ลุ้นศบค.ชุดใหญ่ เคาะคลายล็อก ขยายฉุกเฉิน2ด.

ยอดติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 6,335 ราย เสียชีวิต 37 ราย จับตา “บิ๊กตู่” นั่งหัวโต๊ะ ศบค.ชุดใหญ่ 26 พ.ย. เคาะปรับพื้นที่ควบคุมโควิดและมาตรการคลายล็อกผับ-บาร์-คาราโอเกะ ศปม.ชง ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 2 เดือน คร่อมปีใหม่ “สธ.” แผนเปิด ปท.ระยะ 2 นักท่องเที่ยวเข้าไทยใช้แค่ ATK ไม่ต้องตรวจ RT-PCR พร้อมเซ็นสัญญาซื้อไฟเซอร์อีก 30 ล้านโดสและยาโมลนูพิราเวียร์ 5 หมื่นคอร์ส มูลค่า 500 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,335 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 6,298 ราย จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 6,092 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 206 ราย เรือนจำ 30 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 7 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 7,218 ราย อยู่ระหว่างรักษา 80,657 ราย อาการหนัก 1,508 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 363 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 37 ราย เป็นชาย 17 ราย หญิง 20 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 33 ราย มีโรคเรื้อรัง 4 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ใน กทม. 5 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,088,327 ราย หายป่วยสะสม 1,987,089 ราย เสียชีวิตสะสม 20,581 ราย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กทม. 672 ราย, สงขลา 455 ราย, นครศรีธรรมราช 429 ราย, สุราษฎร์ธานี 263 ราย, เชียงใหม่ 258 ราย, สมุทรปราการ 206 ราย, ชลบุรี 204 ราย, ปัตตานี 178 ราย, ยะลา 171 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 154 ราย ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 24 พ.ย. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 574,772 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ทั้งสิ้น 90,468,955 โดส

มีรายงานว่า ในวันศุกร์ที่ 26 พ.ย. เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา​ 2019 (โควิด-19)​ หรือ ศบค.จะเป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ โดยทาง ศปก.สธ.จะเสนอให้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย และเสนอให้พิจารณาปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร และมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในส่วนของกิจการและสถานบันเทิง (ผับ-บาร์-คาราโอเกะ) รวมทั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะเสนอพิจารณาเรื่องการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรที่จะครบกำหนดในวันที่​ 30 พ.ย.64

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า​ ศบค.จะมีการพิจารณาการปรับลดพื้นที่โซนสี ขอให้ไม่มีพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม จากเดิมที่คงเหลืออยู่ 6 จังหวัด ได้แก่ ตาก นครศรีธรรมราช สงขลา นราธิวาส ปัตตานี และยะลา โดยจะปรับทั้ง 6 จังหวัดกล่าวไปอยู่โซนสีอื่น ส่วนการพิจารณาต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ทางศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) จะเสนอขอให้ขยายเวลาการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีกประมาณ 2 เดือน เพื่อให้คร่อมช่วงเทศกาลปีใหม่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า สธ.จะเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ ถึงมาตรการเปิดประเทศระยะที่ 2 หลังจากเดือน ธ.ค. น่าจะมีมาตรการผ่อนคลายประเทศให้มีความสะดวกมากกว่าเดิม เช่น การใช้ ATK มากขึ้น เมื่อเดินทางมาที่ประเทศไทยไม่ต้องตรวจแบบ RT-PCR แต่ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ศบค. ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติมีมติเห็นชอบในเรื่องดังกล่าวไปก่อนหน้านี้

