"ภูมิธรรม" เตรียมขยายมาตรการตัดไฟ-น้ำมัน-สัญญาณเน็ต ไปยังชายแดนไทย-กัมพูชา หลังพบสายเน็ตเชื่อมไปปอยเปตเลี้ยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เล็งซีลชายแดนสร้างรั้วยาว 55 กม. สกัดอาชญากรรมข้ามชาติ มั่นใจ 6 เดือนเห็นผล "เมียนมา" ส่ง 261 เหยื่อค้ามนุษย์ให้ไทย แถมจะมาเพิ่มอีก 7 พันคน "บิ๊กอ้วน" ยันไม่มีแผนตั้งศูนย์อพยพ "ผบช.ภ.2" พบทุนเทาย้ายฐานจากเมียวดีมา จ.ไพลิน ชายแดนตรงข้าม จ.จันทบุรี สั่ง ตร.เข้มแดนจันทบูร "BGF" เมิน 3 ผู้นำโดนหมายจับ ลั่นไม่ใช่คนไทย "หม่อง ชิตตู” ปัดไม่ได้ค้ามนุษย์ บอกนักธุรกิจจีนเดินทางเข้ามาเอง "อัยการค้ามนุษย์" เบรกดีเอสไอออกหมายจับหม่อง ชิตตู เเนะหาหลักฐานเพิ่มให้รัดกุมก่อน
ที่สนามบินกองบินตำรวจ วันที่ 12 ก.พ. เวลา 09.15 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ร.13 พัน 3 รอ. ลงพื้นที่ตรวจราชการ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และผู้เกี่ยวข้องร่วมคณะ
นายภูมิธรรมกล่าวก่อนเดินทางถึงความคืบหน้าการเตรียมออกหมายจับพันเอกหม่อง ชิตตู ผู้นำคนปัจจุบันของกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง หรือ BGF ว่า ขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าหมายจับออกแล้วหรือไม่ แต่มีการติดต่อประสานมาเพื่อขอหลักฐานในการออกหมายจับ ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ เมื่อออกหมายจับแล้วคงไปจับในประเทศเขาไม่ได้ เพราะถือเป็นอธิปไตย แต่ถ้าออกหมายจับแล้วมีการขยับเข้ามาพื้นที่ของไทยก็สามารถจับได้เลย ซึ่งหากมีการออกหมายจับ ก็จะไปเฝ้าดูที่พักที่มีข่าวว่าอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ
ถามถึงการออกคำสั่งย้ายข้าราชการที่เข้าไปพัวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตอนนี้มีเพียง 2 รายเท่านั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขณะนี้มีคำสั่ง 5-6 ตำแหน่ง คือ ผกก.อีก 3 สภ. ซึ่งเป็นพื้นที่ตามรายงานข่าว สภ.แม่สอด, สภ.แม่ระมาด และ สภ.พบพระ โดยให้ขาดจากการปฏิบัติงานในหน้าที่เดิมให้ย้ายไป บช.ภ.6 ส่วนอีก 2 รายนั้นเป็นผู้การจังหวัด และนายพล ต. ซึ่งนายพล ต. ถูกกำหนดและระบุเส้นทางอีกหลายส่วน ก็ได้สั่งย้ายมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
"ยังไม่ได้หมายความว่าทั้งหมดมีความผิด เพียงต้องดำเนินการจัดการข้อที่ถูกกล่าวหาที่สอบสวนขั้นต้น เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องในพื้นที่ที่อาจจะเป็นการละเลยหรือเรื่องอะไรต่างๆ ซึ่งทางตำรวจได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว หากพบมีข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจน ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย แต่ขณะนี้นำออกมาเพื่อให้ทำงานสะดวกและปลอดภัยขึ้น และทำให้ประชาชนรู้สึกถึงความโปร่งใสชัดเจน ถืออยู่ในกระบวนการ SEAL STOP SAFE ใน 51 อำเภอ 14 จังหวัด ที่หากพบว่ามีปัญหาจังหวัดและผู้การจังหวัดต้องรับผิดชอบ" นายภูมิธรรมกล่าว
รองนายกฯ กล่าวว่า ได้รับการประสานจากทางการเมียนมาขอส่งผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกมาพักไว้ที่ไทย เพื่อตรวจสอบก่อนส่งกลับจำนวน 51 คน จาก 8 ประเทศ อาทิ เอธิโอเปีย ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศ เคนยา โดยได้รับการติดต่อมาเนื่องจากเมียนมาดูแลไม่ไหว การทำงานเขาลดประสิทธิภาพลง หรือปิดลง จึงปล่อยตัวออกมา ขณะเดียวกันเราได้มีการประสานงานภายในกับเมียนมาว่าหากต้องการลดความกดดันลงในเรื่องการตัดน้ำมัน ตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต จะต้องทำให้เราเห็นว่าประเทศเขาปลอดภัยจากเรื่องนี้ ดังนั้นเขาเองต้องจัดการดำเนินการตามแรงกดดัน ตรงนี้เราก็มาถูกทางแล้ว การที่มาขู่เราว่าจะตัดเส้นทางไม่ให้สินค้าเข้าไม่ใช่ปัญหาของเรา เป็นปัญหาของเขา อันนั้นขู่เราไม่ได้
ซักว่าไทยจะกลายเป็นศูนย์ดูแลผู้อพยพแทนหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า พูดชัดเจนแล้วว่าเราจะไม่ตั้งศูนย์อพยพ การส่งเข้ามาเมื่อแจ้งเรามาเราแจ้งประเทศเขาก็จะตรวจสอบกัน เวลาเมียนมาส่งมาจะมีรายชื่อ มีพาสปอร์ตชัดเจน เราก็ส่งประเทศนั้นๆ ซึ่งนอกเหนือจากจีน ก็มีประเทศในภูมิภาคต่างๆ ที่มีสถานทูตติดต่อมาว่าได้รับข้อมูลว่าคนของเขามีปัญหา เราก็จะขอเข้ากระบวนการตรวจสอบของเราก่อน ถ้าพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวพันและถูกหลอกลวงมา เราก็จะส่งคืน คาดว่าใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ หรือไม่เกิน 1 เดือน
เล็งซีลชายแดนฝั่งเขมร 55 กม.
ต่อมาเวลา 10.30 น. นายภูมิธรรมและคณะเดินทางถึง จ.สระแก้ว เป็นประธานประชุมติดตามการปฏิบัติงานและมอบนโยบายแก่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมรับฟังความคืบหน้าการดำเนินงานภาพรวมของพื้นที่ จากนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าฯ สระแก้ว รายงานการซีลพื้นที่ชายแดนตามนโยบาย Seal Stop Safe จาก พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 การปราบปรามยาเสพติด-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ชายแดนสระแก้ว จาก พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รอง ผบช.ภ.2 และแนวทางปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ จาก พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. รวมถึงการตัดสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต จากผู้แทน กสทช. การส่งกระแสไฟไปยังเพื่อนบ้าน จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสระแก้ว รวมทั้งรายงานสถานการณ์การเปิดบัญชีม้าของคนไทยในพื้นที่สระแก้ว จากผู้แทนสมาคมไทยในจังหวัดสระแก้ว
จากนั้น เวลา 13.45 น. นายภูมิธรรมเดินทางลงพื้นที่ตรวจมาตรการดำเนินงานภายใต้ยุทธการอรัญ 68 โดยจุดแรก จุดบูรณาการร่วมทหาร ปกครอง ตำรวจ (จต.อ. 25 ) ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรวจการใช้ยุทโธปกรณ์โดรน เพื่อใช้ในการช่วยลาดตระเวน และตรวจตราสิ่งผิดปกติของกองกำลังบูรพา รวมถึงรถปฏิบัติการสื่อสารทางยุทธวิธี ที่จะแสดงผลทางจอทีวีแบบเรียลไทม์หากพบสิ่งผิดปกติ โดยนายภูมิธรรมเห็นว่าการใช้เทคโนโลยีมาช่วยน่าจะเป็นเรื่องดี ที่จะช่วยเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานได้ผลมากขึ้น
นายภูมิธรรมเดินทางต่อไปตรวจเสาส่งสัญญาณผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ที่บ้านโคกสะแบง โดยจุดนี้จะมีการลดความสูงของเสาลง และออกแบบเสาใหม่ ไม่ให้หันไปทางฝั่งกัมพูชา เพราะจากเดิมที่หันไปมีระยะห่างแค่ 300 เมตร และเดินทางไปติดตามการดำเนินงานของชุดเครื่องมือตรวจสอบสถานีวิทยุคมนาคม ที่ตลาดเบ็ญจวรรณ ต.ป่าไร่ เพื่อดูเสาสัญญาณผู้ให้บริการ โดยดูตัววัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ได้รับแจ้งเตือนจากฝ่ายความมั่นคงว่าพบความผิดปกติ โดยสามารถบล็อกไอพีที่ใช้ได้ทันที และไปตรวจจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก
นอกจากนี้ ไปดูจุดที่เจ้าหน้าที่ตัดสายเคเบิลที่ลักลอบส่งข้ามฝั่งไปยังกัมพูชา เบื้องต้นได้ทำการตัดสายแล้ว หากไม่สามารถหาเจ้าของได้ และเชื่อว่าสายที่ตัดต่อไปยังอาคาร 25 ชั้น ที่มีขบวนการไม่ถูกกฎหมาย ทั้งนี้ นายภูมิธรรมโชว์สายเคเบิลที่ถูกตัดแล้ว พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า สายเคเบิลใดที่ตรวจสอบแล้วไม่มีเจ้าของให้ตัดเลย เบื้องต้นตัดไปแล้ว 3 เส้นจาก 32 เส้น เหลือ 29 เส้น หากตรวจไปเจอที่ไหนไม่ถูกต้องก็ตัดทันที
"สัญญาณที่ส่งออกไปข้างนอกเราสั่งตัดอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ขยายการกระทำผิด จุดผ่านแดนบ้านคลองลึกใกล้ชายแดนนิดเดียว มีแค่กำแพงรั้วที่สูงไม่มากขวางอยู่ หันไปดูก็จะเป็นตึก 25 ชั้น ที่ปรากฏออกมาตามสื่อ ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นจุดหนึ่งที่เป็นเป้าหมาย โดยสายสัญญาณที่เหลือรอให้เจ้าของมาแสดงตัวเพื่อติดสติกเกอร์ อันไหนบอกไม่ได้ว่าเป็นของใครจะตัดทิ้ง โดยสายที่ต่อไปทางกัมพูชา หากพบว่านำไปใช้ในพื้นที่กระทำผิดต้องสาวไปถึงต้นตอว่าเป็นสายของใคร ถือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย ต้องเรียกมาคุยกัน หากรู้ว่ามีบริษัทที่ขายสัญญาณต่อไปในพื้นที่ผิดกฎหมายก็ว่าไปตามกฎหมาย เราต้องถอนใบอนุญาตหรืออาจไปถึงขั้นสมรู้ร่วมคิดในการกระทำผิด ต้องว่าไปตามกฎหมาย ไม่มีเห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น" นายภูมิธรรมกล่าว
ต่อมานายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า เราได้หารือสะท้อนกับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องว่ามีความต้องการอะไร ก็ต้องไปดูตามความจำเป็น บางส่วนอาจให้ได้ บางส่วนอาจจะต้องใช้งบประมาณ อาจจะใช้งบกลาง และจะต้องดูความจำเป็นว่าสามารถตอบโจทย์การปฏิบัติตามที่เสนอมาหรือเปล่า เช่น การทำรั้วตามแนวชายแดน 55 กิโลเมตร ก็จะต้องดูว่ารั้วที่จะทำมีลักษณะแบบไหน และสามารถป้องกันในเรื่องของปัญหาใดได้บ้าง ก็คงต้องไปดูรายละเอียด
ถามว่า การสร้างกำแพงเเนวชายเเดน 55 กิโลเมตร จะมีความเป็นได้มากน้อยเเค่ไหน นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากต้องไปดูรายละเอียด เพราะมีเเบบอย่างต่างประเทศสร้างกำแพงชายเเดน เช่น สหรัฐอเมริกา เราก็ต้องไปดูว่าการสร้างกำแพงของประเทศไทย จะป้องกันปัญหาเรื่องอะไร แล้วจะช่วยได้มากน้อยเพียงใด โดยขออนุญาตยังไม่ตอบ เพราะต้องไปดูเรื่องทางเทคนิคเยอะ ไม่ว่าจะเป็นกำแพงปูน ลวดหนาม หรือตาข่าย เป็นต้น
"ชายแดนฝั่งกัมพูชารัฐบาลจะดำเนินการในพื้นที่ 5 จุด ที่มีปัญหาของบัญชีม้า ยาเสพติด เเละเเก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งคาดว่า 6 เดือนต่อจากนี้จะพบว่าการดำเนินการตามเเนวเขตชายเเดน ทั้งเรื่องยาเสพติด เเก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ ที่เป็นปัญหาเดียวกันที่เกิดขึ้นตามเเนวชายเเดน ฉะนั้นการซีลชายเเดน 51 อำเภอ 14 จังหวัด จะครอบคลุมทุกปัญหา" นายภูมิธรรมกล่าว
รองนายกฯ กล่าวว่า เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ได้รับรายงานว่าจะมีการปล่อยตัวผู้บริสุทธิ์และผู้ที่ถูกหลอกตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา จำนวน 261 คน และยังมีอีกประมาณ 7,000 คนที่กำลังรออยู่ โดยย้ำว่า มาตรการของไทยจะประสานประเทศปลายทาง ให้มารับตัวกลับได้โดยตรง ไม่ต้องตกค้างอยู่ที่จังหวัดตาก
แก๊งคอลย้ายจุดมาฝั่งจันทบุรี
พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มบุคคลต่างชาติจำนวน 261 คน ที่ไทยรับไปยังจุดคัดกรองกองร้อย ตชด.346 นายภูมิธรรมยืนยันประเทศไทยไม่มีนโยบายจัดตั้งศูนย์พักพิงหรือศูนย์อพยพสำหรับบุคคลเหล่านี้
พล.ต.ธนาธิปกล่าวว่า นายภูมิธรรมได้ตอบรับการก่อรั้วแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ใน จ.สระแก้ว ระยะทาง 165 กิโลเมตร เพื่อควบคุมการเข้า-ออก ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และลดปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกว่า 55 กิโลเมตร โดยจัดสรรงบประมาณ 286 ล้านบาทในการดำเนินการ
"ล่าสุด รัฐบาลเตรียมขยายมาตรการตัดไฟ-น้ำมัน-สัญญาณเน็ต ไปยังชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว, พื้นที่ช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์, พื้นที่ช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ และพื้นที่จังหวัดตราด-เกาะกง เพื่อให้การปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคาดว่า 6 เดือนต่อจากนี้จะพบว่าการดำเนินการตามเเนวเขตชายเเดน ทั้งเรื่องยาเสพติด เเก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ ที่เป็นปัญหาเดียวกันที่เกิดขึ้นตามเเนวชายเเดนจะเห็นผล" โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าว
ด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พอใจผลปฏิบัติการ 7 มาตรการคุมเข้มแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง ถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.-11 ก.พ.2568 จึงยังให้คงเข้ม 7 มาตรการต่อไป พร้อมให้มีการวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์คนต่างด้าวผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ หลังที่รัฐบาลมีมาตรการเด็ดขาดตัดไฟ สัญญาณอินเทอร์เน็ต น้ำมันเชื้อเพลิง
"ตำรวจพอจะทราบแนวทางรูปแบบของกลุ่มเหล่านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนแนวทางกระทำผิด หรือการย้ายฐานกระทำผิด ซึ่งได้เตรียมมาตรการรองรับไว้แล้ว" โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุ
ที่ จ.จันทบุรี พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 แถลงข่าวตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานความมั่นคง เปิดปฏิบัติการ "ป้อมปราการพิทักษ์ชายแดนจันทบูร" ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ชาวต่างชาติหลอกลวงหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย การพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติ
พล.ต.ท.ยิ่งยศกล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่าหลังไทยมีมาตรการกดดันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้มีความพยายามย้ายฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มที่อยู่ฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา มาชายแดนฝั่งจังหวัดไพลิน ของประเทศกัมพูชา พื้นที่รอยต่อ อ.โป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี
"ตำรวจภาค 2 มีมาตรการซีลแนวชายแดนอย่างเข้มข้น สกัดกั้นการใช้ช่องทางธรรมชาติ และช่องทางอื่นลักลอบข้ามแดนไปร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพออนไลน์ โดยเฉพาะชายแดนฝั่ง อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และชายแดนจังหวัดไพลินของกัมพูชา พื้นที่จังหวัดจันทบุรี ซึ่งในจังหวัดไพลินมีกาสิโนตั้งอยู่ 10 แห่ง ขณะเดียวกันก็พบสัญญาณโทรศัพท์และสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการในประเทศไทยส่งข้ามไป ซึ่งต้องหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อมีมาตรการร่วมกันอย่างเด็ดขาดปิดประตูแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ต่อไป" ผบช.ภ.2 ระบุ
หม่อง ชิตตู เมินหมายจับไทย
วันเดียวกัน พันโทหน่ายหม่อง โซ รองผู้บังคับการกองกำลัง BGF ศูนย์เมียวดี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อเมียนมา กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีความพยายามที่จะออกหมายจับผู้นำ 3 คน คือ พันเอกหม่อง ชิตตู, พันตรีเต่ง วิน และพันโทเมาะ โต่ง ทหารของกองกำลังรักษาชายแดนรัฐกะเหรี่ยง หรือบีจีเอฟ ซึ่งมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ว่า เราไม่ใช่พลเมืองไทย และเราไม่ได้อยู่ในระดับการค้ามนุษย์ เราไม่ใช่พวกชอบโกงคนอื่นทำร้ายผู้อื่น ปัจจุบันนักธุรกิจชาวจีนที่มาหาเรา เดินทางมาตามเงื่อนไขของตนเองกับนายหน้าที่ไม่ใช่ฝ่ายกำลังบีจีเอฟ ไม่มีการบังคับให้มาพวกเขามาในดินแดนของเรา
ขณะที่สำนักข่าวดีวีบีรายงานว่า พันเอกหม่อง ชิตตู ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตนเองและกองกำลังบีจีเอฟไม่ได้พาคนต่างชาติพวกนี้เข้ามาในเมียนมา พวกเขามาเอง เขามาทางไหนประเทศไทยรู้ดี คนพวกนี้ไม่ได้มีปีกหรือลอยมาจากอากาศ มีชาวต่างชาติที่อ้างตัวว่าเป็นเหยื่ออีกจำนวนมาก มากันเองแล้วมาเป็นเหยื่อ หรือเป็นผู้กระทำการค้ามนุษย์กันเองก็ไม่มีใครรู้ ซึ่งกองกำลังพิทักษ์ชายแดนส่วนหน้าบีจีเอฟยืนยันพร้อมที่จะส่งตัวบุคคลชาตินั้นๆ ทุกคนให้ทุกประเทศที่ประสานมาอยู่แล้ว
