มหาสมปองสึกเล่นการเมือง/ปชป.ส่อเดือด

"พระมหาสมปอง" สึก 29 ธันวา. เตรียมซบเพื่อไทยทันที "วัน อยู่บำรุง" เผยเตรียมเก้าอี้รอแล้ว เข้าทีมโฆษกพรรค ส่วนประชาธิปัตย์เดือดอีก "อันวาร์" ขู่แฉปัญหาความตกต่ำของพรรค เกิดจากผู้บริหารพรรคจํานวนหนึ่งที่เห็นประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ของพรรค ผู้บริหารพรรคบางคนถูกครอบงําจนทําให้วุฒิภาวะของการเป็นผู้นําที่ดีของพรรคเสียไป

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. เวลา 08.40 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์หลังจากพรรคเพื่อไทยยื่นร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ.... และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่..) พ.ศ.... ว่าขั้นตอนหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายจะตรวจสอบความถูกต้องก่อนบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม แต่ยังต้องรอร่างกฎหมายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และของพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เมื่อ ส.ส.เสนอร่างกฎหมายเข้ามา ตามข้อบังคับการประชุมต้องบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด แต่หากมีร่างกฎหมายที่เสนอเข้ามาเพิ่มเติมและมีสาระสำคัญเดียวกัน ก็สามารถนำมาพิจารณาร่วมกันได้

“คาดว่าอย่างเร็วที่สุดที่ประชุมรัฐสภาจะพิจารณาเรื่องนี้ระหว่างเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ ปี 65 ซึ่งเป็นช่วงก่อนปิดสมัยประชุมรัฐสภา เพราะไม่สามารถพิจารณาในปีนี้ทัน เนื่องจากการประชุมสัปดาห์หน้าได้กำหนดระเบียบวาระไว้แล้ว” นายชวนกล่าว

นายชวนกล่าวด้วยว่า ไม่ยืนยันว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะแล้วเสร็จในวาระที่ 3 ทันในสมัยการประชุมรัฐสภานี้หรือไม่ เนื่องจากจะต้องรอพิจารณาอีกครั้งว่าที่ประชุมจะพิจารณาได้เร็วหรือไม่

เวลา 10.00 น. วันเดียวกันนี้ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระลูกวัดสร้อยทอง เดินทางไปกราบลาพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว หลังตัดสินใจเตรียมลาสิกขา ในวันที่ 29 ธ.ค. ที่วัดสระเกศ

พระมหาสมปองเปิดเผยว่า หลังสึกจะเดินหน้าทำธุรกิจครบวงจรภายใต้แบรนด์ 'แม่ปอง' เช่น ทำแบรนด์สินค้า เปิดค่ายเพลง เขียนหนังสือ ซึ่งรายได้จากทั้งหมดจะหัก 10% เพื่อบริจาคคืนสู่สังคมด้วย ด้านการเมืองอาจเข้าไปทำงานกับพรรคเพื่อไทย เบื้องต้นได้คุยกับนายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ไว้แล้ว

ขณะที่นายวันเผยว่า เบื้องต้นได้มีการพูดคุยกับพระมหาสมปองในประเด็นนี้หลายครั้ง และเมื่อรับทราบข่าวว่าท่านจะลาสิกขา จึงได้ไลน์ไปถามพระมหาสมปองถึงข้อเท็จจริง ซึ่งพระมหาสมปองยืนยันมีกำหนดลาสิกขาจริง และหลังจากลาสิกขาแล้วพร้อมมาทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยในงานที่เกี่ยวข้องกับทีมโฆษกของพรรค

นายวันเปิดเผยว่า เบื้องต้นตนได้ประสานกับผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อให้รับทราบเจตนารมณ์ของพระมหาสมปอง โดยรายงานไปยังแกนนำพรรคคนสำคัญ ทั้งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ซึ่งทุกคนในพรรคต่างเปิดกว้างพร้อมรับบุคคลที่สนใจทางการเมืองเข้าร่วมงานพรรค อย่างไรก็ตาม ต้องรอความชัดเจนของพระมหาสมปองหลังจากลาสิกขาแล้ว โดยจะมีการนัดหมายพูดคุยกับแกนนำพรรคอีกครั้ง

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทุกคนทุกฝ่ายอยากเข้ามาร่วมงานทางด้านการเมือง โดยเฉพาะคนที่มีความรู้ความสามารถ ไม่ว่าจะไปอยู่พรรคใดก็ตาม พรรคเพื่อไทยเปิดกว้างอยู่แล้ว หากไม่มีข้อห้ามและไม่มีลักษณะที่ขัดกับข้อบังคับเรื่องสมาชิกภาพหรือเรื่องต่างๆ เรายินดีที่ใครจะมาก็ได้ ส่วนจะมาอยู่ตำแหน่งใดนั้น มีกระบวนการพิจารณาของพรรคว่าจะมีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร

“เราจะไปประกาศรับหรือไม่รับไม่ได้ เรายินดีรับทุกคนทุกฝ่าย โดยเฉพาะคนที่มีความสนใจทางด้านการเมือง ที่จะมาทำให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมือง มีความยินดี แต่เมื่อเข้ามาเป็นลักษณะบุคคล ก็จะมีการพิจารณาบุคคลว่ามีคุณสมบัติ มีลักษณะต้องห้าม รวมถึงข้อห้าม ข้อห่วงใย ข้อกังวลหรือไม่ ที่จะเป็นบวกเป็นลบกับตัวท่านเอง กับพรรคเพื่อไทยและกับภาพรวม ต้องมีการพิจารณาในหลายแง่มุมให้เกิดความรอบคอบ หากไม่มีข้อกังวลเหล่านี้ ถือเป็นเรื่องที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างดีกับทุกฝ่าย ทุกคน” นพ.ชลน่าน กล่าว

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้โพสต์ข้อความระบุว่า พส.เอ๋ย อยากมีมิตรให้ทำธุรกิจดังตั้งใจ อยากมีศัตรูให้ไปทำงานการเมือง เดี๋ยวจะรู้เองว่า “ไม่น่าเลยยยยย” พร้อมกับโพสต์อีกโพสต์ว่า รับปากแล้วมิใช่หรือว่าจะไม่พูดเรื่องการเมือง ในขณะครองผ้าเหลืองอยู่ ถ้าจะพูดต้องลาสิกขาไปก่อน ยังไม่ทันไรเลยจะรีบร้อนไปถึงไหนท่าน พส.

เด็ก ปชป.ขู่แฉแกนนำพรรค

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์มีประเด็นร้อนเช่นกัน เมื่อนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และอดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในการประชุมใหญ่สามัญประจําปีพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ ตนได้เตรียมข้อมูลที่จะนําเสนอให้ที่ประชุมใหญ่พรรคได้รับทราบถึงปัญหาความตกต่ำของพรรคว่าเกิดจากผู้บริหารพรรคจํานวนหนึ่งที่เห็นประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ของพรรค และผู้บริหารพรรคบางคนก็ถูกครอบงํา จนทําให้วุฒิภาวะของการเป็นผู้นําที่ดีของพรรคเสียไป

“ผมจะขอพูดความจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ทั้งหมด ให้สมาชิกพรรคทั้งประเทศได้มีโอกาสรับฟัง ซึ่งนี่อาจจะเป็นการพูดครั้งสุดท้าย ก่อนที่ผมจะถูกผู้บริหารสั่งให้กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ขับไล่ผมออก หรือประกาศไม่ส่งผมลงสมัครรับเลือก ตั้งในครั้งต่อไป”นายอันวาร์กล่าว

นายอันวาร์กล่าวอีกว่า ส่วนคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคทั่วประเทศ เมื่อได้รับฟังข้อเท็จจริงที่ตนพูดแล้วจะเห็นเป็นประการใด และจะแก้ไขอย่างไร ก็สุดแต่ที่ประชุมจะดําเนินการ เพราะตนถือว่าได้ทําหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

ส่วนนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ในวันที่ 18 ธ.ค. พรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี โดยมีวาระพิเศษเลือกตั้งรองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคใต้ และรองเลขาธิการพรรค ในฐานะที่ตนเสนอตัวเป็นรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้เชิญตน และนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา เข้าพบ โดยเราทั้งสองคนยืนยันจะต่อสู้ตามวิถีทางประชาธิปไตยในพรรค ส่วนผลจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับที่ประชุมของพรรค ยืนยันจะร่วมกันทำงานต่อไป อย่างไรก็ตาม ส่วนตนได้พูดกับนายจุรินทร์ว่านายเดชอิศม์เป็น ส.ส. 1 สมัย เหมาะสมเป็นรองเลขาธิการมากกว่า สำหรับตนเป็น ส.ส.มา 9 สมัย จึงอาสาและตั้งใจจะเป็นรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ในครั้งนี้ ดังนั้นขอความร่วมมือและความเมตตาจากทุกท่านในที่ประชุมใหญ่ช่วยสนับสนุน
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่กล่าวกับประชาชน จ.ยะลา แนะนำให้เลี้ยงไก่บ้านละ 2 ตัว เพราะไม่เข้าใจปัญหาเกษตร เลี้ยงไก่เป็นร้อยตัวไม่มีวันรวย เพราะเจ้าสัวผูกขาดการเกษตร โดยนายเสกสกลกล่าวว่า การที่นายกฯ ส่งเสริมให้เลี้ยงไก่นั้นเป็นเจตนาที่ดี นายกฯ ต้องการให้ประชาชนยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวทางพ่อหลวงรัชกาลที่ 9

พูดเล่น ไปตีความกันเยอะแยะ

เขากล่าวว่า นายกฯ มองการณ์ไกลอยากเห็นประชาชนรู้จักหารายได้ทำการเกษตรอย่างพอเพียงให้มีมูลค่าในแปลงเกษตรของตนเองให้มีรายได้สูงขึ้นและลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน นายกฯ เน้นการปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ในพื้นที่จำกัดที่มี และพูดถึงการเลี้ยงไก่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้บ้าง ลดรายจ่ายในครอบครัว ซึ่งนายเมธาเป็นถึงเลขาฯ ครป. มีความรู้ มีสมอง ก็น่าที่จะเข้าใจนายกฯ และก็ไม่ควรเอาเรื่องนี้ไปเปรียบเทียบกับเจ้าสัว เพราะคนละเรื่องกัน มีแต่คนไร้สมองเท่านั้นที่เอาไปผูกโยงกับนายทุนหรือเจ้าสัวได้

นายเสกสกลกล่าวว่า ส่วนการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและชาวนา รวมถึงประชาชนทุกกลุ่มอาชีพนั้น นายกฯ และรัฐบาลมีนโยบายให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว เพราะนายกฯ ให้ความสำคัญ และทราบดีถึงความเดือดร้อนของประชาชน

“ขอให้ประชาชนได้เข้าใจตัวนายกฯด้วยว่ามีเจตนาดี อยากแนะนำในเรื่องของการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้ โดยไม่คิดว่าจะทำให้ประชาชนร่ำรวยเช่นเดียวกันกับเจ้าสัว ซึ่งนายเมธาไม่ควรเอามาเชื่อมโยงกัน เพื่อหวังจะโจมตีนายกฯ ทั้งที่รู้เจตนาของนายกฯอยู่แล้ว และหากว่างมาก เอาเวลาไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้ อีกทั้งที่ผ่านมาตนเองยังไม่เห็นว่าที่ผ่านมา ครป.ได้เคยทำประโยชน์อะไรเพื่อประชาชนบ้าง นอกจากสนับสนุนกลุ่มม็อบต่างๆ ทำประเทศประชาชนเดือดร้อนไม่หยุด" นายเสกสกลกล่าว

ที่สวนเบญจกิติ ถนนพระรามที่ 4 เขตคลองเตย กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.การคลัง, พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, พล.อ.ศิริพจน์ รำไพกุล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก, นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ และนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกการส่งมอบ-รับมอบสวนป่าเบญจกิติ ระยะที่ 2-3 บางส่วน ระหว่างกองทัพบกกับกรมธนารักษ์และกรมธนารักษ์กับกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าในการเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกการส่งมอบ-รับมอบสวนป่า “เบญจกิติ” ไม่มีกำหนดการให้นายกฯ กล่าวมอบนโยบายเหมือนทุกงานที่ผ่านมา และนายกฯ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ โดยระบุว่า “ไม่เอา พูดเล่น ไปตีความกันเยอะแยะ”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง