อึ้ง!นิดทัวร์นอกเกือบครึ่งเดือน

ชีพจรลงเท้า “เศรษฐา” ยกทัวร์นกขมิ้นลุย 4 บุรี สุพรรณบุรี-กาญจนบุรี-ราชบุรี-เพชรบุรี บอกยึดประชาชนเป็นที่ตั้งมากกว่าพื้นที่ใคร ก่อนนั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.สัญจรเมืองเพชรอังคารนี้ พุธบินไปยุโรป จบด้วยญี่ปุ่น อยู่ต่างประเทศยาว

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ของพรรคร่วมรัฐบาล ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์หรือไม่ ว่าตนเอาประชาชนเป็นที่ตั้งก่อน เป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้วที่จะไปทุกภาคส่วน ส่วนตัวแม้จะเป็นนายกฯ ที่มาจากพรรคเพื่อไทยก็ตาม แต่ก็ลงพื้นที่ที่มีทั้ง สส.พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย ต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาลงพื้นที่ภาคใต้ของพรรครวมไทยสร้างชาติ  แต่หลักการคือดูแลพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ฉะนั้นการลงพื้นที่ 4 บุรีครั้งนี้เป็นการไปดูแลประชาชน ไปดูว่าตรงไหนสามารถช่วยอะไรได้บ้าง ส่วนเรื่องการกระชับความสัมพันธ์นั้น แน่นอนว่าเราอยู่ร่วมกันหลายพรรค การให้เกียรติซึ่งกันและกันเป็นเรื่องสำคัญ

ต่อมาเวลา 12.00 น. นายเศรษฐา  พร้อมด้วยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และคณะ เดินทางมายังวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ.สุพรรณบุรี โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี และ สส.พรรคชาติไทยพัฒนา มารอต้อนรับ

ทันทีที่มาถึง นายเศรษฐาได้สักการะหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ฯ พร้อมถวายพวงมาลัย และห่มผ้าหลวงพ่อโต ก่อนที่จะกราบนมัสการพระธรรมพุทธิมงคล หรือหลวงพ่อสะอิ้ง เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี โดยนายเศรษฐาได้ถวายผ้าไตรพร้อมเครื่องไทยธรรม ขณะที่เจ้าอาวาสได้มอบหลวงพ่อโตจำลองวัดป่าเลไลยก์ปางราหู รุ่นบูรณะวิหาร 2565 ขนาดหน้าตัก 3 นิ้ว เนื้อทองเหลือง เหรียญหลวงพ่อโตรุ่น เนื้อทองแดง รุ่นฉลองสมโภชพระอาราม 100 ปี วัดป่าเลไลยก์ สร้างปี 2562 เป็นที่ระลึก

ทั้งนี้ นายเศรษฐาได้สนทนาธรรมกับพระธรรมพุทธิมงคล โดยพระธรรมพุทธิมงคลได้สอบถามว่า สบายดีไหม นายเศรษฐาตอบว่า ครับ ก่อนที่เจ้าอาวาสจะให้พรว่า อากาศที่ร้อน เมื่อร้อนมาเราก็ต้องอยู่กันจนได้ โลกมันมีร้อนมีเย็น ถ้าใจเราเย็นแล้วกันสบาย ทั้งหมดอยู่ที่ใจเรา ก่อนที่พระธรรมพุทธิมงคลจะจับมือนายเศรษฐาพร้อมให้พรอีกครั้งว่า ขอให้โตไปเรื่อยๆ นะ สาธุๆ ต้องโตไปเรื่อยๆ อย่าเล็กลง

จากนั้นเวลา 13.45 น. นายกฯ ได้เดินทางมายังประตูระบายน้ำลาดน้ำเตียน ต.ศาลาขาว อ.เมืองฯ เพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาในพื้นที่ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปภาพรวมของจังหวัด โดยผู้ว่าฯ รายงานช่วงหนึ่งว่า ปัญหาของ จ.สุพรรณบุรีคือน้ำแล้งที่ฝ่ายการเมืองพยายามแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง วันนี้ที่นายกฯ มาถึงสถานีสูบน้ำ ถือเป็นจุดหนึ่งในการแก้ไขปัญหา

ด้านนายกฯ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางมา จ.สุพรรณบุรี มาไหว้พระและมาทานอาหารที่นี่ ได้ทานต้มยำปลาม้า  เป็นอาหารที่อร่อย และขนมสาลี่ ตนเป็นคนชอบกินขนม และได้ทานขนมชั้นร้านแม่บ๊วย ยอมรับว่าเป็นขนมชั้นที่อร่อยที่สุดที่ได้เคยทานมา จึงได้คุยกับผู้ว่าฯ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยว่า จริงๆ แล้ว จ.สุพรรณบุรีเป็นเมืองน่าเที่ยว เราจะพยายามผลักดันให้เป็นเมืองน่าเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรม อาหารการกิน เรื่องเชิงศาสนา จึงได้สั่งการไป และหวังว่าชาวไทยทุกคนทั่วโลกจะได้มาเที่ยวที่นี่ และได้ลิ้มรสของดีๆ จาก จ.สุพรรณบุรี

นายกฯ กล่าวอีกว่า และที่มาวันนี้ได้ทราบมานานแล้วว่าจังหวัดสุพรรณบุรีมีวิธีการบริหารจัดการน้ำดีที่สุดผ่านด้านกรมชลประทานและหน่วยทหารพัฒนา ในสมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี และวันนี้ นายวราวุธเป็นรัฐมนตรี มาสืบสานเจตนารมณ์คุณพ่อต่อมา และการเป็นรัฐมนตรีก็เป็นที่ประจักษ์  การบริหารจัดการน้ำเป็นเรื่องสำคัญ และได้มีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน โครงการต่างๆ ที่ได้เสนอมาในรอบนี้ทางรัฐบาลได้อนุมัติไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรมชลประทานหรือหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อบริหารจัดการเรื่องน้ำให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ถือว่าแม้ปัญหาจะแก้ไม่หมด แต่ก็ถือเป็นจังหวัดต้นแบบที่อดีตนายกฯ ได้ทำไว้อย่างดีมาก

เวลา 14.30 น. นายกฯ ได้เดินทางต่อไปยังประตูระบายน้ำจรเข้สามพัน ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง โดยเมื่อเดินทางถึงนายกฯ ได้พบปะประชาชนและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก่อนจะรับฟังบรรยายจากผู้อำนวยการฝายคลองระบายจรเข้สามพัน  ว่าประตูระบายน้ำจรเข้สามพันเป็นประตูที่ระบายน้ำสู่แม่น้ำท่าจีน เดิมทีจุดนี้มีฝายเก่าที่ชำรุดเสียหายและสร้างมาตั้งแต่ปี 2537 กรมชลประทานจึงวางทำประตูใหม่ โดยมีประตูระบายน้ำจำนวน 6 เมตร จำนวน 3 ช่องระบายน้ำ สูงสุด 165 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สำหรับการก่อสร้างแล้วเสร็จ 90% โดยคาดว่าในเดือนหน้าโครงการนี้จะเสร็จสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ได้ให้คำแนะนำหลังเห็นว่าที่ประตูกั้นน้ำมีปลากระโดดขึ้นไปตกค้างเนื่องจากไม่สามารถทำบันไดปลาโจนได้ เพราะต้องดูระดับน้ำแต่ละช่วง โดยนายกฯ ให้คำแนะนำว่า ถ้าเป็นไปได้ให้มีการนำแหหรือตาข่ายมากั้น ปลาที่พยายามกระโดดขึ้นไป ก็จะไม่ค้างตามคันของประตูระบายน้ำ

หลังจากนั้นนายเศรษฐาได้เดินทางไปสักการะพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง) ที่วัดเขาทำเทียม ต.อู่ทอง พร้อมกราบนมัสการและสนทนาธรรมกับพระสุพรรณวชิราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี โดยเจ้าคณะจังหวัดกล่าวกับนายกฯ ว่า เป็นเรื่องที่ดีที่นายกฯ  มาเหยียบสุพรรณฯ มาดูน้ำ ถ้ามันแล้งก็ช่วยดูด้วย และขอฝากรัฐมนตรีของอาตมา (นายวราวุธ ศิลปอาช) ด้วย โดยนายกฯ กล่าวว่า ไม่ต้องฝาก เพราะท่านเก่ง ท่านดูแลตัวเองได้” โดยเจ้าคณะจังหวัดกล่าวว่า แต่อยู่ที่นายกฯ เขาดูแลตัวเองดี แอ็กทีฟมาก แต่ถ้าเกิดนายกฯ ไม่เอา เขาก็อยู่ไม่ได้ โดยนายเศรษฐากล่าวว่า “เอาอยู่แล้วครับ ไม่เอาไม่ได้หรอกครับ”

เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรียังกล่าวด้วยว่า ขอฝากเรื่องการกระตุ้นเกี่ยวกับเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรมในประเทศ ผ่านระบบการศึกษา หรือการปฏิบัติธรรมของข้าราชการ ถ้าคนมีธรรมะมาก ปัญหาทุกอย่างจะน้อยลง ขอฝากไปยังกระทรวงวัฒนธรรมด้วย เอาธรรมะมาช่วยประเทศ นายกฯ จะได้บริหารประเทศได้สบายขึ้น คนมีธรรมะมากตัณหาจะน้อย แต่ถ้าคนมีธรรมะน้อย ตัณหาจะมาก โดยหลักจะง่ายๆ แค่นี้ โดยนายเศรษฐากล่าวว่า “รับไปปฏิบัติครับ”

จากนั้นเวลา 17.00 น. นายเศรษฐาเดินทางถึงบ้านเรือนไทย ตำบลวังน้ำซับ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านเรือนไทยของนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เพื่อร่วมรับประทานอาหารเย็น ในโอกาสเดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี

เมื่อนายกฯ เดินทางถึงได้มีการแสดงรำกลองยาวพร้อมผูกผ้าขาวม้าต้อนรับด้วย ทั้งนี้ ได้มีการขึ้นป้ายสีแดง เป็นรูปนายกฯ พร้อมข้อความว่า ชาวจังหวัดสุพรรณบุรีขอต้อนรับ “ฯพณฯ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ด้วยความยินดียิ่ง เราไม่เคยลืมกัน ต่อมานายกฯ ได้เดินเยี่ยมชมบูธโอท็อปของดีต่างๆ ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี จากนั้นนายกฯ ได้ร่วมโต๊ะรับประทานอาหาร 17 เมนูกับนายประภัตร

นายประภัตรกล่าวว่า ตื่นเต้นจริงๆ เตรียมงานมา 3-4 วัน วันนี้ตื่นเต้น ทุกคนมา 500 ชีวิตที่มาร่วมงาน และบ้านหลังนี้มีนายกฯ มาเยือนแล้ว 4 คน คือนายบรรหาร ศิลปอาชา, นายทักษิณ ชินวัตร,  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายเศรษฐา

ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า เป็นนายกฯ คนที่ 4 ที่ได้มาที่นี่ แต่ยืนยันแม้จะตัวใหญ่ แต่ภาษาไทยไม่แน่ใจ ใช้คำว่าอะไรแปลภาษาอังกฤษใช้คำว่า humbled with the whole expereince ทั้ง 3 ท่านเป็นนายกฯในตำนานทั้งนั้น ขออนุญาตมาเรียนรู้ มารู้จักกับพี่น้องประชาชนที่นี่ทุกคน มีความซาบซึ้งใจ ทุกท่านให้รับการต้อนรับ ตนเข้าใจว่าอย่างเต็มใจและดูได้จากแววตา และจะกลับมาอีก

วันเดียวกัน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ มีกำหนดการเดินทางไปประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2567 ที่ จ.เพชรบุรี และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร ระหว่างวันที่ 13-14 พ.ค.

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า  จากนั้นวันที่ 14 พ.ค. นายกฯ จะเยี่ยมชมนิทรรศการบริเวณอาคารสุเมธตันติเวชกุล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี จากนั้นจะเป็นประธานการประชุม ครม.สัญจร ที่ห้องประชุมพะนอมแก้วกำเนิด อาคารสุเมธตันติเวชกุล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี โดยภายหลังจบการประชุม จะไปเยี่ยมชมโครงการตัวอย่างด้านการเกษตรและรวบรวมพันธุ์พืชเศรษฐกิจ ที่โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ ก่อนกลับ กทม.

นายชัยยังเปิดเผยด้วยว่า นายกฯ มีกำหนดการเยือนกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อนำคณะนักธุรกิจไทยร่วมงาน Thailand - France Business Forum & Roundtable ระหว่างวันที่ 15-16 พ.ค. และเยือนสาธารณรัฐอิตาลีอย่างเป็นทางการ และกิจกรรมคู่ขนาน ระหว่างวันที่ 17-21 พ.ค. ที่เมืองมิลาน และกรุงโรม และภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่ยุโรป จะเข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 22-24 พ.ค.67 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนญี่ปุ่น และดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนญี่ปุ่นเข้ามาในไทยมากขึ้น

นายชัยระบุว่า การเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศสในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่างไทย-ฝรั่งเศส ซึ่งมีความก้าวหน้าอย่างมากในช่วง 3 เดือน ภายหลังการเดินทางเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 7-12 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยนายกฯ มีกำหนดการพบหารือทวิภาคีกับนายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ เพื่อติดตามผลการเยือนฯ โดยเฉพาะในด้านการค้าการลงทุน อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และ Soft Power พร้อมทั้งนำคณะนักธุรกิจไทยร่วมงาน Thailand - France Business Forum & Roundtable ซึ่งเป็นผลที่เกิดขึ้นจากการหารือระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ ในช่วงการเยือนฯ.