ซื้อ‘ไฟเซอร์’เพิ่ม เร่งฉีด100ล.โดส

ขวดวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค ที่เตรียมไว้สำหรับฉีดให้เด็กอายุ 5-11 ปี เก็บในตู้แช่ที่โรงพยาบาลในเมืองโรดไอแลนด์ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2564 (Getty Images)

ยอดติดเชื้อใหม่ลดเหลือ 5,126 ราย เสียชีวิต 53 ราย "ครม." เคาะซื้อไฟเซอร์เพิ่มอีก 30 ล้านโดส เล็งวัคซีนเจนฯ ใหม่พัฒนาใช้สำหรับเด็ก คาดส่งมอบไตรมาสแรกปี 2565 "บิ๊กตู่" รับมอบวัคซีนโมเดอร์นาจากสหรัฐ 1 ล้านโดส เตรียมใช้เป็นบูสเตอร์ "อนุทิน" วอนคนรอวัคซีนจอง รพ.เอกชน ฉีดวัคซีนเข็มแรกของรัฐบาลก่อน "ปลัด สธ." เร่งสาธารณสุขทั่ว ปท.จัดสัปดาห์รณรงค์ฉีดวัคซีน หวังถึง 100 ล้านโดสสิ้น พ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,126 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 5,014 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 4,891 ราย ค้นหาเชิงรุก 123 ราย เรือนจำ 104 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 8 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,076,135 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 7,748 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสม 1,972,553 ราย อยู่ระหว่างรักษา 83,093 ราย อาการหนัก 1,535 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 363 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 53 ราย เป็นชาย 26 ราย หญิง 27 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่อายุ 60 ปีขึ้นไป 38 ราย มีโรคเรื้อรัง 12 ราย ผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ใน จ.ปัตตานีและสงขลา จังหวัดละ 6 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 20,489 ราย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 23 พ.ย. ได้แก่ กทม. 765 ราย, สงขลา 456 ราย, นครศรีธรรมราช 330 ราย, สุราษฎร์ธานี 266 ราย, เชียงใหม่ 197 ราย, ปัตตานี 158 ราย, ชลบุรี 147 ราย, สมุทรปราการ 128 ราย, ตรัง 128 ราย, อุบลราชธานี 115 ราย

ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนเมื่อวันที่ 22 พ.ย. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 347,556 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ทั้งสิ้น 89,336,791 โดส

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีรายงานว่า ในช่วงท้ายการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ระบุถึงเรื่องวัคซีนว่า ถ้าเรามีวัคซีนเพียงพอ ให้เราคิดเรื่องการบริจาคให้กับประเทศเพื่อนบ้านดู ขณะที่ขณะนี้ไทยได้รับการบริจาควัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับบริจาควัคซีนโมเดอร์นาจากสหรัฐอเมริกา เดี๋ยวฝรั่งเศสจะมีบริจาควัคซีนไฟเซอร์อีก 4 แสนโดส

"วัคซีนโมเดอร์นานั้นจะให้ฉีดเป็นบูสเตอร์ เพราะหากเอามาฉีดเป็นเข็มแรกจะมีปัญหาในเข็มที่สอง เพราะวัคซีนดังกล่าวไม่ได้เป็นวัคซีนหลัก แต่เป็นวัคซีนทางเลือก" แหล่งข่าวอ้างคำพูด พล.อ.ประยุทธ์

จากนั้น นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ครม.มีมติรับทราบการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับปี 2565 จากบริษัท ไฟเซอร์ จำกัด (Pfizer) เพิ่มเติมจำนวน 30 ล้านโดส และเห็นชอบการลงนามในสัญญา Third Amendment to Manufacturing and Supply Agreement ระหว่างกรมควบคุมโรคและบริษัท ไฟเซอร์ จำกัด โดยให้อธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้มีอำนาจลงนามในสัญญาดังกล่าว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ

ซื้อไฟเซอร์เพิ่ม 30 ล้านโดส

นายธนกรกล่าวว่า ที่ผ่านมากรมควบคุมโรคได้เจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัท ไฟเซอร์ฯ จะจัดหาวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มเติมจำนวน 30 ล้านโดส โดยมีกำหนดส่งมอบในไตรมาสที่ 1-3 ของปี 2565 ซึ่งครอบคลุมกรณีที่บริษัท ไฟเซอร์ฯ ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงวัคซีนในประเทศไทย จากวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันให้เป็นวัคซีนที่มีการพัฒนาใหม่เมื่อมีการพัฒนาสำเร็จเป็นวัคซีน Gen ใหม่ที่เป็นวัคซีนสำหรับเด็ก

"การดำเนินการจัดซื้อวัคซีนเป็นตามสัญญา Manufacturing and Supply Agreement ที่เป็นสัญญาหลัก ทำให้มีจำนวนวัคซีนที่ประเทศไทยจัดซื้อจาก บจ.ไฟเซอร์ รวมทั้งสิ้น 60 ล้านโดส" นายธนกรกล่าว

ต่อมานายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาราชการชั่วคราว สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นาจำนวน 1 ล้านโดส จากรัฐบาลสหรัฐ (ครั้งที่ 2) อย่างเป็นทางการ

นายธนกรกล่าวว่า ไทยได้รับความช่วยเหลือวัคซีนจากสหรัฐ ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นมิตรแท้ในยามยาก โดยนายกฯได้ย้ำจะนำวัคซีนที่ได้รับมอบในครั้งนี้ไปกระจายฉีดให้อย่างทั่วถึงเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันและเพื่อความปลอดภัยของประชาชนไทย ส่วนอุปทูตสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐกล่าวยินดีที่มีส่วนสำคัญในการมอบวัคซีนจากสหรัฐ และภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนประเทศไทยในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการจัดสรรวัคซีนโมเดอร์นา 1 ล้านโดส ที่ได้รับบริจาคจากสหรัฐว่า การจัดสรรขึ้นอยู่กับกรมควบคุมโรคที่จะจัดสรรให้ทั่วประเทศ โดยสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการภายใน 2 สัปดาห์นี้ คือการฉีดวัคซีน ซึ่งได้กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและสำนักงานควบคุมโรคทั่วประเทศ เร่งปิดเกมในคนที่ยังไม่ได้ฉีดเข็ม 1 ที่มีอยู่ 2 ประเภทคือ รอวัคซีนต้องการเช่นไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ทั้งที่ไม่ควรรอ จึงขอให้ทิ้งวัคซีนที่จองไว้ก่อน แล้วมารับของรัฐบาลอย่าไปรอ แล้วค่อยไปหาวิธีขอคืนวัคซีนที่จองไว้ เช่น อาจเป็นส่วนลดจากโรงพยาบาลเอกชน คนที่จองโมเดอร์นาไปแล้วยังไม่ได้ให้มาบอกจะจัดวัคซีนไฟเซอร์ให้

ถามว่า สธ.จะเจรจากับสมาคมโรงพยาบาลเอกชนให้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เจรจา ขอให้มาฉีดเอง

ซักว่าหมายถึงจะเจรจาเรื่องการชดเชย หากทิ้งวัคซีนที่จองไว้แล้วมารับของรัฐ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีชดเชย หรือไปเจรจาเพื่อขอคืนเงินอะไรให้ ไม่มี เพราะไม่ใช่หน้าที่ แต่หมายถึงว่าใครจองไปแล้วยังไม่รู้ว่าจะได้ฉีดเมื่อไหร่จากโรงพยาบาลเอกชน ขอให้มาฉีดของรัฐ เพราะเคยบอกไปแล้วว่าไม่ต้องจอง

ถามว่าในสิ้นเดือน พ.ย.นี้จะฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมาย 100 ล้านโดสหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า วันนี้ฉีดวัคซีนทะลุไป 90 ล้านโดส และสิ้นเดือนนี้ตัวเลขคงใกล้เคียงแล้ว เห็นได้ว่าความสามารถในการฉีดวัคซีนได้วันละล้านเข็มสบายมาก แต่ตอนนี้ฉีดน้อยลง เพราะคนฉีดไปเยอะ และที่ฉีดน้อยส่วนใหญ่ห่างไกลข้อมูล ได้สั่งการผู้ที่เกี่ยวข้องไปสำรวจและเร่งดำเนินการแล้ว และตอนนี้กำลังเร่งเพื่อให้ฉีดเข็ม 3 ให้ได้มากที่สุด เพื่อจะได้มีผลต่อการผ่อนคลายมาตรการให้มากที่สุด

รองนายกฯ กล่าวว่า ในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันที่ 26 พ.ย.นี้ จะหารือเพื่อผ่อนคลายมาตรการให้ได้มากที่สุด แต่ขอให้ดูสถานการณ์ เช่น ในยุโรป ที่กลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง ส่วนสถานการณ์ของบ้านเราเริ่มนิ่งแล้ว และอยากให้นิ่งไปให้นานที่สุด เราต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน

"เรื่องที่กลุ่มผู้ประกอบการสถานบันเทิงต้องการให้ผ่อนคลายเร็วขึ้น จะมีการหารือกันในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เราจะพยายามหามาตรการที่ดีที่สุด และให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของประชาชนส่วนใหญ่ให้ได้ มาจนถึงขณะนี้สามารถผ่อนคลายมาตรการไปได้มากแล้ว และเห็นใจเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด้วยเช่นกันตอนนี้มีตัวกรองเรื่องความเสี่ยงคือการฉีดวัคซีน โดยการทยอยฉีดเข็ม 3 ไปได้เรื่อยๆ ขณะเดียวกันขอให้ทุกคนระมัดระวังอยู่ตลอดเวลาแม้ฉีดวัคซีน 3 เข็มแล้ว" รองนายกฯ กล่าว

เร่งเป้าวัคซีน 100 ล.โดส

ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขส่วนกลางและส่วนภูมิภาคนอกสถานที่ครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2565

นพ.เกียรติภูมิกล่าวตอนหนึ่งว่า ได้ย้ำนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกแห่งให้จัดทีมฉีดวัคซีนโควิดเชิงรุก เพื่อเร่งรัดการฉีดวัคซีนในผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และขยายการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มแรงงานต่างด้าว พร้อมให้จัดกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีนโควิด-19 ระหว่างวันที่ 27 พ.ย.-5 ธ.ค.2564 เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 100 ล้านโดส เพิ่มความครอบคลุมวัคซีนให้ถึง 70% ของประชากร ซึ่งจะช่วยควบคุมการแพร่ระบาด และทำให้เราสามารถเดินหน้าเปิดประเทศได้อย่างปลอดภัย

วันเดียวกัน สหภาพคนทำงานบันเทิงร่วมกับกลุ่มนักดนตรีมีเสียงจำนวน 10 คน ชุมนุมบริเวณแยกสวนมิสกวัน โดยตั้งเครื่องดนตรีเพื่อแสดงออกคัดค้านคำสั่งศบค.ที่ให้เลื่อนเปิดสถานบันเทิงไปวันที่ 16 ม.ค.65 โดยขอให้เปิดวันที่ 1 ธ.ค. เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนมารับหนังสือดังกล่าว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียืนยันว่า นายกฯ กำลังให้ ศบค.เร่งพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสม ซึ่งฝ่ายผู้ประกอบการต้องร่วมมือร่วมรับผิดชอบ เน้นเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาด การฉีดวัคซีน มาตรการของสถานประกอบการ การขึ้นทะเบียน เร่งเปิดให้เร็วขึ้น

ด้าน พญ.สุนัยนา กิจเกษตรไพศาล ผู้จัดการทั่วไป แซดพี เทอราพิวติกส์ ซิลลิค ฟาร์มา ประเทศไทย แจ้งว่า วันที่ 23 พ.ย. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติเพิ่มแหล่งผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาสำหรับวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นาแล้ว ซึ่งจะทำให้บริษัทซิลลิคสามารถนำเข้าวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นางวดถัดไปจำนวน 1.4 ล้านโดส จากแหล่งผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะเริ่มทยอยนำเข้าในช่วงประมาณปลายเดือน พ.ย.ถึงต้นเดือน ธ.ค.นี้ โดยเมื่อเข้ามาแล้วจะส่งมอบให้องค์การเภสัชกรรมและสมาคมโรงพยาบาลเอกชนต่อไป ทำให้ยอดรวมการส่งมอบวัคซีนทั้งหมดในปี 2564 รวมจำนวน 1.9 ล้านโดส.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง