‘ป้อม’ลั่นน้ำไม่ท่วมซ้ำรอย54

"บิ๊กป้อม" ลงพื้นที่ฉะเชิงทรา สส.พปชร.-ขรก.แห่ต้อนรับ ลั่นน้ำไม่ท่วมแบบปี 54 แน่นอน โว 3 ปีทุกพื้นที่ไม่มีประกาศภัยแล้ง ย้ำต้องบริหารจัดการให้ได้ ไม่อย่างนั้นรัฐบาลโดนด่า ชื่นใจชาวแปดริ้วแห่ต้อนรับ เขินโดนหอมแก้ม ขณะที่ “ประยุทธ์” เตรียมลงพื้นที่อยุธยา

เมื่อวันที่ 1 กันยาน เวลา 08.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยรถตู้เบนซ์ ทะเบียน 1 นก 6218 กรุงเทพมหานคร จากมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เพื่อตรวจราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมคณะลงพื้นที่ พร้อมมี ส.ส.พรรค พปชร.ให้การต้อนรับ อาทิ นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี เขต 3 นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี เขต 4 น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ เขต 7 รวมถึง น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

เวลา 09.15 น. พล.อ.ประวิตรไปยังสถานีผลิตน้ำประปาฉะเชิงเทรา ต.วังตะเคียน อ.เมือง โดยมี นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวต้อนรับ และนำเสนอสภาพพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จากนั้น นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน และนายเอกชัย อัตถกาญน์นา รองผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค ปฏิบัติการ 3 นำเสนอการบริหารสถานการณ์น้ำ

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ได้นำเสนอเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งได้มีการเตรียมการในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อการเตรียมการเรื่องน้ำดิบที่จะใช้ถึงปี 2580 โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำเค็มจะต้องป้องกันในจุดพื้นที่บางปะกง เราไม่สามารถเอาน้ำดิบมาไล่ระบบนิเวศได้ตลอด ขอฝากพวกเราช่วยกันดู รัฐบาลได้ให้งบประมาณเกี่ยวกับเรื่องน้ำมาทุกปี ส่วนกรมชลประทานเตรียมการต่างๆ ในการให้ประชาชนไม่ได้รับความเดือดร้อนในการใช้น้ำ ดังนั้นการประปาต้องเตรียมการสำรองน้ำดิบไว้ผลิตให้ได้ถึงปี 80 เพื่อความต้องการของประชาชน

"ถ้าประชาชนไม่มีน้ำ ก็ด่ารัฐบาล ประชาชนมีอย่างเดียวคือต้องด่ารัฐบาล แต่ต้องขอความเห็นใจให้ข้าราชการทุกคนที่พยายามทำงานให้พวกเราได้อยู่ดีกินดีขึ้นเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี และเข้าใจน้ำเค็มที่ทะลักเข้ามาจะมีผล โดยเฉพาะน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราจำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งหาแนวทางเพื่อให้เป็นระบบในระยะยาว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซากทุกๆ ปี และประชาชนเกรงว่าฝนตกปีนี้จะทำให้น้ำท่วมเหมือนปี 2554 ปีนี้ผมรับรองเลยว่าไม่เกิดขึ้นอย่างปี 54 แน่นอน น้ำจะไม่ท่วมอย่างปี 54 แน่นอน ผมอยากจะบอกว่าทั้งกรมชลประทาน สทนช. และทั้งหมดได้ร่วมกันกระจายน้ำ เมื่อฝนตกทางเหนือก็กระจายไม่ให้น้ำท่วมตลอดเวลา เรามีกรรมการ 22 ลุ่มน้ำในการกำกับดูแล มีคณะกรรมการน้ำทุกจังหวัดเพื่อดูว่าน้ำจะมีมาก น้อยลง หรือจะแล้ง ซึ่งทำมา 3 ปีแล้วไม่มีแล้งเลย จะสังเกตได้ว่าหน่วยงานไม่มีประกาศภัยแล้งเกิดขึ้นในทุกพื้นที่" พล.อ.ประวิตรกล่าว

พล.อ.ประวิตรกล่าวอีกว่า ขอมอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประสานบูรณาการขับเคลื่อนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ป้องกันแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนครอบคลุมถึงระยะยาว โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาน้ำเค็มที่จะรุกล้ำเข้าในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี อาทิตย์หน้านี้จะอนุมัติงบประมาณ 100 กว่าล้านบาท เพื่อศึกษาการทำประตูน้ำป้องกันน้ำเค็ม ขณะที่กรมชลประทานต้องหาแหล่งน้ำต้นทุน เร่งก่อสร้างแหล่งน้ำที่ได้รับงบประมาณให้แล้วเสร็จสามารถบริหารจัดการน้ำได้มีประสิทธิภาพ

 “เราจะต้องทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือข้าราชการ ซึ่งข้าราชการเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของประชาชน อย่าคิดว่าเราเป็นนายของประชาชน เรากินเงินเดือนภาษีราษฎร ฉะนั้นต้องจำไว้ด้วยว่าจะต้องประสานงานกับประชาชนทุกอย่างให้ร่วมมือกันทำงาน โดยบูรณาการสร้างการรับรู้ ส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในทุกพื้นที่ ประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็ต้องบอกให้ข้าราชการ และข้าราชการต้องสนองต่อความต้องการของประชาชนนั่นเป็นเรื่องธรรมดา" พล.อ.ประวิตรกล่าว

เวลา 11.25 น. พล.อ.ประวิตรเดินทางมายังบริเวณร้านอาหารบลูม เพื่อพบปะประชาชนที่ใส่เสื้อสีเหลืองมาต้อนรับประมาณ 3,000 คน โดยมีประชาชนมอบพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร พร้อมนำของฝากทั้งขนุน มะพร้าว มะม่วง ลูกจาก กล้วยน้ำว้า น้ำปลาแท้ และกุหลาบแดงมอบให้ ก่อนชูป้ายสนับสนุน มีข้อความว่า “ที่สุดของเรา” “เรารักลุงป้อม” “สู้ๆ ค่ะลุงป้อม” “ใครไม่รู้ ลุงป้อมรู้ๆ” “รักสุดหัวใจ จากใจชาวแปดริ้ว” “พวกกัน สำคัญเสมอ#แปดริ้ว” “สู้ๆ ค่ะลุงป้อม” ทันทีที่ พล.อ.ประวิตรเดินทางมาถึงได้เดินทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ ท่ามกลางเสียงตะโกนว่า "เรารักลุงป้อม รักลุงป้อมมากๆ" นอกจากนี้ ช่วงหนึ่งได้มีสุภาพสตรีวัยกลางคนเข้าไปหอมแก้ม พล.อ.ประวิตรพร้อมเสียงกรี๊ด ทำเอารักษาราชการนายกฯ ถึงกับยิ้มเขิน ขณะที่ประชาชนบางส่วนอวยพรให้ พล.อ.ประวิตรอายุยืนถึง 150 ปี

พล.อ.ประวิตรทักทายประชาชนที่มาต้อนรับว่า ขอบคุณที่มาต้อนรับ โอ้ว..เห็นแล้วชื่นใจ เราทำงานไปด้วยกัน ทั้งประชาชนและข้าราชการ เราคือพวกเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี สิ่งสำคัญอยู่ที่ข้าราชการ หากประชาชนต้องการอะไรต้องรีบดำเนินการทันที ขอฝากข้าราชการไว้กับประชาชนด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ของ พล.อ.ประวิตรเป็นไปอย่างคึกคัก และถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีแบบเต็มรูปแบบ โดยบรรดาข้าราชการตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นักการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นแห่มาต้อนรับจำนวนมาก ทำให้ พล.อ.ประวิตรมีหน้าตาสดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส กระปรี้กระเปร่ากระฉับกระเฉง

เมื่อเวลา 14.40 น. พล.อ.ประวิตรเข้าสักการะพระพุทธโสธรและถวายเครื่องไทยธรรมและสังฆทานแด่พระราชภาวนาพิธาน เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา โอกาสนี้เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหารได้สวดมนต์และสวดชยันโตเพื่อให้ศีลให้พร พร้อมมอบพระพุทธโสธร องค์จำลองหน้าตัก 9 นิ้ว ซึ่งเป็นพระพุทธรูปลงรักปิดทอง และมอบเหรียญพระพุทธโสธรให้กับ พล.อ.ประวิตร เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะประพรมน้ำมนต์ให้กับ พล.อ.ประวิตร และขอให้ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองให้ประสบความสำเร็จ และขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

พล.อ.ประวิตรเปิดภายหลังลงพื้นที่ ว่า เรียบร้อยดี เมื่อถามว่าเห็นมีชาวบ้านไปหอมแก้มด้วย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ประชาชนให้การสนับสนุนดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้การสนับสนุนพรรค พปชร. ส่วนการบริหารจัดการน้ำก็เรียบร้อยดี ไม่มีท่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม ในเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ก.ย.นี้ จะเดินทางลงพื้นที่ติดตามการก่อสร้างซ่อมแซมพนังกั้นน้ำที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และให้กำลังใจกรมทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ ที่ซ่อมแซมพนังกั้นน้ำ และช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา รวมถึงให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัยด้วย โดยลงพื้นที่ 3 จุดคือ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร เข้าสักการะพระเจดีย์ศรีสุริโยทัย ตั้งอยู่ที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และพระตำหนักสิริยาลัย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง