"แพทยสภา" มากกว่า 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม ลงโทษ 3 หมอปมชั้น 14 เตรียมออกคำสั่งบังคับตามมติ แจ้งผู้เกี่ยวข้อง "ศ.นพ.ประสิทธิ์" ลั่นกรรมการทำในสิ่งที่ถูกต้อง ยึดหลักจริยธรรม ไม่ใช่ผลประโยชน์ แฉมีไอ้โม่งพยายามข่มขู่กรรมการ ตอกกลับ "สมศักดิ์" ยันหมอทุกรุ่นได้รับการสอนเหมือนกัน รู้หน้าที่อะไรควรทำ ให้หมอรุ่นใหม่ใช้เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษา รักษาคนไข้คู่กับการรักษามาตรฐาน "รมว.สธ." บอกไม่เป็นไร ทำตามหน้าที่ครบถ้วน หลังรู้วีโตไม่ได้ผล "นายกฯ อิ๊งค์" เมินออกความเห็น "ศาลฎีกาฯ" พร้อมไต่สวนแสวงหาข้อเท็จจริงการบังคับโทษจำคุก "ทักษิณ" 13 มิ.ย. "ป.ป.ช." ส่งคำแถลงชี้แจงแล้ว
ที่อาคารมหิตลาธิเบศร กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นที่ทำการแพทยสภา วันที่ 12 มิ.ย.2568 มีการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ครั้งที่ 6/2568 เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. วาระที่น่าสนใจคือ การพิจารณากรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ยับยั้งหรือวีโตมติแพทยสภา เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ให้ลงโทษแพทย์จำนวน 3 คนที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์มารักษาตัวต่อที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
มีรายงานว่า การประชุมแพทยสภามีกรรมการเข้าร่วม 69 คน โดย พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เข้าร่วมประชุมในช่วงเช้า ก่อนมอบหมายให้ผู้แทนเข้าร่วมประชุมแทน
สำหรับบรรยากาศบริเวณอาคารมหิตลาธิเบศร ตั้งแต่ช่วงเช้ามีบรรดาแพทย์จำนวนหนึ่งมารวมตัวกันเพื่อให้กำลังใจแพทยสภา รวมทั้งมีประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจด้วยเช่นกัน
ต่อมาเวลา 11.45 น. นายสมศักดิ์เดินทางมาที่อาคารมหิตลาธิเบศร เพื่อเข้าร่วมชี้แจงและแสดงความเห็นตามมาตรา 24 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ที่มีการวีโตมติแพทยสภาดังกล่าว ทั้งนี้ ช่วงที่นายสมศักดิ์เดินเข้าตัวอาคาร ประชาชนที่มาให้กำลังใจแพทยสภาได้โห่ใส่เสียงดัง
นายสมศักดิ์ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมกรรมการแพทยสภาว่า แม้การชี้แจงใช้เวลา 15 นาที จะน้อยสำหรับข้อมูลที่ตนจะชี้แจง แต่ก็จะพยายามทำความเข้าใจให้กับคณะกรรมการแพทยสภา โดยจะมีเอกสารมอบเพื่อให้แพทยสภาอ่านและช่วยทำความเข้าใจ
"ผมจะทำเพื่อแพทย์เพื่อคนที่อยู่ในวิชาชีพนี้ไม่ให้เกิดความเกลียดชังหรือเป็นประเด็นอย่างอื่น จึงตัดสินใจมาด้วยตนเอง เพราะเป็นห่วงคณะกรรมการแพทยสภาจะลงมติ โดยการที่มีม็อบมาบีบบังคับให้เขาลงมติอย่างนั้นมากกว่า แต่ส่วนตัวไม่ได้กังวลอะไร จะพยายามทำให้ดีที่สุด" นายสมศักดิ์กล่าว
จากนั้นนายสมศักดิ์เข้าชี้แจงกรรมการแพทยสภาเป็นเวลา 15 นาที พร้อมยื่นเอกสารประกอบ 10 หน้า โดย 2 หน้าเน้นประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการแพทยสภา พร้อมแนบคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เพื่อชี้ให้เห็นถึงความถูกต้องตามกฎหมายและป้องกันปัญหาการลงคะแนนที่อาจนำไปสู่การฟ้องร้องในอนาคต
นายสมศักดิ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังเข้าชี้แจงว่า การชี้แจงที่ประชุมเน้นเหตุผลที่ใช้วีโตมติลงโทษแพทย์ทั้ง 3 ราย โดยการลงโทษนี้อาจกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของแพทย์ในการรักษาผู้ป่วย ซึ่งอาจนำไปสู่อันตรายต่อผู้ป่วยในระยะยาว
รมว.สาธารณสุขกล่าวว่า คณะกรรมการแพทยสภาใช้เวลากว่า 5 เดือน ในการส่งเรื่องพิจารณาโทษ แต่คณะกรรมการกลั่นกรองจริยธรรมกลับประชุมเพียงครั้งเดียวก่อนการประชุมบอร์ด 7 วัน และใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมงในการปรับแก้โทษทั้งหมด ซึ่งที่ประชุมอาจไม่ได้พิจารณารายละเอียดอย่างถี่ถ้วนก่อนมีมติลงโทษ
สมศักดิ์บอกรู้สึกผิดก็ทบทวน
"ผมได้ให้แนวทางในเอกสารประกอบ 4 ข้อท้าย โดยขอให้คณะกรรมการทบทวนมติ หากรู้สึกผิดหรือพิจารณาว่ากรณีนี้เกี่ยวข้องกับบุคคลใกล้ชิดของตนเอง การชี้แจงครั้งนี้ไม่ใช่การข่มขู่แพทยสภา แต่เป็นการทำตามกฎหมายเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจนำไปสู่การใช้จ่ายงบประมาณรัฐในคดีความ ถ้าเราไม่พูดในที่ประชุมแล้วไปพูดทีหลังก็ไม่มีประโยชน์ การเริ่มต้นด้วยความโปร่งใสจะนำไปสู่การดำเนินการที่ถูกต้อง" รมว.สาธารณสุขกล่าว
ซักว่าในที่ประชุมมีการสอบถามเพิ่มเติมหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีการสอบถาม โดยใช้เวลา 15 นาทีตามที่กำหนด และออกจากห้องประชุมตามมารยาทเมื่อครบเวลา
รมว.สาธารณสุขกล่าวว่า มีผลสำรวจของนิด้าโพล ระบุความน่าเชื่อถือของแพทยสภาอยู่ที่ 54% ซึ่งถือว่าต่ำ และหากการตัดสินใจไม่รอบคอบ ความน่าเชื่อถืออาจลดลงอีก
ถามว่าในเอกสารที่ยื่นยับยั้งแพทยสภามีการระบุคำว่าตีวัวกระทบคราด นายสมศักดิ์กล่าวว่า การลงโทษแพทย์ในครั้งนี้ไม่เพียงกระทบตัวแพทย์ แต่จะสะเทือนทั้งระบบ ทำให้แพทย์รุ่นใหม่ขาดแรงจูงใจในการทำงาน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อวงการแพทย์โดยรวม ซึ่งการลงโทษแพทย์ในกรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีอดีตนายกรัฐมนตรีที่จบไปแล้ว แต่การลงโทษครั้งนี้อาจกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ ทำให้แพทย์รุ่นใหม่และนักเรียนแพทย์รู้สึกกังวล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการให้สัมภาษณ์ของนายสมศักดิ์มีมวลชนยืนรับฟัง พร้อมตะโกนขับไล่นายสมศักดิ์ และตั้งคำถามว่า สภานายกพิเศษมีไว้ทำไม โดยเมื่อนายสมศักดิ์สัมภาษณ์เสร็จก็ขึ้นรถยนต์ออกจากพื้นที่ทันที โดยมีมวลชนกรูเข้าไปหา ทำให้นายสมศักดิ์พูดเปรยๆ ออกมาว่ามีไข่ด้วยเหรอ อย่าเลยสูทของผมแพง
มีรายงานว่า ในที่ประชุมแพทยสภาเริ่มพิจารณาวาระสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภาวีโตมติแพทยสภาดังกล่าวในเวลา 12.00 น. โดยช่วงต้นเปิดโอกาสให้นายสมศักดิ์ชี้แจงถึงเหตุผลที่ได้ทำการวีโตเป็นเวลา 15 นาที จากนั้นคณะกรรมการแพทยสภาได้ดำเนินการประชุมพิจารณาต่อ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
แพทยสภายืนมติลงโทษ 3 หมอ
เวลา 15.00 น. ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกคนที่ 1 คณะกรรมการแพทยสภา แถลงผลการประชุมว่า วันนี้มีคณะกรรมการเข้าร่วม 69 คน แต่มีคณะกรรมการที่มีสิทธิ์ลงคะแนน 68 คน ผลการลงมติปรากฏว่า มากกว่า 2 ใน 3 มีมติยืนยันตามมติเดิมเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ให้ลงโทษแพทย์จำนวน 3 คน และมีการพิจารณาเป็นรายบุคคล คณะกรรมการดูแล้วในแต่ละคนที่ถูกร้องเรียนนั้น คณะกรรมการเกิน 60 คนที่มีความเห็นยืนยันตามมติเดิมในการลงโทษแพทย์แต่ละราย แต่ขอยังไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งทราบว่าทุกคนก็น่าจะรู้ว่าเป็นใคร รอให้แพทยสภาได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการส่งถึงเจ้าตัวก่อน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแพทย์ที่ถูกลงโทษพักใช้ใบอนุญาต 2 คนนั้น ระยะเวลาในการพักใช้นั้นไม่เท่ากัน เพราะฐานความผิดแตกต่างกัน โดยในวันที่ 13 มิ.ย. ก็สามารถมีคำสั่งออกจากแพทยสภาส่งถึงผู้ที่ถูกลงโทษได้ ส่วนจะมีผลเลยหรือไม่ก็ต้องมีกระบวนการ เช่น กรณีที่เราให้พักใช้ใบอนุญาตทางผู้ถูกลงโทษอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการสั่งงานที่ยังคั่งค้างอยู่ อาจจะมีคนไข้ที่นัดหมายเข้ารับการรักษาอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นตรงนี้นายกแพทยสภาจะเป็นผู้กำหนด และสื่อสารให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์กล่าวถึงกรณีเหตุผลที่นายสมศักดิ์ส่งวีโตเข้ามานั้นว่า กระบวนการการประชุมของคณะกรรมการแพทยสภาในวันนี้ ตนคิดว่าเรารับฟังความคิดเห็นอย่างชัดเจน สภานายกพิเศษก็ได้ให้ความเห็นในการวีโต ส่วนคณะกรรมการทุกคนก็ได้พิจารณารวมไปถึงเอกสารที่มีการส่งวีโตมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยนำมาเปรียบเทียบกับมติแพทยสภาว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นเมื่อเห็นข้อมูลเหล่านี้ และการใช้ดุลยพินิจของตัวท่านเองจึงมีมติออกมาตามนี้ ฉะนั้นตนคิดว่าการประชุมในวันนี้เป็นกระบวนการที่โปร่งใส ชัดเจน ทุกคนสามารถใช้ดุลยพินิจได้ภายใต้หลักวิชาการในข้อมูลหลักฐานที่เป็นจริงและเหตุผล
ถามถึงกรณีข้อกล่าวหาว่ามีแชตไลน์กลุ่มของแพทยสภาหลุด ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์กล่าวว่า ขอย้ำว่าไลน์กลุ่มนั้นไม่ใช่ไลน์อย่างเป็นทางการของแพทยสภา หากสังเกตจะพบว่ามีการลบป้ายตอนบน ซึ่งไม่ได้เป็นกรรมการของแพทยสภา และขออนุญาตออกชื่อเนื่องจากไลน์กลุ่มดังกล่าวมีการพูดถึงนายทักษิณ ชินวัตร แล้วมีกรรมการแพทยสภาส่งสติกเกอร์คำว่า "Yes" ลงไป ซึ่งตนเชื่อว่าทุกคนที่ใช้บริการไลน์ย่อมเคยเกิดเหตุการณ์ในการตอบกลับข้อความว่า "YES" หรืออาจจะเป็นข้อความอื่นเพื่อแสดงออกว่าได้รับข้อความนี้แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าเห็นด้วยกับสิ่งนั้น ดังนั้นขอย้ำว่า 1.นี่ไม่ใช่ไลน์กลุ่มอย่างเป็นทางการของแพทยสภา แต่เป็นแพทยสมาคม 2.การตอบกลับข้อความก็ไม่ได้เป็นการแสดงความคิดเห็น เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ไม่ได้กระทบต่อความน่าเชื่อถือของแพทยสภา
"สิ่งสำคัญผมพูดไปตั้งแต่การพิจารณาเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ว่าการพิจารณาวาระนี้แพทยสภาไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าใครหรือผู้ป่วยเป็นใคร เราพิจารณาตามหลักการ หลักวิชาการ และปลอดจากปัจจัยรอบข้าง" ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์กล่าว
ถามว่านายสมศักดิ์ได้นำคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดแนบเข้าไปกับการวีโตด้วย แพทยสภามีความกังวลหรือไม่ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์กล่าวว่า ในการทำงานของคณะกรรมการสอบสวนครั้งละ 1-6 ชม. มีเพียง 3 ครั้ง หลังจากที่ได้รับเอกสารเพิ่มเติมเมื่อเดือน เม.ย. และวันนี้เราได้มีการพิจารณาซ้ำอีก จึงคิดว่าเรามีการทำงานและการพิจารณาเยอะพอสมควร จึงแตกต่างจากที่ท่านวีโตเรื่องจริยธรรมการแพทย์ ไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับหลายๆ เรื่อง หลายวิชาชีพ วิชาการไม่เหมือนกัน คอนเซปต์ไม่เหมือนกันแล้วจะเอามาอ้างให้เทียบเคียงกันคงไม่เหมาะสม
ซักว่ากังวลกับกระแสที่มีข้อเรียกร้องให้เปิดรายชื่อว่ากรรมการแต่ละคนโหวตอย่างไร ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์กล่าวว่า การที่แพทย์จากหลากหลายสถาบัน หลากหลายรุ่น รวมทั้งประชาชนคนไทยกว่า 50,000 คน ที่ลงนามส่งมาถึงแพทยสภา จะเห็นว่าสาระหลักต้องการให้แพทยสภายึดมั่นยึดหลักความถูกต้อง และรักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ โดยสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่กรรมการแพทยสภาตระหนักและจะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว และตนขอเป็นตัวแทนกรรมการแพทยสภาทุกคน กราบขอบพระคุณแพทย์และประชาชนทั้งหลาย ที่แสดงออกอย่างชัดเจนให้แพทยสภาดำรงไว้ซึ่งความถูกต้อง รักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ แล้ววันนี้พวกเรากรรมการแพทยสภาก็ได้ทำสิ่งนั้นแล้ว
"ฉะนั้นสิ่งที่ให้มานั้นสำหรับผมมองว่าไม่ใช่แรงกดดัน แต่คือกำลังใจ เพราะเป็นสิ่งที่เราก็อยากทำ และความเห็นของผมคือชอบแล้วด้วยการกระทำ เพราะฉะนั้นที่ส่งมานั้นผมไม่ถือว่าเป็นแรงกดดัน แต่มีบางกลุ่มที่ใช้กลไกบางอย่างที่จะทำให้กรรมการแพทยสภาไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือขัดกับจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ให้เราทำในสิ่งที่เราไม่ต้องการทำ แบบนี้ถึงจะเรียกว่ากดดัน หรือถ้าว่าไปแล้วในบางกรณีเข้าเกณฑ์ข่มขู่ด้วยซ้ำ" ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์กล่าว
ถามว่า หากแพทย์ที่ถูกลงโทษไปฟ้องร้องต่อศาลปกครอง มติของแพทยสภาที่ให้ลงโทษจะมีผลหรือต้องรอให้กระบวนการทางศาลเสร็จสิ้นก่อน ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์กล่าวว่า การฟ้องร้องต่อศาลสามารถทำได้ เราต้องเดินตามแนวทางของตุลาการ ซึ่งก็สามารถชี้แจงได้ นี่คือธรรมาภิบาลของประเทศนี้ หากเห็นว่าไม่ถูกก็สามารถไปร้องได้ ส่วนทางแพทยสภาก็ออกตามมติไป รวมทั้งหลังจากนี้เรากำลังพิจารณาว่าจะพิจารณาจริยธรรมแห่งวิชาชีพของแพทย์เพิ่มเติม
เมื่อถามว่า นายสมศักดิ์ระบุเหตุผลในการวีโตเพื่อแพทย์รุ่นใหม่ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นแพทย์รุ่นใหม่หรือแพทย์รุ่นเดิม เราได้รับการอบรมสั่งสอนมาเหมือนกัน เราเข้าใจจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ และเราเข้าใจความถูกต้อง เราเข้าใจบทบาทหน้าที่เหมือนกัน
"ผมก็อยากจะย้ำวันนี้ เราทำตามสิ่งที่เราถูกสั่งสอนไว้ แล้วผมคิดว่าแพทย์ที่กำลังเรียนอยู่ก็ใช้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษา ก็ได้เห็นว่าบทบาทของแพทย์มีมากมาย ไม่ใช่แค่การรักษาเพียงอย่างเดียว แต่คือการรักษามาตรฐานของการรักษา" ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์กล่าว
มีรายงานว่า การประชุมครั้งมีกรรมการลาประชุม 1 คน คือปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่ง 1 คนมีส่วนเกี่ยวข้อง (รพ.ตำรวจ) ไม่สามารถลงคะแนนได้ โดยมีคะแนนเต็ม 68 คดีแรก พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ ลงคะแนน ยืนมติเดิม 67 ไม่ออกเสียง 1 ส่วน พล.ต.ท.นพ.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ถูกพักใช้ใบอนุญาต 3 เดือน อดีต นพ.ใหญ่ รพ.ตำรวจ คะแนนเต็ม 68 ยืนมติเดิมแพทยสภา 64 เห็นด้วยกับการวีโต 2 ไม่ออกเสียง 2 พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ พักใบอนุญาต 6 เดือน คะแนนเต็ม 68 ยืนมติเดิม 65 เห็นด้วยกับสภานายกพิเศษวีโต 1 ไม่ออกเสียง 2
ต่อมาเวลา 15.44 น. นายสมศักดิ์ให้สัมภาษณ์หลังรู้แพทยสภายืนตามมติเดิมว่า ไม่เป็นไร ไม่ได้คิดว่าจะออกมาอย่างไร เพราะทำตามหน้าที่ให้ครบถ้วน
ถามว่ารู้สึกอย่างไรที่วีโตไม่เป็นผล นายสมศักดิ์กล่าวว่า ได้ส่งเอกสารไปให้คณะกรรมการทุกคนได้อ่าน แล้วอ่านไม่ทันหรือไม่ก็งง
ซักว่าจากนี้จะมีผลต่อการทำงานร่วมกับแพทย์กลุ่มต่างๆ หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ต้องไปถามกลุ่มแพทย์ว่าทำงานกับตนได้หรือไม่ แต่ตนไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ทำหน้าที่หมดแล้ว เป็นหน้าที่ของท่านอื่นก็ว่ากันต่อไป ก็ขอให้ทุกคนมีความสุข
นายกฯ อิ๊งค์นิ่งไม่แสดงความเห็น
ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งไปเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “พลังสตรีเพื่อการพัฒนา เสริมสร้างโอกาส สร้างอนาคต” ไม่ตอบคำถามสื่อกรณีแพทยสภายืนมติเดิมในการลงโทษแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวนายทักษิณจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์มารักษาตัวต่อที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยตลอดทางที่นายกฯ เดินทางออกจากงานดังกล่าวมีคณะทำงานรวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย คอยช่วยทำหน้าที่กันสื่อมวลชนไม่ให้เข้าใกล้จนถึงประตูรถ
วันเดียวกัน นายรัฐวิชญ์ อริยพัชญ์พล โฆษกศาลยุติธรรม แจ้งว่า ในวันศุกร์ที่ 13 มิ.ย.นี้ เวลา 09.30 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (อม.) นัดพร้อมและนัดไต่สวน กรณีการแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบังคับโทษจำคุกของนายทักษิณ เพื่อการอำนวยความสะดวกและดูแลความเรียบร้อยบริเวณศาล จึงได้ให้สื่อมวลชนที่ประสงค์จะเข้ารับฟังการพิจารณาเพื่อทำข่าวกรอกแบบฟอร์มและเขียนคำร้องขออนุญาตเข้าฟังการพิจารณาส่งถึงสำนักเลขานุการศาลฎีกาก่อนวันนัด
ทั้งนี้ หากมีสื่อมวลชนสนใจเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาจำนวนมาก ศาลฎีกาฯ จะจัดพื้นที่เฉพาะนอกห้องพิจารณาพร้อมถ่ายทอดภาพและเสียงให้สื่อมวลชนติดตามการพิจารณา รวมทั้งศาลฎีกาฯ ได้กันพื้นที่หน้าศาลฝั่งริมคลองหลอดไว้รองรับให้สื่อมวลชนถ่ายทอดข่าว หลังเสร็จสิ้นการพิจารณา ศาลฎีกาจะจัดทำเอกสารข่าวแจกสื่อมวลชน
ด้านนายภูเทพ ทวีโชติธนากุล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะรองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ขณะนี้ ป.ป.ช.มอบหมายให้สำนักงาน ป.ป.ช.จัดส่งคำแถลง คำชี้แจง พร้อมเอกสารประกอบไปยังศาลฎีกาฯ และศาลฎีกาฯ ได้รับคำแถลง/คำชี้แจง (คำร้องของโจทก์ ป.ป.ช. เพื่อประกอบการพิจารณาแล้ว โดยศาลฎีกาฯ ไม่ได้แจ้งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการเพิ่มเติมในเรื่องใดอีก ดังนั้นคณะผู้แทนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังคงไปศาลฎีกาฯ ในวันที่ 13 มิ.ย. ตามกำหนดนัด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลตีตกทักษิณ ขอพิจารณาลับ ไต่สวน9ผู้คุมคุก
ศาลฎีกาเริ่มไต่สวนพยานคดีทักษิณชั้น 14 วันที่ 3 เรียกพัศดีเวร จนท.ราชทัณฑ์ 9 ปากขึ้นสอบ "หมอวรงค์"
ครม.เคาะ1ต.ค. รถไฟฟ้า20บาท ตลอดสายทุกสี
ครม.ไฟเขียว “รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย” ดีเดย์ 1 ต.ค.นี้ ครอบคลุมทุกสายทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ทลายแก๊งคนสนิทฮุนเซน วธ.ปัดเขมรเคลมชุดไทย
"อิ๊งค์" ปิดปากกัมพูชาเรียกร้องคืนวัตถุโบราณ 20 ชิ้น "วธ." แจงเขมรเสนอ "ประเพณีแต่งงาน" ขึ้นทะเบียนยูเนสโกไม่พบข้อมูลอ้างอิง "ชุดไทย"
5หมื่นล.สู้ภาษีทรัมป์ คลังช็อก1ส.ค.เก็บไทย36%เร่งชงข้อเสนอใหม่เอาใจสหรัฐ
"ทรัมป์" ส่งจดหมายถึงไทย เก็บภาษีนำเข้าสหรัฐคงเดิม 36% มีผล 1 ส.ค.นี้
มท.อ้วนโชว์เชือดสิงห์นํ้าเงิน
“ภูมิธรรม" ไม่รอ 3 เดือน โยก 2 อธิบดีสายสีน้ำเงินเข้ากรุ มท.ทันที หลังทำงานเพียง 5 วัน
‘ตุลย์’ค้านผบ.ตร. ปูนบำเหน็จ2นพ. จี้ตั้งกก.ฟันวินัย
"หมอตุลย์" บุก ตร.ยื่นหนังสือ ผบ.ตร. ค้านเลื่อนตำแหน่ง 2 นายแพทย์ตำรวจ