มีรายงานว่า ภายหลังจากดีเอสไอหารือกับอัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีค้ามนุษย์ 1 กรณีที่จะยื่นคำร้องขอออกหมายจับพันเอกหม่อง ชิตตู,พันโทโมเต โธน และพันตรีทิน วิน ในความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์คอลเซ็นเตอร์นั้น ทางอัยการคดีค้ามนุษย์พบว่าพยานหลักฐานน่ายังไม่เพียงพอที่จะให้ศาลออกหมายได้ จึงเห็นควรให้ดีเอสไปสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้รอบคอบรัดกุม ก่อนนำมาพิจารณาที่จะยื่นคำร้องต่อศาลขอออกหมายจับต่อไป
ทั้งนี้ พฤติการณ์ที่ดีเอสไอนำเข้าหารือกับอัยการ เนื่องด้วยเป็นกรณีที่กลุ่มผู้ต้องหามีการนำชาวอินเดียไปทำการค้ามนุษย์และบังคับทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บ่อนเฮงเชง เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ประเทศไทย แต่ทางการไทยสามารถช่วยกลับมาได้ 7 ราย โดยพบว่าทั้ง 7 รายมีลักษณะพฤติการณ์ถูกหลอกโดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน คล้ายคลึงกับกรณีซิงซิง นักแสดงชาวจีนที่ถูกหลอกและทางการไทยสามารถช่วยเหลือได้ก่อนหน้านี้ จึงทำให้ต้องพิจารณาว่าจะดำเนินคดีขบวนการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับใครบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อศาลพิจารณาออกหมายจับเเล้ว ทางพนักงานสอบสวนก็จะสามารถปฏิบัติตามหมายได้ ในกรณีที่ตัวผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ทางพนักงานสอบสวนผู้ร้องขอออกหมายจับจะมีการประสานขอออกหมายเเดง (อินเตอร์โพล) กับชาติสมาชิกอินเตอร์โพลทั้ง 194 ประเทศ ผ่านระบบออนไลน์ที่จะขึ้นในประเทศสมาชิก เมื่อข้อมูลการออกหมายเเดงกระจายไปยังประเทศสมาชิก เเละพบว่าผู้ที่ถูกออกหมายจับนั้นพำนักอยู่ในประเทศนั้น ตำรวจในประเทศปลายทางก็จะตามจับกุมตัว
"เมื่อได้รับทราบพิกัดหรือควบคุมตัวเเล้ว ทางอัยการสูงสุดจะเป็นผู้ประสานงานกลางในการทำเรื่องขอส่งผู้ร้ายข้ามเเดนไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขอตัวผู้ร้ายข้ามเเดนตามหมายจับมาดำเนินคดีในไทย" แหล่งข่าวระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่งกลับ“อุยกูร์”เกมเสี่ยงหวังผลสูง คว้ากระแสลมเปลี่ยนทิศ
เหตุผลสำคัญที่รัฐบาลพยายามอธิบายเรื่องการส่งชาวอุยกูร์กลับคืนให้ทางการจีน คือ “แรงบีบจากจีน”
ทลายบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าใหญ่สุดปท. มูลค่า130ล้าน
"นายกฯ อิ๊งค์" โชว์ทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุด ส่งขาย 100 เครือข่ายทั่วประเทศ ยึดของกลาง 2.6 แสนชิ้น
นายกฯปัด‘พ่อ’ครอบงำ คลังสนองไอเดียซื้อหนี้
"อิ๊งค์" รีบแก้เกี้ยว "พ่อ" หวังดีกับประเทศผุดไอเดียซื้อหนี้ประชาชน ปัดครอบงำ
จีนประณามUSข่มเหงไทย โชว์อุยกูร์อยู่บ้านดีกว่าคุก
"จีน" ออกโรงประณาม "สหรัฐ" ข่มเหงรังแกไทย ทำตัวสองมาตรฐาน
ห้ามป่วย-ตายช่วยอิ๊งค์
"นายกฯ อิ๊งค์" รับตื่นเต้นศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรก 24-26 มี.ค.
น้ำเงินคว่ำกระดาน! ถล่ม112‘สิริพรรณ’ไม่เห็นชอบ‘ชาตรี’หึ่งเปิดทางสายมท.
สภาน้ำเงินคว่ำกระดานเลือกตุลาการศาล รธน.ร่วงทั้งคู่! โหวตไม่เห็นชอบ “สิริพรรณ” 136 เสียงต่อ 43 เสียง