ปชน.จี้รัฐเร่งเจรจามะกัน ติดใจ‘ทักษิณ’ปูดคดีพอล

“เท้ง” จี้รัฐบาลเจรจากำแพงภาษีครั้งแรกกับสหรัฐให้เร็วที่สุด “ศิริกัญญา” ขอบคุณ “ทักษิณ” คนไม่มีตำแหน่งอะไรแต่ออกมาปูดเรื่องความมั่นคงและคดีพอล แชมเบอร์ส เป็นปัจจัยหนึ่งทำไทยโดนภาษี จี้รัฐบาลออกมายืนยันว่าเรื่องจริง “นักวิชาการ” ชี้ไทย-สิงคโปร์จะอ่วมสุดในอาเซียนจากสงครามการค้า

เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเจรจาปรับกำแพงภาษีกับประเทศสหรัฐอเมริกาว่า สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือการเจรจาครั้งแรกต้องเกิดอย่างเร็วที่สุดและชัดเจนมากที่สุด เพราะตอนนี้เหมือนเรารู้เราอย่างเดียว โดยวางแนวทางไว้ 5 ข้อ แต่เราไม่รู้ว่าสหรัฐต้องการอะไรจากเราบ้าง เมื่อเทียบกับกรณีญี่ปุ่นที่เข้าไปเจรจาครั้งแรกก็ได้รับคำตอบกลับมาว่าสหรัฐต้องการส่งออกข้าวไปญี่ปุ่นเพิ่มเติม ดังนั้นจึงเป็นการปรับทีมเจรจาไปในตัวด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของทั้งสองฝ่ายมากยิ่งขึ้น

 “สัปดาห์หน้าจะมีเวทีของฝ่ายค้านเรื่องกำแพงภาษี แน่นอนที่สุดว่าเราจะมีข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล” นายณัฐพงษ์กล่าว และว่าถึงการเข้าไปเจรจาสหรัฐเมื่อใดว่า คงตอบแทนไม่ได้  เพราะลำดับคิวการเข้าพบอาจอยู่ที่สหรัฐเป็นหลัก แต่ยิ่งเราเข้าไปเจรจาได้เร็วที่สุด ก็จะยิ่งเป็นผลประโยชน์กับประเทศไทยมากที่สุด

ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ปชน. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดถึงกรณีนี้ ซึ่งคือสิ่งที่เคยเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาเปิดเผยข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงแนวทางแก้ไขว่าเป็นอย่างไร โดยนายทักษิณได้เปิดเผยถึงเรื่องบนโต๊ะเจรจาว่าได้เอาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและเรื่องการจับกุมนายพอล แชมเบอร์ส นักวิชาการชาวอเมริกันที่ศึกษาด้านกองทัพ จากมหาวิทยาลัยนเรศวร ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพระราชบัญญัติด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ว่าอาจจะเป็นสิ่งที่ติดขัด และทำให้เราไม่สามารถเดินหน้าเจรจาได้ตามปกติเหมือนกับประเทศอื่นๆ

 “ดิฉันขอขอบคุณคุณทักษิณที่ออกมาเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา เสียดายนิดเดียวที่มันควรต้องเป็นคนของรัฐบาล คุณทักษิณไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเลยในรัฐบาลนี้ ไม่ได้เป็นที่ปรึกษา หรืออยู่ในคณะเจรจาด้วย ดังนั้น คำพูดของคุณทักษิณ ไม่แน่ใจว่าจะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน  และจะนำไปสู่การแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร อยากให้รัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรองนายกฯ หรือนายกฯ ที่อาจให้ข่าวนี้กับคุณทักษิณไป ได้ออกมายืนยันกับประชาชนอีกครั้งว่าเป็นเรื่องจริง เพราะเป็นเรื่องใหญ่”

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า นอกจากเรื่องความมั่นคงยังมีเรื่องการส่งชาวอุยกูร์กลับจีนด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่แก้ไขค่อนข้างยาก เพราะน่าจะกระทบกับความสัมพันธ์กับจีนด้วย ถ้าเราทำอะไรกับชาวอุยกูร์ที่ยังอยู่ในสถานกักกันของทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในตอนนี้ ส่วนกรณีการจับกุมนายพอลก็ยังมีแนวทางแก้ไขอยู่ คือการถอนฟ้อง  ดังนั้น จึงขอให้รัฐบาลออกมาสื่อสารว่าจะแก้ไขอย่างไร เพราะถือเป็นเรื่องยากทั้งคู่

“เราพูดเรื่องนี้มาหลายรอบ ตั้งแต่ตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ และย้ำอีกครั้งตอนที่เสนอญัตติกำแพงภาษีแล้วว่ารัฐบาลกำลังทิ้งไพ่ผิดใบ  แต่รัฐบาลไม่ได้มีการตอบคำถามสักเท่าไร จึงอยากฝากสื่อมวลชนช่วยไปถามรัฐบาลด้วยว่า  สิ่งที่นายทักษิณพูดจริงหรือไม่”

ส่วนที่นายทักษิณระบุสนิทกับคนใกล้ชิดของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะช่วยได้หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญาระบุว่า ต้องทำไปทุกช่องทางที่ทำได้ แต่ช่องทางหลักที่เป็นทางการเป็นช่องทางที่สำคัญและมีประโยชน์มากที่สุด  คือการที่มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีของสหรัฐอยู่แล้ว ก็น่าจะมีประโยชน์มากที่สุด ถ้าติดขัดกับเรื่องนี้จริงๆ การไปพูดคุยกับคนสนิทรอบตัวที่ไม่ได้มีบทบาทในการเจรจาการค้า อาจไม่ได้มีประโยชน์ในเชิงการเจรจาการค้าเท่าไร

รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT)  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการประเมินเศรษฐกิจล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) พบว่าไทยและสิงคโปร์ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ารุนแรงสุดในอาเซียน โดยคาดว่าไทยจะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพียงแค่ 1.8% ในปีนี้  และสิงคโปร์จะมีอัตราการขยายตัวแค่ 2% ซึ่งการที่ไทยและสิงคโปร์ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ารุนแรง เพราะโครงสร้างเศรษฐกิจมีระดับการเปิดประเทศสูง พึ่งพาการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศมาก

รศ.ดร.อนุสรณ์กล่าวอีกว่า การกู้เงินเพิ่มอีก  5 แสนล้านบาท เพื่อนำมาใช้จ่ายดูแลเศรษฐกิจ  ต้องเน้นไปที่การลงทุน มาตรการประชานิยมพักหนี้ แจกเงิน อาจไม่ได้ช่วยทำให้เศรษฐกิจเติบโตแบบยั่งยืน เพียงช่วยบรรเทาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ บรรเทาปัญหาวิกฤตหนี้สิน การใช้จ่ายเงินภาครัฐจากการกู้เงินจึงต้องให้ตรงเป้าหมาย  เกิดผลตามนโยบาย มีประสิทธิภาพ และต้องตระหนักว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีของไทยที่ระดับ 64.21% นั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอาเซียนแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลือกตั้งเทศบาลซื้อเสียงกันเดือด

โกงกันเดือด! ประธาน กกต.ลงพื้นที่ประจวบฯ-เพชรบุรี ตรวจความพร้อมก่อนเลือกตั้งเทศบาล ล่าสุดมีคำร้องทั่วประเทศ 338 เรื่อง เป็นเรื่องซื้อเสียง-ให้เงิน

มันกลับมาแล้ว โควิดระบาดซํ้า ห่วง‘เปิดเทอม’

กลับมาแล้ว! รัฐบาลเตือนโควิดพุ่ง 8 พันรายภายในหนึ่งสัปดาห์ ห่วงใกล้เปิดเทอม ระบาดหนักกว่าไข้หวัดใหญ่ 2 เท่า เปิด 4 ข้อปฏิบัติหยุดเชื้อกระจาย

‘ไอ้โม่ง’ อมเงินฮั้ว หึ่งเลือกสว.นครศรีฯจ่าย2แสน/เปิดชื่อ55วุฒิฯถูกเรียกรับข้อกล่าวหา

ประธาน กกต.ยืนยันการเรียก สว.ชี้แจงเป็นไปตามกฎหมาย เมื่อมีหลักฐานจึงดำเนินการได้เร็ว หายนะ! คนรับผิดชอบการเลือกตั้ง แต่มีข้อมูลน้อยกว่า