีนางกนกวรรณว่า ยังไม่มีใครแจ้งมา ซึ่งปกติในช่วงที่ผ่านมาหากมีการปรับ ครม. ถึงเวลาที่เหมาะสมนายกฯ ก็จะแจ้งมายังหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล แต่ครั้งนี้ยังไม่มีการแจ้งหรือมีสัญญาณใดๆ มาเลย ยืนยันว่าขณะนี้นางกนกวรรณยังเป็น รมช.ศึกษาธิการอยู่ แต่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ยังไม่ต้องมีใครมาเปลี่ยน

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) ภาคใต้ขอให้ พล.อ.ประวิตรปรับ ครม.เพื่อให้ ส.ส.ภาคใต้ได้เป็นรัฐมนตรี พรรค ภท.กังวลหรือไม่  นายอนุทินกล่าวว่า ก็ต้องไปถามพรรค พปชร. เป็นเรื่องของเขา เพราะตนเองเป็นหัวหน้าพรรค ภท.

ปชป.สวนดุปมปรับ ครม.

เมื่อถามว่า หากจะเว้นว่างตำแหน่งนางกนกวรรณไว้ก็ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า นางกนกวรรณเป็นรัฐมนตรีช่วยฯ ซึ่งในกระทรวงก็มีรัฐมนตรีว่าการอยู่แล้ว ซึ่งพรรคก็ต้องให้กำลังใจรัฐมนตรีของเรา ส่วนจะปรับหรือไม่ปรับก็ต้องดูสัญญาณมาก่อนว่าจะปรับหรือไม่ หากปรับแล้วในส่วนของพรรคมีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างไรหรือไม่ ถ้าไม่มีแล้วเงื่อนเวลาปรับไปไม่กี่เดือนก็เลือกตั้งแล้ว ก็อาจไม่ทำอะไรเลยก็ได้ หรือหากดูแล้วจำเป็นก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารที่ต้องมาหารือกัน ซึ่งยังไม่ถึงจุดนั้น ส่วนนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร. เสนอให้ พล.อ.ประวิตรปรับ ครม.โดยดึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ไปอยู่ในความดูแลของพรรค พปชร.ว่า  ไม่ค่อยให้ความสำคัญ เพราะหลักการคนเราเวลาคำพูดออกจากปาก ต้องคิดตรึกตรองอย่างมีเหตุมีผล มีวุฒิภาวะ  ถ้าขยับปากอย่างเดียวไม่ผ่านหลักคิดดังกล่าวก็ให้ประชาชนให้คำตอบ ส่วน พล.อ.ประวิตรถ้าจะทำตามข้อเสนอของนายสัณหพจน์ที่อยากให้ปรับ 2 กระทรวงดังกล่าวก็ให้รีบแจ้งมา

น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.)  กล่าวถึงการแถลงข่าวเปรียบรัฐบาลเหมือนเป็ดง่อยและเตี้ยอุ้มค่อม โดยได้กล่าวถึงนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ซึ่งนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตอบโต้ว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาท ว่าสิ่งที่แถลงไม่ได้มุ่งเน้นกล่าวหานายนิพนธ์ว่าทุจริต แต่ต้องการจะชี้ว่า หากวันที่ 14 ก.ย.นายนิพนธ์พ้นจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย นายกฯ รักษาการจะมีการปรับ ครม.หรือไม่  หรือจะปล่อยว่างเอาไว้เหมือนที่ พล.อ.ประยุทธ์เคยปล่อยว่างมาหลายตำแหน่งก่อนหน้านี้ จนอาจกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินได้

“ที่นายวัชระระบุว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นพี่ใหญ่ตัวจริงเสียงจริงของ 3 ป. เป็นเพียงแต่การมโนขึ้นมาเท่านั้น  ไร้ซึ่งข้อเท็จจริง อยากเรียกร้องให้นายวัชระใช้เวลาไปผลักดันนโยบายที่ดี ตอบโจทย์ประชาชน เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาอย่างภาคภูมิดีกว่า หากไม่เร่งฟื้นความเชื่อมั่นประชาชนที่เคยไว้วางใจมอบคะแนนเสียงให้ เลือกตั้งครั้งหน้าอาจจะเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่กอดคอกันจมน้ำไปพร้อมๆ กันทั้งรัฐบาล” น.ส.ตรีชฎาระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หลายจังหวัดส่อฮั้วเลือกสว.

หลายจังหวัดเตรียมความพร้อมเลือก สว.ระดับอำเภอ “แสวง” อ่วม เจอร้องเรียนเพียบ “พิเชฐ” อัดไม่เป็นธรรมตัดสิทธิ