ไม่ยุบสภา-ไม่ปรับครม. ‘บิ๊กตู่’แนะดูพฤติกรรมส.ส. ‘ป้อม’ปัดขัดแย้งให้ใจเย็นๆ

"บิ๊กตู่" ปัดไม่เกี่ยวข้องขับ "ธรรมนัส" พร้อมก๊วน 20 ส.ส.พ้น พปชร. บอกเป็นเรื่อง กก.บห.พรรค ยัน "ไม่ยุบสภา-ไม่ปรับ ครม." แนะ ปชช.ดูพฤติกรรมนักการเมือง คัดกรองก่อนเลือกตั้งต่อไป  เผย "บิ๊กป้อม" ส่งสัญญาณความรัก ปรารถนาดี เคารพซึ่งกันและกันตลอด "วิษณุ" รับสถานการณ์นายกฯ ตอนนี้หนัก  ชี้ยุบสภาไม่ใช่ทางออก "ประวิตร" ย้ำไม่เคยขัดแย้งกับนายกฯ ปมธรรมนัสบอกทุกฝ่ายให้ใจเย็น "ไพบูลย์" อ้าง พปชร.โดนก๊วน 21 ส.ส.ขู่บีบปรับโครงสร้างพรรคจนต้องตัดสินใจขับทั้งหมดออก "สันติ-สุชาติ" ชื่อโผล่ชิงเลขาฯ พปชร.แทน "เด็กผู้กอง"  แจงยังไม่ไปซบเศรษฐกิจไทย "ฝ่ายค้าน"  ขย่มซ้ำบอกประยุทธ์กำลังเป็นเสือติดจั่น

เมื่อวันที่ 20 มกราคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า เรื่องการเมืองตนเคยพูดเสมอว่าเคารพในกระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งในฐานะนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าฝ่ายบริหารราชการแผ่นดิน มีความรับผิดชอบในภาพรวม และตนก็เข้ามาด้วยกระบวนการตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ ถูกเสนอชื่อโดยพรรคการเมืองที่มีคะแนนเสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาลเสนอชื่อขึ้นมา ผ่านการพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งหลายคนไปบิดเบือนว่า ส.ว.สืบทอดอำนาจให้ตนนั้น ถามว่าหากพรรคไม่มีคะแนนเสียงมากพอแล้วจะเสนอชื่อตนได้หรือไม่ ดังนั้นใครหรือพรรคใดคะแนนสูงแล้วเสนอรายชื่อนายกฯ ส.ว.ก็คงไม่มีปัญหา ซึ่งตนยอมรับกติกาทุกอย่าง จึงอย่าเอาการเมืองมาพันทุกเรื่อง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถูกกรรมการบริหารพรรคมีมติขับพ้นพรรคพร้อม ส.ส.จำนวน 20 คนว่า เป็นเรื่องของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรค ตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของพรรคดำเนินการ เชื่อว่าเป็นการต้องการทำให้สถานการณ์ปกติให้มากที่สุด โดยทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับประชาชนที่ต้องมองใครเป็นอย่างไร ดังนั้นขอให้ติดตามพฤติกรรมของแต่ละคนด้วย

 “ผมไม่ได้กล่าวว่าใครดีไม่ดี แต่พฤติกรรมจะเป็นตัวกำหนด และให้ประชาชนคัดกรองในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และยืนยันว่าผมไม่ได้คิดจะดำเนินการในเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือยุบสภาอะไรต่างๆ โดยเฉพาะขณะนี้กฎหมายก็ยังไม่เรียบร้อย จึงอย่าเอาทุกอย่างมาตีทั้งหมด ผมไม่ใช่คนที่จะพูดได้ว่ารักใครชอบใคร หลายอย่างต้องเก็บไว้กับตัว อย่างไรก็ตาม ขอบคุณประชาชนที่เชื่อมั่นและเชื่อถือที่ผ่านมา ซึ่งผมก็ได้วางอนาคตไว้พอสมควร โดยเฉพาะแก้ปัญหาที่หมักหมม เป็นภาระที่ทำให้การทำงานใหม่ๆ ออกมาได้ช้า”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ถามว่าสรุปแล้วชัดเจนใช่หรือไม่ว่าจะไม่ปรับ ครม.ในช่วงนี้ นายกฯ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว

ซักอีกว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. ได้ส่งสัญญาณอะไรมาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ส่งความรักความปรารถนาดีให้กัน เคารพซึ่งกันและกัน

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเสถียรภาพรัฐบาลหลัง 21 ส.ส.พรรค พปชร.ถูกขับว่า เรื่องนี้ฝ่ายการเมืองต้องเป็นคนดูแล ตนตอบไม่ได้ ขณะนี้รัฐบาลยังคงเป็นรัฐบาล และอีกไม่นานก็จะหมดสมัยประชุมสภาอยู่แล้ว  เพราะฉะนั้นมีเวลาที่จะบริหารจัดการ แต่จะจัดการอย่างไรตนไม่ทราบ อยู่ที่นายกฯ และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดที่จะช่วยคิดกัน และต้องยอมรับว่าปัญหาเกิดขึ้นแล้วจะทำอย่างไรกันต่อ

ถามว่าหากนายกฯ ตัดสินใจยุบสภา ในขณะที่กฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งยังไม่ผ่านจะทำได้หรือไม่ นายวิษณุ  กล่าวว่า จะเรียกว่าค้างอยู่อย่างนั้น หรือเรียกว่าตกไปก็ได้ เพราะเมื่อยุบสภาแล้วจะไม่สามารถประชุมสภาได้ ซึ่งกฎหมายทั้งสองฉบับจะต้องเข้าสู่ทั้งสองสภา แต่ถ้าเหลือเพียง ส.ว. ก็ประชุมโดยลำพังไม่ได้ จึงค้างอยู่ เท่ากับว่าไม่มีกฎหมายลูก และเมื่อยุบสภาแล้วจะต้องเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน แล้วจะเลือกกันอย่างไรตนก็นึกไม่ออก เคยตอบมาหลายเดือนแล้วว่าหากมีเหตุยุบสภาขึ้นก็ไม่ต้องทำอย่างไรกัน 

‘ป้อม’บอกใจเย็นไม่ขัดแย้ง

ถามว่าหากเป็นรัฐบาลรักษาการจะนำกฎหมายลูกทั้งสองฉบับมาออกเป็นพ.ร.ก.ได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ก็มีข้อเสนอแนะอย่างนั้น แต่ผมไม่เห็นด้วย และคิดว่าไม่ใช่วิธีที่ฉลาด เพราะการออกเป็น  พ.ร.ก. เป็นการที่รัฐบาลกำหนดฝ่ายเดียวเท่ากับว่ากติกานี้รัฐบาลกำหนด  

ซักว่านายกฯ ไม่ควรยุบสภาก่อนที่กฎหมายลูกทั้งสองฉบับจะเสร็จใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ใช่ คำตอบคืออย่างนั้น  ซึ่งตอนนี้กฎหมายลูกสองฉบับเกี่ยวกับการเลือกตั้ง กกต.จะส่งเข้า ครม.สัปดาห์หน้า และหากผ่าน ครม.แล้วก็จะส่งสภาได้ทันที

ถามอีกว่า นายกฯ จะใช้วิธีลาออกเพื่อแก้ปัญหาได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ได้  แต่วิธีนั้นจะแก้ปัญหาอะไร แก้ได้อย่างไร ถ้าเลือกนายกฯ ใหม่ ก็ต้องถามแก้ปัญหาอะไรได้ เพราะสภายังเป็นสภาเดิม เสียงยังอยู่แบบเดิม ใครอยู่พรรคไหนก็อยู่พรรคนั้นเหมือนเดิม จะย้ายพรรค ยุบพรรค ไม่ได้ทั้งนั้น 

ถามย้ำว่า ขณะนี้ถือว่ารัฐบาลอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ใช่ ทั้งนายกฯ และพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลาย ที่จะต้องรีบแก้ ตนถึงเคยพูดตั้งแต่ตอนตั้งรัฐบาลเมื่อสองปีที่แล้วว่ารัฐบาลเป็นเรือเหล็ก แต่เป็นเรือลำเล็ก และสนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในตน มันไม่ได้มาจากฝ่ายค้านหรอก  

เมื่อถามว่า ขณะนี้นายกฯ อยู่ในสภาวะที่หนักหน่วงใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า อือ

ขณะที่ พล.อ ประวิตรให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงกรณีมติพรรค พปชร.ขับ ร.อ.ธรรมนัส และ 20 ส.ส.ของพรรค จนถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณพรรค พปชร.ส่อแตกว่า ไม่มีปัญหาอะไร ขอให้ใจเย็น

ถามว่ารู้สึกเครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่เครียด

เมื่อถามอีกว่า ปมปัญหาที่เกิดขึ้นกำลังมีหลายคนมองว่าเป็นความขัดแย้งระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์กับ พล.อ.ประวิตร ซึ่งทันทีได้ยินคำถาม พล.อ.ประวิตรตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า "เฮ้ย บอกว่าไม่มีอะไร ไม่มีขัดแย้ง ก็บอกแล้วไม่มีอะไร" ก่อนวางสายโทรศัพท์ทันที

ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. แถลงถึงพรรคมีมติ ขับ ร.อ.ธรรมนัสและ ส.ส. รวมเป็น 21 คนออกจากพรรคว่า การประชุมเกิดขึ้นเนื่องจากมีสมาชิก นำโดย ร.อ.ธรรมนัส เสนอพล.อ.ประวิตรให้มีการปรับโครงสร้างพรรคขนานใหญ่ ถ้าไม่ปรับจะเคลื่อนไหวให้พรรคเกิดความเสียหาย ซึ่งหัวหน้าพรรคเห็นว่าข้อเรียกร้องจะสร้างปัญหาเกรงจะเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ จึงนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และ ส.ส.ของพรรค หารือถึงข้อเรียกร้องของ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งที่ประชุมร่วม กก.บห.และ ส.ส. จำนวน 78 คน ประกอบด้วย กก.บห. 17 คน และ ส.ส. 61 คน เห็นว่าข้อเรียกร้องดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เนื่องจากจะเป็นความเสียหายทั้งระบบ ฉะนั้นเพื่อรักษาหลักการในเรื่องความมีเสถียรภาพและความเป็นเอกภาพ พรรคเห็นว่าข้อเสนอนี้เป็นเหตุที่ร้ายแรง เข้ากับข้อบังคับของพรรค ข้อที่ 54 (5) ประกอบวรรคท้าย มีเหตุร้ายแรง จึงมีมติขับ ร.อ.ธรรมนัสและ ส.ส.กลุ่มดังกล่าว ด้วยเสียง 63 เสียง ซึ่งถือว่าเกิน 3 ใน 4 ของที่ประชุมร่วมในการขับสมาชิกออกจากพรรค

 “ขั้นตอนต่อไป ทางพรรคจะได้มีการจัดเตรียมเอกสารเพื่อแจ้งไปยัง กกต. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานะทั้ง 21 คน ยังเป็น ส.ส. ปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ แต่จะต้องหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 30 วัน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (9) ทั้งนี้ มติการขับไม่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ เรื่องนี้เป็นเรื่องของที่ประชุมร่วมเท่านั้น มั่นใจหลังจากนี้ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคจะจบ ไม่เกิดปัญหาลักษณะนี้ขึ้นมาอีก ถึงเวลาที่จะต้องขจัดความขัดแย้งที่ฝังรากลึกเกินเยียวยา เชื่อมั่นว่ามติครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพรรค พรรคจะเป็นสถาบันทางการเมืองอย่างแท้จริง รับรองพรรคดีขึ้นแน่” นายไพบูลย์กล่าว

ถามถึงกระแสข่าว ร.อ.ธรรมนัสจะย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ โดยมี พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. เป็นหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์กล่าวว่า ขณะนี้ พล.อ.วิชญ์ยังเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐอยู่

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ปฏิเสธกระแสข่าวจะได้เป็น เลขาธิการพรรค พปชร.คนต่อไปว่า ส่วนตัวไม่ค่อยอยากจะเป็น และมีหลายท่านที่เป็นได้ และอยากเป็นอยู่ ซึ่งคนที่จะมาเป็นเลขาธิการพรรคคนต่อไปจะต้องเข้าใจรัฐบาล เข้าใจพรรค และเข้ากับหัวหน้าพรรคได้

 มีรายงานจากพรรค พปชร.ว่า ภายหลังที่ประชุม กก.บห.มีมติขับ ร.อ.ธรรมนัสและ ส.ส.รวม 21 คนออกจากพรรค นั้น ทำให้ กก.บห.พรรคว่างลง 3 ตำแหน่ง คือ ร.อ.ธรรมนัส เลขาธิการพรรค นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ นายทะเบียนพรรค และนายไผ่ ลิกค์ รองเลขาธิการพรรค คาดว่าจะมีการเรียกประชุมใหญ่เพื่อแต่งตั้ง กก.บห.ชุดใหม่ในเร็วๆ นี้

 “ขณะนี้มีตัวเต็ง 2 รายคือ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง และรองหัวหน้าพรรค กับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานและ กก.บห. แต่ส่วนใหญ่คนในพรรคให้การสนับสนุนนายสันติ เพราะมีความอาวุโสกว่า และสมาชิกให้การยอมรับมากกว่า” แหล่งข่าวจาก พปชร.ระบุ

มีรายงานด้วยว่า สำหรับ 21 ส.ส.พรรค พปชร.ที่ถูกขับออกจากพรรค มีแนวโน้มจะย้ายไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นพรรคใหม่ คาดว่า พล.อ.วิชญ์จะมาเป็นหัวหน้าพรรค นายอภิชัย เตชะอุบล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตเหรัญญิกพรรคประชาธิปัตย์ จะมาเป็นเลขาธิการพรรค และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. น้องชายพล.อ.ประวิตร เป็นที่ปรึกษาพรรค

ก๊วนผู้กองปัดซบพรรคใหม่

ต่อมา นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ซึ่งเป็น ส.ส.ในกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ปฏิเสธข่าวที่จะมีการแถลงข่าวของกลุ่ม 21 ส.ส.ไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทยในวันที่ 21 ม.ค. โดยระบุให้ติดตามความคืบหน้าผ่านทาง Facebook ส่วนตัวของ ร.อ.ธรรมนัส ที่จะรายงานและแจ้งความคืบหน้าในการเข้าสังกัดพรรคใหม่เป็นระยะๆ

ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคเล็ก มีรายงานว่ามีแนวโน้มที่จะไปร่วมกับกลุ่มร.อ.ธรรมนัส ประกอบด้วย พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 คน, พรรคพลังชาติไทย 1 คน, พรรคประชาภิวัฒน์ 1 คน, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 เสียง, พรรคพลเมืองไทย 1 เสียง, พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง, พรรคไทยรักธรรม 1 เสียง และพรรคเพื่อชาติไทย 1 เสียง ขณะที่ในส่วนของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ 1 เสียง ที่ประกาศตัวเป็นฝ่ายค้าน ก็ไปร่วมงานกับ ร.อ.ธรรมนัสเช่นกัน แต่ยังมีอีก 1 พรรคคือ นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ที่จะอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ต่อ เนื่องจากมีความขัดแย้งกับ ร.อ.ธรรมนัสในช่วงการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ยืนยันว่าพรรคเล็ก ประกอบด้วย พรรคพลังท้องถิ่นไท 5 เสียง, พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 เสียง, พรรคพลังชาติไทย 1 เสียง, พรรคชาติพัฒนา 4 เสียง รวม 12 เสียง ยังคงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนพรรคเล็กที่เหลือ 7 พรรค ได้แก่ พรรคประชาภิวัฒน์ 1  คน, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 เสียง, พรรคพลเมืองไทย 1 เสียง, พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง, พรรคไทยรักธรรม 1 เสียง, พรรคเพื่อชาติไทย 1 เสียง และพรรคพลังธรรมใหม่ 1 คน คงจะมีการพูดคุยกันทิศทางทางการเมืองกันต่อไป

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หลังมีกระแสข่าวนายอภิชัย ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ของพรรค ไปปรากฏตัวที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เมื่อค่ำวันพุธที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างการเคลียร์ปัญหาภายในพรรค พปชร. และมีชื่อจะไปเป็นเลขาฯ พรรคเศรษฐกิจไทย ทำให้ ส.ส.ปชป.บางส่วนมีการสอบถามทางสำนักงานพรรค เพื่อให้สอบถามนายอภิชัยได้ติดต่อจะยื่นใบลาออกจาก ส.ส.หรือลาออกจากสมาชิกพรรคหรือยัง

อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่านายวิรัช ร่มเย็น นายทะเบียนพรรคประชาธิปัตย์ ตรวจสอบแล้ว นายอภิชัยยังไม่มีการติดต่อยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคแต่อย่างใด

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ออกมาแสดงความกังวลถึงมติขับ 21 ส.ส.พรรค พปชร. อาจกระทบเสถียรภาพรัฐบาลว่า เรามี ส.ส. 475 เสียงในขณะนี้ ซึ่งการประชุมสภาต้องใช้เสียงกึ่งหนึ่งคือ 238 เสียง โดยเสียงของรัฐบาลมีจำนวน 275 เสียง และจากที่มีการขับ ส.ส.ออกจากพรรค 21 คน เสียงของรัฐบาลก็จะคงเหลือ 254 เสียง ในเรื่องจำนวนตัวเลขยังทำให้การประชุมสภาดำเนินการต่อเนื่องได้ แต่ก็จะมีเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่วิปของแต่ละพรรคจะต้องปรึกษาหารือ และหามาตรการในการดำเนินการประชุมให้มีประสิทธิภาพ

ฝ่ายค้านขย่มซ้ำบิ๊กตู่เสือติดจั่น

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย และรองประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การประชุมสภาสมัยสามัญที่เหลืออีก 5 สัปดาห์ รัฐบาลคงไม่กล้าเสนอกฎหมายสำคัญๆ อาทิ กฎหมายการเงิน เข้าสู่ที่ประชุมสภาแน่นอน เพราะหากมีปัญหา นายกฯ ต้องรับผิดชอบ ประกอบกับมือในสภา เสียงฝ่ายรัฐบาลคงจะไม่พอ ที่อาจจะเกิดการล้มในสภาเกิดขึ้นได้ ฝ่ายรัฐบาลคงจะประคองสถานการณ์ไปจนถึงวันปิดประชุมสภาในสมัยนี้ 28 ก.พ.กันไปก่อน

นายสมคิดกล่าวว่า เมื่อเปิดประชุมสภาในสมัยหน้า คือตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นไป ยังไม่รู้ พล.อ.ประยุทธ์จะเอาอย่างไร เพราะในสมัยประชุมหน้า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรี ดังนั้น ระหว่างสมัยการประชุม พ.ค.-มิ.ย.-ก.ค. หาก พล.อ.ประยุทธ์รู้ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก่อนที่จะยื่นอภิปรายวันไหน อาจจะชิงยุบสภาก่อนก็ได้ ในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในภาวะเสือติดจั่น ถูกบีบจากฝ่ายรัฐบาลด้วยกันเอง ท่าทีมอง พล.อ.ประยุทธ์คงจะไปได้ยากแล้ว หากมีการยุบสภา ฝ่ายค้านก็ไม่มีปัญหา ช่วงเหตุการณ์ไม่มีอะไร พรรคเพื่อไทยเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากเปิดโอกาสให้สมาชิกสภาหารือถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเสนอไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้วนั้น ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นายชวนได้แจ้งต่อที่ประชุมรับทราบประกาศสภาฯ เรื่องให้ผู้มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองเลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่าง คือนายชวน ชูจันทร์ และนายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล จากนั้นประธานสภาฯ ได้ให้ทั้งสองคนปฏิญาณตนก่อนเข้ารับการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ขณะนี้มี ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่ได้จำนวน 475 คน โดยองค์ประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งคือ 238 คน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' อวดคนอีสาน 10 เดือน ผลงานเพียบ ไตรมาส 4 ได้เงินหมื่นแน่

นายกฯ พบชาวหนองพอก อวดผลงาน 10 เดือน ราคาพืชผลการเกษตรดี ยันเร่งแก้ปัญหาน้ำประปา ปราบหนี้นอกระบบให้หมด ย้ำ 'ดิจิทัล วอลเล็ต' ไตรมาส 4 ได้แน่