รัฐบาลโหมแก้ปัญหาที่ดิน มท.เล็งออกโฉนดใน69จว.

รัฐบาลลุยแก้ปัญหาที่ดินเต็มสูบ “ประวิตร” นั่งหัวโต๊ะเคาะให้จำแนกที่ดิน เตรียมชงยกเลิกมติ ครม. 22 เม.ย.2540 พร้อมเป็นประธาน 21 หน่วยงานลงนามเอ็มโอยูพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ คทช. “นิพนธ์”  ปี๊บปีงบประมาณ 2566 เล็งออกโฉนดที่ดินกว่าแสนแปลงใน 69 จังหวัด

เมื่อวันศุกร์ที่ 2 กันยายน ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามาการ์เดนส์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายแนวทางและมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน ครั้งที่ 2/2565 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินเข้าร่วมประชุม

โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์การจำแนกประเภทที่ดินตามผลการจำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดิน ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าไม้ พื้นที่ป่าชายเลน พื้นที่เกษตรกรรม และพื้นที่ชุมชน 2.เห็นชอบการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าไม้ถาวร และให้กรมป่าไม้ดำเนินการกำหนดพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าไม้ถาวร โดยพิจารณาถึงพื้นที่ป่าไม้ถาวรที่ได้จำแนกไปแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2540 ของกรมพัฒนาที่ดิน และจัดทำกระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าไม้ถาวร เสนอต่อคณะอนุกรรมการจัดที่ดิน และเห็นชอบการเสนอเรื่องขอยกเลิกมติ ครม.เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2540  เรื่องมาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ป่าไม้ในภาพรวมทั้งประเทศ โดยเรื่องที่ราษฎรร้องเรียนให้เพิกถอนเขตป่าไม้ถาวรตามมติ ครม. ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดหรือสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดได้รับเรื่องไว้แล้ว รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 22  เม.ย.ให้กรมพัฒนาที่ดินดำเนินการต่อไปให้แล้วเสร็จ จนกว่า  ครม.จะมีมติยกเลิกหรือมีข้อสั่งการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น และ 3.เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ.2566-2570) นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติรับทราบความคืบหน้าการจัดทำนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ.2566-2580) ด้วย

ต่อมา พล.อ.ประวิตรเป็นประธานพิธีเปิดงานข้อตกลงความร่วมมือ MOU โครงการบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนให้กรรมสิทธิ์แต่อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ เพราะปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกิน โดยให้พี่น้องประชาชนผู้ยากไร้ได้มีสิทธิ์ทำกิน ได้อยู่อาศัยในที่ดินของรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมายป้องกันการเปลี่ยนมือการเข้ามาครอบครอง ให้ที่ดินตกทอดยังลูกหลาน รวมทั้งการป้องกันปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ โดยเฉพาะพื้นที่ต้นน้ำและพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ อาจจะส่งผลให้การบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรที่ดินของประเทศที่มีอยู่อย่างจำกัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด และยังมีความยั่งยืนสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และสอดคล้องกับปฏิญญาเศรษฐกิจพอเพียง

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ได้รับทราบความต้องการของพี่น้องประชาชน ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรือที่อยู่อาศัยในที่ดินของรัฐ ภายใต้นโยบายการจัดทำที่ดินที่ทำกิน  ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐเป็นการเร่งด่วนในการจัดทำและพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไฟฟ้า ประปา  เส้นทางคมนาคม และแหล่งน้ำในการอุปโภคและบริโภคต่างๆ เพื่อลงหลักปักฐานต่อไปเป็นระยะยาว ดังนั้น ขอฝากไว้ว่าให้ทุกหน่วยงานได้ร่วมมือกันบูรณาการช่วยเหลือประชาชน ให้สามารถอยู่ดีกินดีขึ้นและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  ซึ่งเป็นความต้องการของรัฐบาลและข้าราชการทุกคนที่มีต่อประชาชน

จากนั้นเป็นพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ  (MOU) ร่วมกับ 21 หน่วยงาน ภายใต้โครงการบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ  (คทช.)

ทั้งนี้ มีรายงานว่าในวันที่ 5 ก.ย. พล.อ.ประวิตรพร้อมคณะมีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.กระบี่ โดยจะเดินทางไปยังโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร พื้นที่ดำเนินการ ส.ป.ก.จังหวัดกระบี่ แล้วมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ ส.ป.ก.4-01 บ้านสองแพรก หมู่ที่ 9 บ้านหว่างคลองไทย หมู่ที่ 10 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ด้วย

ขณะที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า  เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ได้ลงนามในประกาศกระทรวงมหาดไทย  เรื่องกำหนดจังหวัดที่จะทำการสำรวจรังวัดทำแผนที่เพื่อออกโฉนดที่ดินปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จำนวนทั้งสิ้น 69  จังหวัด โดยที่ดินดังกล่าวไม่รวมท้องที่ที่ทางราชการได้จำแนกให้เป็นเขตป่าไม้ถาวร และที่ดินต้องห้ามมิให้ออกโฉนดที่ดิน ตามข้อ 14 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 เช่น ที่สาธารณประโยชน์ เขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติ พื้นที่ที่มีความลาดชันเกิน 35 เปอร์เซ็นต์ และที่สงวนหวงห้ามอื่นๆ ฯลฯ เป็นต้น

“การออกโฉนดที่ดินประจำปีงบประมาณ 2566 จำนวน  69 จังหวัด รวมกว่า 100,000 แปลง เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในการเร่งรัดออกโฉนดที่ดิน เพราะโฉนดคือชีวิต ซึ่งกว่า 3 ปีกรมที่ดินได้เร่งรัดออกโฉนดที่ดินไปแล้วกว่า 300,000 แปลง และในเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาลนี้จะเร่งให้ได้มากที่สุด” นายนิพนธ์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง