ฟ้องกันนัวช็อปซื้องูเห่า ปปช.ยันเรียกพีระพันธุ์

“พท.” ปัด “กล้าธรรม” เป็นพรรคสาขาสอง “ไผ่” ยื่นสภาฟันจริยธรรม “ยอดชาย”  ปูดซื้อ สส. 55 ล้านมั่ว สัปดาห์หน้า จ่อร้อง กกต.ถอดถอนต่อ “ป.ป.ช.” โต้ “พีระพันธุ์” ยันหนังสือเรียกปมแจกถุงยังชีพถูกต้อง “บิ๊กป้อม” ตั้ง “ธีระชัย” หัวหน้าทีม ศก.

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) และผู้บริหารพรรค นัดพูดคุยกับ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และนายการุณ โหสกุล อดีต สส.กทม. ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรค กธ.  ไม่ใช่เรื่องของตน ส่วนที่มีคนมองว่าพรรค กธ.เป็นพรรคพี่พรรคน้องหรือพรรคสาขาของพรรค พท.นั้น ก็จับมือร่วมกันตั้งรัฐบาล 6 พรรค เป็นพรรคพี่พรรคน้องกันทั้งหมด

นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค พท. กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า คิดว่าไม่ใช่ แต่เข้าใจคนที่มองเช่นนั้น เพราะ สส.ของพรรค กธ.ปัจจุบันหลายคน เมื่อปี 54 ก็เคยลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค พท. จึงอาจจะทำให้มีการมองเช่นนั้นได้ แต่การเลือกตั้งในปี 62 เขาย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และเมื่อมีปัญหากันเขาก็แยกตัวออกมาสร้างบ้านหลังเล็กๆ ของเขาคือพรรค กธ. ฉะนั้น ตนจึงไม่อยากให้มองว่าเป็นพรรค กธ.สาขาที่สองของพรรค พท. เพราะพรรค กธ.เขาก็มีอุดมการณ์ของเขา

โฆษกพรรค พท.กล่าวว่า การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.นครศรีธรรมราช ทำให้เราเห็นแล้วว่าพรรค กธ.เป็นพรรคที่มีแสงของตัวเอง เขาชนะได้ด้วยคะแนน 3 หมื่นกว่าคะแนน ซึ่งพรรค พท.เองไม่ได้มีฐานเสียงสำคัญหรือคะแนนจำนวนมากอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช จุดอ่อนของพรรค พท.อยู่ที่ภาคใต้อยู่แล้ว หากจะเอาฐานเสียงของพรรค พท.อย่างเดียวนั้น ไม่เพียงพอที่จะทำให้พรรค กธ.ชนะแน่ แต่เขาเป็นพรรคทางเลือกหนึ่งของคนนครศรีธรรมราช จึงทำให้เขาชนะมา

ส่วนกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ระบุว่านายกรัฐมนตรีปล่อยให้พรรค กธ.ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลดูด สส.งูเห่าเข้าพรรค กธ.ได้อย่างไร นายดนุพรกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรค ปชน.กับ สส.ในพรรคที่เป็นปัญหากัน นายกฯ ไม่ทราบหรอกว่าพวกคุณมีปัญหาอะไรกัน จริงๆ ไม่อยากให้นายรังสิมันต์มองว่าการเกิดงูเห่าแล้วนายกฯ ต้องรับผิดชอบ ถามว่านายกฯ จะไปสั่งพรรค กธ.ได้หรือ   ขนาดหัวหน้าพรรค ปชน.ยังสั่งลูกพรรคไม่ได้ แล้วจะให้นายกฯ ไปสั่ง ร.อ.ธรรมนัสได้อย่างไร

นายดนุพรกล่าวด้วยว่า วันนี้พรรค ปชน.อาจจะคุยกันไม่ได้ เพราะอาจจะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล แต่ก็ยังให้กำลังใจพรรค ปชน. ว่าหากเวลาผ่านไปสักพัก ทุกคนอาจจะใจเย็นกันมากขึ้น แล้วมีการกลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง เพราะเขายังไม่ขับ สส.ชลบุรีออกจากพรรค วันนี้เรื่องร้อนอยู่ อาจจะมีอารมณ์เยอะ แต่หากเวลาผ่านไปให้แต่ละฝ่ายมีเวลาคิด เชื่อว่าอาจจะมีผลลัพธ์ที่ดี เขาอาจจะไม่ย้ายพรรค และอาจจะกลับมาทำงานร่วมกันได้ ขอให้กำลังใจฝ่ายค้านให้พูดคุยกัน จริงๆ ไม่อยากให้ย้ายพรรค เพราะเสียงของรัฐบาลเพียงพออยู่แล้ว

 ที่รัฐสภา นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรค กธ. ยื่นหนังสือต่อนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ให้ตรวจสอบจริยธรรม นายยอดชาติ พึ่งพร สส.ชลบุรี พรรค ปชน. กล่าวหาว่ามีพรรคการเมืองชวนเข้าพรรคโดยให้เงิน 55 ล้านบาท

ยื่นสอย สส.ปูดซื้องูเห่า 55 ล.

โดยนายไผ่ได้เปิดคลิปการปราศรัยของนายอดชาติ พร้อมกับกล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข้อที่ 11 เป็นการนำเอาเรื่องที่เป็นเท็จมาอภิปรายแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะ และถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ซึ่งรายละเอียดปรากฏตามภาพข่าวในสื่อมวลชนและสื่อออนไลน์

นายไผ่กล่าวว่า หากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่นายยอดชายกล่าวอ้าง นายยอดชายซึ่งมีหน้าที่ตามที่กฎหมายหมายกำหนด จะต้องแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่มาเสนอสินบนกับนายยอดชาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144 ดังนั้น การที่นายยอดชายไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี จึงเป็นการเข้าข่ายการกระทำที่ส่อไปในทางที่จะกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และถือเป็นการไม่รักษาไว้ และไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อันเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกกรณีหนึ่ง

เลขาธิการพรรค กธ.กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการจริยธรรมฯ มีความเห็นออกมาแล้ว จะไปยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในสัปดาห์หน้า และจะไปยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อเอาผิดต่อไป มั่นใจว่าจะถึงขั้นถอดถอนได้

“ผมข้อท้าเลยว่าอยากให้เปิด ไม่ใช่มาพูดลอยๆ แล้วตัวเลขสูงขนาดนี้ ผมว่าพรรค ปชน.เป็นพรรคที่ตรวจสอบและมีคนที่ตรวจสอบเก่งๆ หลายท่าน เรื่องนี้เอาอีกสักหน่อย ไหนๆ ท่านก็เจ็บใจเรื่อง สส.ออก ผมว่าก็น่าจะทำให้เต็มที่” นายไผ่กล่าว

เลขาธิการพรรค กธ.ยืนยันว่า ไม่เคยซื้อตัวใคร อย่างกรณีของ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี ตนก็ได้พูดทุกที่ว่าเกิดการสนิมข้างใน

ขณะที่นายพิเชษฐ์กล่าวหลังรับเรื่องว่า ข้อร้องเรียนดังกล่าวถือเป็นบทเรียนของนักการเมือง ที่บางครั้งอารมณ์พาไปจากการปราศรัยต่างๆ ในที่สาธารณะ เพราะหากมีการร้องเรียน ก็จะเป็นปัญหาตามมา และหลังจากนี้ตนจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการจริยธรรมฯ เพื่อให้ตรวจสอบต่อไป และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

วันเดียวกัน ที่สำนักงาน กกต. นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องเพื่อชี้เบาะแสต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง และคณะกรรมการ กกต. เพื่อขอให้สืบสวนหรือไต่สวนการกระทำที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการตกเบ็ดชื้อขายตัว สส. ด้วยเงิน 55 ล้านบาท พร้อมเงินเดือนเพิ่มอีกเดือนละ 250,000 บาท รถตู้ยี่ห้อหรูอีก 1 คันจริงหรือไม่

 นายศรีสุวรรณกล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ผิดปกติทางการเมือง เป็นเรื่องเลวร้ายทางการเมืองที่สังคมไทยไม่ควรนิ่งเฉยหรือยอมรับพฤติการณ์หรือการกระทำดังกล่าว เพราะอาจเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เข้าข่ายกระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขัดต่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560

นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด ในฐานะเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงกระแสข่าวการลาออกของสมาชิกพรรคว่า แม้จะมีความเปลี่ยนแปลงภายในพรรค แต่พรรค ทสท.ยังไม่หยุดทำงานเพื่อประชาชน สิ่งที่เปลี่ยนคือ การเลือกเส้นทางเดินและอุดมการณ์ แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือหัวใจของพรรคไทยสร้างไทย ที่ยังมุ่งมั่น เพื่อสร้างการเมืองสุจริต สำหรับตน ตำแหน่งไม่เคยสำคัญเท่ากับความไว้วางใจของประชาชน ตนยังยืนอยู่ตรงนี้ ไม่เปลี่ยนแปลง

หนังสือเรียก ‘พีระพันธุ์’ ถูกต้อง

นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะรองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยถึงกรณีปรากฏเป็นข่าวมีการส่งหมายเรียกนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาคดีการแจกถุงยังชีพไม่เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย ถือว่าเป็นการส่งหมายโดยมิชอบว่า ในการไต่สวนเรื่องกล่าวหานายพีระพันธุ์ คณะกรรมการไต่สวนได้ส่งหนังสือเชิญไปยังนายพีระพันธุ์ เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาตามที่อยู่ที่ปรากฏในทะเบียนราษฎรทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ โดยมีใบตอบรับไปรษณีย์ส่งกลับมายังสำนักงาน ป.ป.ช. 

“ดังนั้น การดำเนินการส่งหนังสือดังกล่าวของคณะกรรมการไต่สวนจึงชอบด้วยกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561มาตรา 5 ประกอบระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ.2561 ข้อ 73 แล้ว และการที่ข่าวระบุว่าเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช.ยอมรับว่ามีความผิดพลาดในการส่งหนังสือเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา จึงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ไม่เป็นความจริง” นายภูเทพระบุ

 รองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนรับข่าวสารด้วยการใช้วิจารณญาณ และรับข้อมูลข่าวสารและข้อเท็จจริงจากการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ของสำนักงาน ป.ป.ช.โดยตรง ทั้งนี้ การดำเนินงานของภารกิจไต่สวนการทุจริตของสำนักงาน ป.ป.ช. มุ่งเน้นการทำงานที่รวดเร็วควบคู่กับการรักษาคุณภาพและมาตรฐานในการจัดทำสำนวนไต่สวนและให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้วยความซื่อสัตย์ เป็นธรรม มืออาชีพ โปร่งใส และตรวจสอบได้

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงนามในคำสั่งพรรคพลังประชารัฐที่ 15/2568 แต่งตั้งทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐอย่างเป็นทางการ ประกอบไปด้วย 1.นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรค เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ 2.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรค เป็นรองหัวหน้าหัวทีมเศรษฐกิจ 3.นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ เป็นทีมเศรษฐกิจ 4.น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ สส.เพชรบูรณ์ เป็นทีมเศรษฐกิจ 5.น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ สมาชิกพรรค เป็นทีมเศรษฐกิจ และ 6.นายมนูญ พรหมลักษณ์ เป็นทีมเศรษฐกิจ

  นายไพบูลย์กล่าวว่า ทีมเศรษฐกิจจะทำหน้าที่ติดตามการทำงาน วิเคราะห์นโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมทั้งติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในและนอกประเทศ ที่จะนำไปสู่การวางแนวทางในการนำเสนอข้อมูลต่างๆ ที่จะนำไปสู่การแถลงจุดยืนของพรรค การตอบโต้ในแต่ละประเด็นให้ประชาชนได้รับทราบ ทักท้วงนโยบายที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านกลไกรัฐสภา และสื่อสารมวลชน รวมทั้งปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรค นำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพของพรรคต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งบุคลากรของพรรคล้วนเป็นคุณภาพพร้อมทำงานด้านเศรษฐกิจได้ทันที

  เลขาธิการพรรค พปชร.กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรมีความเป็นห่วงในสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนจากนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกและประเทศไทยด้วย  โดยเฉพาะกระทบต่อการส่งออก ยังไม่รวมถึงปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำอย่างหนัก ที่รัฐบาลเพิกเฉยและไม่ได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรเลย ที่สำคัญคือ ปัญหาระหว่างพรรคร่วมของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีความขัดแย้งจนหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะมีการคว่ำงบประมาณ และยุบสภาในอนาคตอันใกล้ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อรัฐบาลไทย ซึ่งเราพร้อมที่จะเดินหน้าตรวจสอบการบริหารประเทศของรัฐบาลด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แบ่งเค้กสมใจอยาก

นายกฯ เซ็นคำสั่งแบ่งงานรองนายกฯ-รมต.ประจำสำนักนายกฯ ใหม่ กำกับดูแลแทนนายกฯ หลัง "อนุทิน" ลาออก เพื่อไทยกำกับดูแลมหาดไทยสมใจอยาก ส่ง "ภูมิธรรม" คุม ส่วน "พีระพันธุ์" ไม่ขยับ อยู่ที่เดิม

ยังกอดศพกันแน่น พท.ลั่นทำเพื่อชาติอยู่ครบเทอม/พรรคร่วมผีดิบแย่งชามข้าวฝุ่นตลบ

เช็กโผ ครม. "แพทองธาร 2" เปิด 2 ตัวเต็งนั่ง รมว.กลาโหม "บิ๊กเล็ก-พล.อ.สุนัย" อดีตนายทหารรบพิเศษ ด้าน ปชป. "เฉลิมชัย" รมว.ทส.เหมือนเดิม "เดชอิศม์" นั่ง มท.3 "ชัยชนะ" นั่ง รมช.สธ. ขณะที่ "รทสช." ยังอยู่ โควตาเท่าเดิม แต่แย่งชามข้าวกันฝุ่นตลบ เพื่อไทยโวมีในมือ 280 เสียง

ม็อบพรึ่บโคราช ตะเพิด‘นายกฯ’

ม็อบทุกสีไล่รัฐบาลพรึ่บ! โคราชเรียกร้อง "อุ๊งอิ๊ง" ลาออก เลือกนายกฯ ใหม่ เพราะไร้วุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถในการเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ สมคบคิด ตอบสนองอริราชศัตรู

ชง‘รองนายกฯ-กห.’ดึง‘พปชร.’

“อนุทิน” เปิดใจเป็นฝ่ายค้านแล้ว   ไม่จัดตั้งรัฐบาลสู้ “ภูมิธรรม” ตีปี๊บพรรคร่วมที่เหลือเสียงปึ้ก “ไผ่” โวมีเสียง 263 บวกๆ