“คลัง” แจงโอนเงินหมื่นผู้สูงอายุสำเร็จแล้ว 2.82 ล้านราย ปั๊มเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ 2.82 หมื่นล้านบาท กระทุ้ง 2 แสนรายเร่งแก้ไขให้ทันรอบจ่ายซ้ำ 3 ครั้ง ยันกลุ่มไร้สมาร์ทโฟนได้เงินแน่ รอประกาศขั้นตอน “สุริยะ” การันตี “บ้านเพื่อคนไทย” ไม่ขัดกฎหมาย ปัดซ้ำรอยทุจริตบ้านเอื้ออาทร
เมื่อวันที่ 28 มกราคม นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2568 กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง ได้มีการโอนเงิน 10,000 บาท ตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ให้กลุ่มเป้าหมาย 3,025,596 ราย โดยมีผลการโอนเงินแบ่งเป็น โอนเงินสำเร็จจำนวน 2,825,076 ราย คิดเป็น 93.37% และโอนเงินไม่สำเร็จ 200,520 ราย คิดเป็น 6.63% ทั้งนี้ การจ่ายเงินให้กลุ่มเป้าหมายแล้ว 2,825,076 ราย ทำให้มีเม็ดเงินจากโครงการหมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจจำนวน 28,250.76 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุที่โอนเงินไม่สำเร็จ เนื่องจากส่วนใหญ่ 97.10% ของจำนวนนี้ยังไม่ลงทะเบียนสมัครพร้อมเพย์เพื่อผูกบัญชีเงินฝากกับเลขประจำตัวประชาชน และสาเหตุอื่นๆ อีก 2.90% สถานะบัญชีมีปัญหาไม่สามารถใช้งานหรือรับโอนเงินได้
“ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ได้รับสิทธิตรวจสอบผลการจ่ายเงินผ่านทางแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.2568 เป็นต้นไป โดยหากปรากฏผลว่าโอนเงินไม่สำเร็จ กระทรวงการคลังจะมีการจ่ายเงินซ้ำอีกจำนวน 3 ครั้ง จึงขอให้ประชาชนผู้ได้รับสิทธิเร่งติดต่อธนาคารเพื่อดำเนินการผูกพร้อมเพย์กับบัญชีเงินฝากด้วยเลขประจำตัวประชาชน ส่วนประชาชนที่เคยผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนแล้ว ให้ติดต่อธนาคารเพื่อตรวจสอบบัญชีดังกล่าวว่ามีปัญหาใด เช่น บัญชีธนาคารถูกปิด บัญชีธนาคารติดเงื่อนไข บัญชีธนาคารไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน เป็นต้น และขอแก้ไขตามแต่ละกรณี โดยอาจจำเป็นต้องผูกพร้อมเพย์กับบัญชีใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมรับเงินในรอบถัดไป” นายพรชัยระบุ
โดยรอบการจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 1 คือวันที่ 28 ก.พ.2568 จะต้องเร่งผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 25 ก.พ.2568, รอบจ่ายซ้ำครั้งที่ 2 คือวันที่ 28 มี.ค.2568 จะต้องเร่งผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน ภายในวันที่ 25 มี.ค.2568 และรอบจ่ายซ้ำครั้งที่ 3 คือวันที่ 28 เม.ย.2568 จะต้องเร่งผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน ภายในวันที่ 23 เม.ย.2568 ซึ่งเมื่อพ้นกำหนดการจ่ายเงินซ้ำครั้งที่ 3 แล้ว กระทรวงการคลังจะยุติการจ่ายเงิน และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ
นอกจากนี้ ในส่วนของผู้มีสิทธิอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นบุคคลล้มละลาย สามารถขอรับเงินตามโครงการได้ โดยต้องไปกรอกแบบฟอร์มขออนุญาตเปิด/ใช้บัญชีเพื่อรับเงินตามโครงการ โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของกรมบังคับคดี และจัดส่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับสิทธิตามโครงการ จะไม่สามารถขอทบทวนหรืออุทธรณ์สิทธิได้
ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนจะได้รับเงิน 10,000 บาทอย่างแน่นอน หลังจากนี้จะมีประกาศขั้นตอนว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะใช้เวลาอีกไม่เกิน 1 เดือน รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ส่วนเฟสที่ 3 หากเป็นผู้ที่โหลดแอปพลิเคชันทางรัฐ แต่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ หรือไม่ครบตามขั้นตอนถือว่าเป็นผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียน ซึ่งจะยึดตามหลักเกณฑ์เดิม คือต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จ และมีเงื่อนไขเรื่องรายได้ต่างๆ ที่กำหนดไว้ตามเดิม สำหรับคนที่ลงทะเบียนไม่ผ่านสามารถยื่นเรื่องอุทธรณ์ฝากเรื่องไว้ที่สายด่วน 1111
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงข้อสังเกตกระทรวงคมนาคมมีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายที่ไม่มีอำนาจในการสร้างที่อยู่อาศัยให้ประชาชน ในโครงการบ้านเพื่อคนไทย เนื่องจากกฎหมายไม่ให้อำนาจว่า โครงการนี้นำที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยมีบริษัทลูกของ รฟท. คือ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จะไปบริหารสินทรัพย์ของ รฟท. ซึ่งหน่วยงานนี้เป็นผู้ทำ ซึ่งฝ่ายกฎหมายดูด้วยความรอบคอบแล้วว่าทำได้ และก่อนหน้านี้ได้ปรึกษาหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว คงไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าโครงการนี้จะซ้ำรอยโครงการบ้านเอื้ออาทรที่มีการทุจริต นายสุริยะกล่าวว่า “ไม่ซ้ำรอย ขอยืนยันแน่นอน".
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลดเบนซิน-ดีเซล1บาท/ลิตร
"กบน." ใจป้ำปรับลดราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 1 บาท/ลิตร เป็นของขวัญให้ประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์
ชาวนาบุกสภาจี้รัฐบาล ประกันราคา1.1หมื่น/ตัน
ม็อบชาวนาบุกรัฐสภา ปักหลักค้างแรมร่วมฟังศึกซักฟอก เรียกร้องนายกฯ
จับตามี‘กองทัพงูเห่า’จากฝ่ายค้าน
"ธรรมนัส" ตีปี๊บ! ให้จับตามีกองทัพงูเห่าจากฝ่ายค้านโหวตไว้วางใจ "อุ๊งอิ๊ง"
กังขา‘อิ๊งค์’เลี่ยงภาษี ทำนิติกรรมอำพรางออก‘ตั๋วPN9ใบ’ซื้อหุ้นคนในครอบครัว
ดีลแลกประเทศวันแรกเดือด! “ณัฐพงษ์” ซัดรัฐบาลแพทองธารเลวร้ายกว่ายุค คสช.
พังงาจับ4หนุ่ม ขนปืน-กระสุน ภูเก็ตสั่งคุมเข้ม
ตำรวจพังงาจับ 4 ผู้ต้องหาขนอาวุธสงคราม ผงะ! เตรียมไปส่งที่ภูเก็ต
‘ปปช.’รับคดีชั้น14สุดอืด ธนกรดีดปากนิติสงคราม
เลขาฯ ป.ป.ช.รับคดีชั้น 14 อืด เหตุติดปัญหาขอข้อมูลจากหน่วยงานอื่น