“ดีเอสไอ-กกต.” ออกหมายเรียก สว.ล็อตแรก 53 ราย สัปดาห์หน้ามีล็อตสองอีกเป็นร้อย ฮึ่ม! ไม่ชี้แจงภายใน 19 พ.ค. ถือว่าสละสิทธิ์ เหล่า สว.โอดการเมืองทั้งนั้น ด้าน มท.ส่งหนังสือถึง ผวจ.ยึด พ.ร.บ.อุ้มหาย หลังที่อำนาจเจริญเจอขู่
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. แหล่งข่าวระดับสูงจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน รวม 7 ราย นำโดย ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ลงนามเซ็นชื่อในหมายเรียกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ล็อตแรก จำนวน 53 ราย กระจายทั่วภูมิภาคประเทศไทย ตามหัวเมืองจังหวัดสำคัญ 47 ราย และในพื้นที่ กทม. 6 ราย ให้เข้ามาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ภายในวันที่ 19 พ.ค. หากไม่มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ถือว่าประสงค์ไม่ให้การ โดยเจ้าหน้าที่ที่จะนำหมายเรียกไปปิดยังพื้นที่พักอาศัยของ สว. ประกอบด้วย พื้นที่ กทม. 6 จุด เป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ชุดสืบสวนสะกดรอยและการข่าว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กกต. ขณะที่ต่างจังหวัด 47 จุด เป็นเจ้าหน้าที่ กกต.จังหวัด และตำรวจในท้องที่
แหล่งข่าวระบุอีกว่า ภายในกรอบสัปดาห์หน้า กกต.จะมีการทยอยออกหมายเรียก สว.ล็อต 2 ต่อไป ทั้งนี้ รวมแล้วอาจมีจำนวน สว.มากกว่า 100 รายที่จะถูกออกหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งขั้นตอนที่จะไปถึงหลังจากนั้นคือ การยื่นเพิกถอนสิทธิ สว.ต่อศาลฎีกา
แหล่งข่าวระดับสูงกล่าวด้วยว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ สว.รายใดที่ได้รับหนังสือเชิญชี้แจงรับทราบข้อกล่าวหาจาก กกต.จะต้องเข้าให้การชี้แจงกับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ที่ สำนักงาน กกต. อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ตามวันเวลาที่กำหนดต่อไป
ทั้งนี้ หมายเรียก สว.ทั้ง 53 ราย ในส่วนพื้นที่ กทม. 6 จุด ประกอบด้วย นายอลงกต วรกี นายโชคชัย กิตติธเนศวร นายจิระศักดิ์ ชูความดี นายพิบูลย์อัฑฒ์ หฤหรรษ์ปราการ นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร และนายพิศูจน์ รัตนวงศ์ นอกจากนี้ยังมีชื่อของ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา รวมอยู่ด้วย
มีรายงานว่า หมายเรียกดังกล่าวระบุข้อกล่าวหาชัดเจน พร้อมกำหนดให้ สว.ที่ถูกออกหมาย ชี้แจงภายใน 7 วัน หรือ 15 วัน แต่สามารถขอเลื่อนได้หากมีเหตุจำเป็น ซึ่งขั้นตอนการชี้แจงสามารถส่งเป็นเอกสาร หรือเข้าชี้แจงด้วยตนเองก็ได้
ขณะที่ช่วงเช้าวันที่ 9 พ.ค.ได้มีเจ้าหน้าที่ชุดศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ดีเอสไอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กกต.กระจายกำลังกว่า 6 จุดใน กทม.นำหมายเรียกของ กกต.เข้าพื้นที่เป้าหมายเพื่อเชิญตัว สว.ดำเนินการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา
โดยในส่วน กทม. เจ้าหน้าที่ได้นำเอกสารหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาไปมอบให้กับนายจิระศักดิ์ ที่บ้านในซอยวิภาวดี 62 และนายวุฒิชาติ ที่บ้านในซอยลาดพร้าว 231 แต่ไม่พบตัว จึงนำหนังสือดังกล่าวติดไว้ที่ประตูรั้วหน้าบ้าน
ไม่มาแจงถือว่าสละสิทธิ์
สำหรับหนังสือฉบับลงวันที่ 8 พ.ค.68 ที่ลงนามโดย ร.ต.อ.ชนินทร์ ประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลางคณะที่ 26 ในส่วนที่ส่งให้นายอลงกต มีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า ด้วยมีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าท่านเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกระดับประเทศกลุ่มที่ 20 หมายเลข 144 ได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มา ซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 70 ประกอบมาตรา 36 มาตรา 77 (1) และมาตรา 62
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า หากท่านไม่ดำเนินการตามกำหนดดังกล่าวจะถือว่าท่านสละสิทธิ์ในการชี้แจงแสดงหลักฐานหรือให้ถ้อยคำแก้ข้อกล่าวหา อนึ่ง ท่านมีสิทธิ์ที่จะให้ถ้อยคำหรือแสดงพยานหลักฐานและมีสิทธิ์ที่จะให้ทนายความหรือบุคคลซึ่งไว้วางใจเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงได้จำนวน 1 คน และกรณีที่ไม่สามารถนำบุคคลดังกล่าวมาเข้าร่วมรับฟังการชี้แจง ท่านไม่อาจนำมาเป็นเหตุขอเลื่อนการชี้แจงได้
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นการดำเนินการของ กกต. ซึ่ง กกต.ได้ขอความร่วมมือมาที่กระทรวงยุติธรรม โดยดีเอสไอส่งเฉพาะในเขตพื้นที่ กทม. ส่วนในจังหวัดต่างๆ ส่วนหนึ่งได้มีการส่งไปรษณีย์ ซึ่งเป็นเรื่องของ กกต.กับตำรวจ ส่วนจะมีการเรียกมาให้ปากคำเมื่อไรนั้น ตนเองไม่ทราบ เพราะเป็นสำนวนของ กกต. รวมถึงหมายเรียกชุดถัดไปด้วยก็เป็นเรื่องของ กกต.เช่นกัน ทั้งนี้ ดีเอสไอเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการที่ร่วมดำเนินการด้วย ดังนั้นจะเข้าไปร่วมสอบปากคำ เพราะ กกต.ได้ขอหลักฐานจากดีเอสไอไปด้วย
ส่วนความคืบหน้าสำนวนของทางดีเอสไอในคดีฮั้ว สว.นั้น พ.ต.อ.ทวีเปิดเผยว่า สำนวนคดีของดีเอสไอมีมากกว่าของทาง กกต.อยู่จำนวนมาก แต่ได้นำเพียงแค่หลักฐานบางส่วนไปให้ ส่วนจะมีใครเกี่ยวข้องบ้าง ขอให้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามข้อเท็จจริงจาก สว.แต่ละคนตามรายชื่อที่ปรากฏในข่าว โดยนายพิศูจน์ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีหมายดังกล่าวมาส่ง ส่วนจะเดินทางไปชี้แจงหรือไม่นั้น คงตอบไม่ได้ ต้องดูว่าเป็นอย่างไรอีกที “ไม่มีหรอก ข่าวปล่อยทั้งนั้นน่ะ การเมืองนะน่ะ”
ด้านนายพิบูลย์อัฑฒ์บอกว่า ยังไม่ทราบว่ามีการออกหมายเรียก และขณะนี้อยู่ต่างจังหวัด จึงยังไม่ทราบ เขาจะเรียกไปทำไม เราไม่ได้ฮั้ว จะเรียกไปสอบเรียกฮั้วเราก็ตอบไม่ถูก
ส่วนนายจิระศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นหมายเรียกดังกล่าว และส่วนตัวมองว่าเป็นการเรียกสุ่ม ขณะนี้ยังไม่มีอะไร และตอนนี้ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร ขอดูรายละเอียดเมื่อได้รับหมายเรียกก่อน
ขณะที่นายอลงกตกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้หมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้วเลือก สว. เพราะบ้านที่ตนอยู่ปัจจุบันกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้านเป็นคนละหลังกัน ซึ่งถ้าเป็นหมายเรียกของ กกต. ก็ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องไปพบ เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่ นายอลงกตตอบว่า สว.มีทั้งคนรักและคนชัง อย่าไปซีเรียส ส่วน สว.คนอื่น รวมถึงประธานและรองประธานวุฒิสภานั้น ตนไม่ทราบ ยังไม่ได้คุยกัน
นายโชคชัยกล่าวว่า ยังไม่เห็นหมายเรียก เพราะเดินทางมาต่างจังหวัด ยืนยันไม่เคยมีเรื่องเส้นเงินที่เชื่อมกับการฮั้วเลือก สว. ไม่เคยจ่ายเงินให้ใคร หากได้รับหมายเรียกจริง และมาจาก กกต.ก็น่าจะต้องไป แต่อาจต้องขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาก่อน 1 ครั้ง เพราะติดภารกิจ
เมื่อถามว่า มองว่าหมายเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาครั้งนี้เป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายโชคชัยกล่าวว่า ลองไปพิจารณาดู จะเอาเรื่องนี้มากลบอะไรในช่วงนี้หรือไม่ ตระกูลตนก็เป็นตระกูลการเมือง พี่ชายเป็น สส. 2 คน ตนเป็น สว. ขอให้พิจารณาดู
ทั้งนี้ ในรายนายวุฒิชาติและนายมงคลนั้นยังไม่สามารถติดต่อได้
มท.สั่ง ผวจ.ยึด พ.ร.บ.อุ้มหาย
ส่วนความเคลื่อนไหวของกระทรวงมหาดไทย มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ได้ทำหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ มท0307.1/25786 ถึงอธิบดีดีเอสไอ เรื่อง การประสานความร่วมมือในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547
โดยมีสาระสำคัญตอนหนึ่งระบุว่า ในวันที่ 8 พ.ค. นายมานะ สิมมา ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือด่วนที่สุด มท.0208.1 8477 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ รายงานเหตุ
กลุ่มบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษลงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ที่มีกลุ่มบุคคลอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอ เพื่อสอบถามข้อมูลอดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นวุฒิสภา จำนวน 2 ราย ซึ่งไม่ได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ต่อการคุ้มครองประชาชน จึงมีแนวปฏิบัติหน้าที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ รวมถึงปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ให้ยึดแนวปฏิบัติ และการรับคำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา นอกจากนี้ยังให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565
“หากนายอำเภอผู้รับแจ้งเห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการทรมาน การกระทำที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือการกระทำให้บุคคลสูญหาย นายอำเภอหรือพนักงานฝ่ายปกครองซึ่งได้รับมอบหมายจากนายอำเภอมีสิทธิ์ยื่นคำร้องต่อศาลท้องที่ที่มีอำนาจพิจารณาคดีอาญา เพื่อให้มีคำสั่งยุติการกระทำเช่นนั้นทันที ตามมาตรา 22 และมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนให้ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวทางดังกล่าวยังได้สั่งการไปให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศยึดแนวทางนี้อีกด้วย” หนังสือดังกล่าวระบุ
ขณะเดียวกัน มีรายงานเมื่อวันที่ 8 พ.ค. พ.ต.ต.ยุทธนาได้ลงนามคำสั่ง ด่วนที่สุด ที่ ยธ 0825/1573 ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่อง ขอความอนุเคราะห์การประสานการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีพิเศษ และการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษ กรณีการสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่กระทำความผิดตามมาตรา 209 แห่งประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องเป็นคดีพิเศษที่ 24/2568 นอกจากนั้น พ.ต.ต.ยุทธนายังลงนามคำสั่ง ด่วนที่สุด ที่ ยธ 0825/1574 ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ขอความอนุเคราะห์การประสานการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีพิเศษ และการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษในประเด็นเดียวกัน
นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. กล่าวว่า สว.ที่ถูกออกหมายเรียก ควรปฏิบัติตามหมายดังกล่าวเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ทั้งการเข้าชี้แจงด้วยตนเองหรือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ใช่ใช้วิธีการตอบโต้ว่าหน่วยงานนั้นมีอำนาจหรือไม่
นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีต สว. กล่าวว่า การออกหมายเรียกเพื่อดำเนินคดีสะสางปัญหาการฮั้ว สว.ต้องชัดเจนและรวดเร็ว ไม่ว่าจะ 6 คน 60 คน หรือมากกว่า 130 คน หากผิดต้องเอาออกจากตำแหน่งและเอาติดคุกให้หมด รวมทั้งคืนเงินที่รับไปแล้วด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แบ่งเค้กสมใจอยาก
นายกฯ เซ็นคำสั่งแบ่งงานรองนายกฯ-รมต.ประจำสำนักนายกฯ ใหม่ กำกับดูแลแทนนายกฯ หลัง "อนุทิน" ลาออก เพื่อไทยกำกับดูแลมหาดไทยสมใจอยาก ส่ง "ภูมิธรรม" คุม ส่วน "พีระพันธุ์" ไม่ขยับ อยู่ที่เดิม
ยังกอดศพกันแน่น พท.ลั่นทำเพื่อชาติอยู่ครบเทอม/พรรคร่วมผีดิบแย่งชามข้าวฝุ่นตลบ
เช็กโผ ครม. "แพทองธาร 2" เปิด 2 ตัวเต็งนั่ง รมว.กลาโหม "บิ๊กเล็ก-พล.อ.สุนัย" อดีตนายทหารรบพิเศษ ด้าน ปชป. "เฉลิมชัย" รมว.ทส.เหมือนเดิม "เดชอิศม์" นั่ง มท.3 "ชัยชนะ" นั่ง รมช.สธ. ขณะที่ "รทสช." ยังอยู่ โควตาเท่าเดิม แต่แย่งชามข้าวกันฝุ่นตลบ เพื่อไทยโวมีในมือ 280 เสียง
ม็อบพรึ่บโคราช ตะเพิด‘นายกฯ’
ม็อบทุกสีไล่รัฐบาลพรึ่บ! โคราชเรียกร้อง "อุ๊งอิ๊ง" ลาออก เลือกนายกฯ ใหม่ เพราะไร้วุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถในการเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ สมคบคิด ตอบสนองอริราชศัตรู
ชำระแค้น‘ฮุนเซน’ ‘อิ๊งค์’สั่งเจาะยาง!
ก้นร้อนเร่งเอาคืน "ฮุน เซน" "แพทองธาร" นัดประชุมแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 23 มิ.ย.นี้ หลังพบฝั่งตะวันตกดีขึ้น
ชง‘รองนายกฯ-กห.’ดึง‘พปชร.’
“อนุทิน” เปิดใจเป็นฝ่ายค้านแล้ว ไม่จัดตั้งรัฐบาลสู้ “ภูมิธรรม” ตีปี๊บพรรคร่วมที่เหลือเสียงปึ้ก “ไผ่” โวมีเสียง 263 บวกๆ
DSIหอบคดีฮั้วตึกสตง.ให้‘ปปช.’ฟัน
"อธิบดีดีเอสไอ" เผยคดีฮั้ว สว.พบเส้นเงินโยงพรรคการเมือง-นักการเมือง 3 ภาค อีสาน เหนือ ใต้