เมื่อซักถึงผับ บาร์ คาราโอเกะ จะผ่อนคลายอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า เราขอให้ดำเนินการมาตรการโควิดฟรีเซตติง ให้ผู้ประกอบการฉีดวัคซีนให้พนักงาน ตรวจสอบลูกค้าต้องฉีดวัคซีนให้ครบโดสก่อนเข้าร้าน หากทำกันได้ แสดงให้เห็นว่าทำได้ เราก็พร้อมผ่อนคลาย แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่ไปร้านที่ไหนยังเห็นคนไม่ฉีดวัคซีน หากพนักงานไม่ฉีดวัคซีนถือว่าน่ากลัวมาก เป็นสิ่งที่ตนขอให้กรมควบคุมโรค กรมอนามัย เร่งทำความเข้าใจให้มีมาตรการตรงนี้ให้เข้มข้นที่สุด มิฉะนั้นจะขยับลำบาก

“นายกฯ กังวลมากเรื่องคลัสเตอร์สถานบันเทิง ซึ่งเรื่องความเสี่ยงติดเชื้อ เรื่องทำมาหากิน นายกฯ สั่งการมาตลอด ให้ทำนู่นทำนี่ มียาอะไรดีๆ ก็บอกให้เร่งจัดหาให้ได้ และวันนี้พึ่งมีการเซ็นสัญญาซื้อวัคซีนและยาเพิ่มเข้ามา ทำให้เกิดความมั่นใจแก่ผู้มีอำนาจในรัฐบาลในการตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการต่างๆ และ ประชาชน จะได้เร่งกลับมาทำมาหากินในทุกมติ อย่างไรก็ดี ทุกครั้งที่มีคลัสเตอร์ ทุกครั้งที่มีการระบาดใหญ่ ก็มาจากสถานบันเทิงที่ทำผิดกฎหมาย อย่างที่แอบเปิดใจกลางเมืองกรุง รัฐได้พยายามขอร้องให้ปฏิบัติตาม ตรงนี้เป็นเรื่องสำนึก เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องเร่งไปจัดการให้เรียบร้อย” รองนายกฯ กล่าว

ซักว่าต้องขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า กรณีโควิด การมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ทำให้การใช้ชีวิตเปลี่ยนไป แต่เป็นการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ

ต่อมานายอนุทินเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 11/2564 โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กลาโหม มหาดไทย แรงงาน ศึกษาธิการ การต่างประเทศ การท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ UHOSNET โรงพยาบาลเอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุข ผู้แทนสภาวิชาชีพและองค์กรอิสระ ร่วมการประชุม

นายอนุทินกล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ 1.การปรับแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้เดินทางในการเข้าราชอาณาจักร ตามแผนการเปิดประเทศ ระยะที่ 2 ระหว่างวันที่ 1-31 ธ.ค.2564 โดยจะเริ่มใช้ในวันที่ 16 ธ.ค.2564 ได้แก่ การปรับวันกักตัว ปรับวิธีการตรวจในทุกรูปแบบที่เดินทางเข้ามาในประเทศ 2.การยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกหนังสือรับรองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค กรณีโรคโควิด-19 แบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยให้บริการผ่านช่องทาง e-Vaccine Passport และ 3.เห็นชอบให้กรมการแพทย์จัดทำแผนปฏิบัติการจัดหายาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) รวมทั้งความก้าวหน้าการจัดหายารักษาโรคโควิด-19 โมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir)

จากนั้นนายอนุทินเป็นประธานพิธีลงนามสัญญาจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 (ไฟเซอร์) จำนวน 30 ล้านโดส สำหรับปี 2565 ระหว่าง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ น.ส.เด็บบราห์ ไซเฟิร์ท ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไฟเซอร์ประเทศไทย และอินโดไชน่า รวมทั้งยังมีพิธีลงนามสัญญาการจัดซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ระหว่างรัฐบาลไทย โดย นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และ ดร.แมรี เสรฐภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 5 หมื่นคอร์สการรักษา วงเงิน 500 ล้านบาท ตามที่ ครม.อนุมัติ

ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การพิจารณาเปิดสถานบันเทิงของ ศบค.ไทยเคยได้รับบทเรียนจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงย่านทองหล่อมาแล้ว ฉะนั้นผู้รับผิดชอบการพิจารณาให้เปิดสถานบันเทิง ต้องคิดให้รอบคอบ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง