เขมรรุกหนัก "ฮุน เซน" งัด 6 มาตรการโต้ไทยหากปิดด่านชายแดน สั่งแบนสินค้าไทย-ไม่ให้ผูู้ป่วยข้ามมารักษา-เรียกแรงงานกลับ-สั่งกำลังพร้อม 24 ชม. อึ้ง! "นายกฯ อิ๊งค์" ออกตัวแทน เชื่อกัมพูชาเข้าใจผิดคิดว่าไทยจะตัดไฟ-เน็ต ส่ง "บัวแก้ว" รีบเคลียร์เขมรขุ่นเคือง ยังเชื่อคุยวงประชุม JBC คลี่คลายทุกสถานการณ์ "อนุทิน" บอก 3 จว.อีสานใต้ ขอมั่นใจทหารไม่ให้ใครรุกล้ำอธิปไตย ขึงขังถ้ารุกล้ำมาพร้อมไปรบด้วย "แม่ทัพภาค 2" เชื่อผู้นำกัมพูชารุกไทยแค่พยายามแก้เกมดึงมวลชน "ฝ่ายค้าน" จี้รัฐบาลแสดงจุดยืนอย่าแค่ตั้งรับ แนะพุ่งเป้ากดดันกาสิโนกระเป๋าสตางค์ตระกูลฮุน
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กเสนอแนวทางการดำเนินการของฝ่ายกัมพูชาหากไทยไม่ยอมเปิดด่านชายแดน ระบุว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาผมได้ออกแถลงการณ์ และเช้านี้ผมได้แจ้งต่อรัฐบาลอีกครั้ง ในกรณีที่ฝ่ายไทยไม่ยอมเปิดด่านชายแดนที่ปิดไปฝ่ายเดียว กัมพูชาจะต้องดำเนินการ 1.ประกาศระงับการนำเข้าสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดกัมพูชา ซึ่งหมายความว่าต้องหยุดใช้สินค้าไทยและแทนที่ด้วยสินค้าในประเทศหรือผลิตภัณฑ์จากประเทศอื่นที่ไม่ใช่ไทย 2.เตรียมซื้อสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ที่ชาวกัมพูชาเคยส่งออกมายังประเทศไทย โดยแสวงหาตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างจริงจัง 3.ส่งตัวผู้ป่วยที่เคยเข้ารับการรักษาในประเทศไทยไปยังโรงพยาบาลในประเทศหรือสถาบันการแพทย์ในประเทศอื่น
4.เตรียมรับและจัดการโอกาสการจ้างงานแรงงานที่จะเดินทางกลับจากประเทศไทย ปัจจุบันกัมพูชากำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานหลายหมื่นตำแหน่งในภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และก่อสร้าง แรงงานชาวกัมพูชาอาจเลือกที่จะกลับประเทศโดยสมัครใจก่อนที่ไทยจะส่งตัวกลับประเทศ เนื่องจากขณะนี้แรงงานเหล่านี้กำลังเผชิญกับการเลือกปฏิบัติและการดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างรุนแรงในบางพื้นที่ 5.กองกำลังติดอาวุธทั้งหมดต้องอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมที่จะตอบสนองและป้องกันในกรณีที่เกิดการรุกราน 6.จังหวัดใกล้ชายแดนต้องเตรียมพร้อมที่จะอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย และต้องแน่ใจว่ามีอาหาร ยา และวัสดุจำเป็นอื่นๆ เพียงพอ
"หากประเทศไทยไม่สามารถแก้ไขปัญหาการเปิดด่านตรวจชายแดนและกลับสู่ภาวะปกติได้ เราก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดำเนินการตามมาตรการเหล่านี้ ข้าพเจ้าขอวิงวอนพี่น้องประชาชน อย่ากระทำการสุดโต่ง เช่น การประท้วงต่อต้านสถานทูตไทย บริษัทไทย หรือคนไทยในกัมพูชา และอย่าเกลียดชังคนไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มีศีลธรรม มีเพียงกลุ่มหัวรุนแรงและกลุ่มทหารบางกลุ่มเท่านั้นที่อยู่เบื้องหลังปัญหาเหล่านี้กับกัมพูชา เพราะตามปกติแล้ว รัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมกองทัพได้ในแบบที่ประเทศของเราทำได้" สมเด็จฮุน เซน ระบุ
เว็บไซต์ขแมร์ไทม์สของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงข่าวสารกัมพูชาได้ออกหนังสือถึงเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งแจ้งให้ทราบว่า ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 12 มิ.ย.เป็นต้นไป ทุกสถานีของกัมพูชาต้องงดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภท นอกจากนี้กระทรวงศิลปะและวัฒนธรรมกัมพูชายังออกประกาศแจ้งเตือนให้ระงับการฉายและห้ามนำเข้าภาพยนตร์ไทยทุกประเภทในกัมพูชา
นอกจากนี้ สหพันธ์กุนขแมร์ออกประกาศดำเนินการตามนโยบายของสมเด็จฮุน เซน สั่งห้ามนักมวยจากไทยทั้งชายและหญิงขึ้นเวทีเข้าร่วมการแข่งขัน
อิ๊งค์ป้องเขมรเข้าใจผิดไทย
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกัมพูชาปิดด่านชายแดนฝั่งกัมพูชา บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ว่า ตอนแรกกัมพูชาได้ยินว่าประเทศไทยจะตัดน้ำตัดไฟบริเวณชายแดน ซึ่งเป็นมาตรการที่ต้องผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก่อน เรายังไม่ได้ประกาศอย่างนั้นออกไป เป็นเพียงมาตรการเตรียมความพร้อม แต่เรายังไม่ได้ดำเนินการ
"อาจมีการเข้าใจผิดกันเกิดขึ้น ดิฉันก็ได้สอบถามนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะอาจมีความเข้าใจผิดว่ารัฐบาลได้ออกแถลงการณ์ว่าจะตัดน้ำตัดไฟ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่มีการพูดคุยกันได้ตกลงกันเรียบร้อยว่าทั้ง 2 ฝ่ายมีการปรับกำลังและไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น และเรารอที่จะประชุม คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) วันที่ 14 มิ.ย. จึงต้องฝากสื่อสารว่าเรื่องตัดน้ำตัดไฟ รัฐบาลยังไม่มีแถลงการณ์ออกไป" น.ส.แพทองธารกล่าว
ถามว่า ต้องประสานโดยตรงไปยังผู้นำกัมพูชาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวจะให้กระทรวงการต่างประเทศประสานดูว่าข้อมูลนั้นมาอย่างไร และเป็นกระบวนการอย่างไร แน่นอนว่าทุกสถานการณ์ต้องมีการเตรียมความพร้อม เมื่อผ่าน สมช.แล้วถึงจะเกิดขึ้นได้ แต่เรื่องนี้ยังไม่ผ่าน สมช. แต่เป็นกระบวนการที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ไม่รู้ว่าข้อมูลหลุดไปอย่างไรจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด
ซักว่าเพราะเหตุใดเมื่อเราตกลงกันได้พอผ่านไปวันสองวันทางกัมพูชาก็เปลี่ยนไป นายกฯ กล่าวว่า มันมีข้อมูลเพิ่มเติมที่ไม่ใช่ข้อมูลทางการ ซึ่งก็ต้องอธิบาย
ทั้งนี้ ช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล น.ส.แพทองธารเป็นประธานและมอบนโยบายในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลกประจำปี 2568 ภายใต้หัวข้อ การทูตเชิงรุกที่ตอบโจทย์ประชาชนจากนโยบายสู่การปฏิบัติ
น.ส.แพทองธารกล่าวตอนหนึ่งว่า เรื่องกรณีข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ทุกท่านมีหน้าที่ในการอธิบายเหตุผลให้กับมิตรประเทศเข้าใจว่า ความจำเป็นที่ไทยต้องดำเนินมาตรการต่างๆ เหตุผลที่ไทยยึดมั่นในกฎของทวิภาคีเป็นเพราะอะไร รวมถึงความช่วยเหลือที่ไทยมีให้กับกัมพูชามาตลอดตั้งแต่อดีตและปัจจุบัน จึงอยากให้เน้นย้ำในเรื่องนี้ว่า เราไม่ได้มีความต้องการที่จะให้เกิดความรุนแรงขึ้น
"ตัวดิฉันเองยังประสานกับกองทัพตลอด พูดคุยกัน แต่มีเสียงเชียร์ให้เกิดการทะเลาะ เกิดความรุนแรง เราไม่ได้ต้องการให้เกิดเรื่องนั้น การเชียร์กันในโซเชียล เราไม่ได้อยู่หน้างาน คนที่อยู่หน้างานคือคนที่ต้องเสี่ยง ดิฉันเองได้พบและพูดคุยกับคนหน้างาน ไม่มีใครอยากให้เกิดความรุนแรง จุดยืนเราจะแก้ปัญหาด้วยความสันติ คือสิ่งที่สำคัญที่อยากให้ช่วยสื่อสารในเรื่องนี้" น.ส.แพทองธารระบุ
ช่วงเย็น น.ส.แพทองธารโพสต์เฟซบุ๊กและทวีตผ่าน x ระบุว่า เมื่อสถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาเดินมาถึงจุดที่จะมีการเจรจากันผ่านกลไก JBC ในวันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) รัฐบาลไทยขอใช้พื้นที่ในเวทีดังกล่าว คลี่คลายสถานการณ์โดยสันติวิธี และยังคงมาตรการเดิมที่มีข้อสรุปร่วมกันเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2568 เรื่องการเมืองระหว่างประเทศโดยเฉพาะเพื่อนบ้านควรคุยกันอย่างมิตร การแสดงท่าทีหรือกำหนดแนวทางต่างๆ ผ่านโซเชียลมีเดียแทนที่จะส่งผลเชิงบวกอาจกลายเป็นเพิ่มความขัดแย้ง
"หากสถานการณ์ลุกลาม เราก็พร้อมทุกประการโดยไม่หวั่นไหว มาตรการเพื่อรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประเทศไทยและประชาชนชาวไทย ได้มีการเตรียมการอย่างรัดกุม รอบด้าน พร้อมดำเนินการทันที แต่เรายังคงเจตจำนงที่จะเริ่มต้นในกรอบ JBC และขอรักษาบรรยากาศเพื่อนำไปสู่การเจรจา หลังจากนั้นจะประเมินผลจากการเจรจารอบแรก เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการต่อไปค่ะ" น.ส.แพทองธารระบุ
หนูขึงขังถ้าล้ำไทยพร้อมรบ
ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ และการแจ้งเตือนภัยสาธารณภัยในระดับพื้นที่ (จังหวัดอุบลราชธานีอำนาจเจริญ และศรีสะเกษ) โดยมีผู้ว่าฯ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และศรีสะเกษ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กองอาสารักษาดินแดน (อส.) ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และประชาชนในพื้นที่ ร่วมประชุม
นายอนุทินกล่าวตอนหนึ่งว่า ประกาศวันนี้เลยไม่ต้องกังวล มท.มั่นใจพี่น้องทหารจะไม่ให้มีการรุกล้ำเข้ามาในบ้านเรือนของพวกเรา เต็มที่ก็อยู่ตรงแนวนั้น ถ้ารุกกันมาขนาดนั้นมันก็ไม่มีกระทรวงมหาดไทย ไม่มีทหาร ไม่มีตำรวจแล้ว มีแต่คนไทย มีแต่นักรบแล้ว
"ถ้าหากมาอย่างนั้นผมก็จะมารบกับเขาด้วย จะกลัวอะไรปกป้องบ้านเมือง ชีวิตหนึ่งเจอแบบนี้สักครั้งหนึ่ง ได้ทำอะไรที่รู้สึกว่าได้ปกป้องผืนแผ่นดินของเรา ปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนของเรา ต้องมองว่าถ้ามันจำเป็นก็ต้องทำ เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ไม่ได้เป็นหน้าที่ของรั้วของชาติอย่างเดียว" นายอนุทินกล่าว
รองนายกฯ กล่าวว่า วันนี้หากมีความจำเป็นต้องตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต ตัดน้ำ ที่เราส่งขายให้ฝั่งโน้น ถ้าฝ่ายความมั่นคงแจ้งมาเราพร้อมปิดทันที แต่ก็อย่าให้มีอะไรรุนแรงไปมากกว่านี้ จะได้ทำมาหากินได้ ความสงบสุขจะได้เกิดขึ้น เพราะอย่างไรเราก็อยู่กันอย่างนี้ แต่ที่แน่นอนคือแผ่นดินของเราตารางนิ้วเดียวก็เสียไม่ได้ นั่นคือเป้าหมายที่แน่นอนของเรา" นายอนุทินกล่าว
ต่อมานายอนุทินให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ถึงกรณีกัมพูชาออกหลายมาตรการตอบโต้ฝ่ายไทยว่า เขาออกมาตรการอะไรมาก็ถือว่าเป็นเรื่องของเขา แต่หากถามว่ามาตรการเหล่านี้มีอะไรที่เราเดือดร้อนหรือไม่ ตนคิดว่าไม่มี อย่างการไม่ใช้ไฟหรืออินเทอร์เน็ตของเรา เราก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร หรือการไม่ได้ดูละครไทย ตนมองว่าคนไทยก็ไม่เดือดร้อน ซึ่งการไม่ใช้ของไทยก็อาจจะทำให้เขาต้องซื้อของแพงมากขึ้น เพราะสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่เป็นสินค้าไทย ทั้งนี้ เราคิดว่าเราอยู่กันด้วยการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ด้วยความร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา แต่หากเขาปฏิเสธสิ่งเหล่านี้ เราก็คงห้ามอะไรเขาไม่ได้ แต่สักพักก็คงดีขึ้น
ถามว่า กัมพูชาจะไม่ซื้อไฟฟ้ากับทางการไทย ในฐานะผูัมีอำนาจสั่งการและควบคุมดูแลเรื่องไฟฟ้าจะมีมาตรการเชิงรุกอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าเขาไม่ซื้อ เราก็ไม่ต้องปิด ซึ่งก็ดี แต่ถ้าฝ่ายความมั่นคงหรือฝ่ายทหารแจ้งมาว่าให้ตัดไฟ มท.มีความพร้อมอยู่แล้ว พร้อมทำทันที
ส่วนนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีรัฐบาลกัมพูชาจะเรียกแรงงานกัมพูชากลับประเทศว่า ขณะนี้มีแรงงานสัญชาติกัมพูชาที่เข้ามาทำงานไทยประมาณ 5 แสนคน ซึ่งทางกระทรวงแรงงานได้กำชับ 5 เสือแรงงาน ในการสอดส่องดูแลในแต่ละพื้นที่ ซึ่งตนมั่นใจว่าเรายังมีแรงงานมาทดแทนได้อย่างเท่าทันและทันเวลา สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่มีอะไร ยังไม่อยากพูดอะไรไปล่วงหน้า ซึ่งอาจจะเป็นการชี้นำหรือปลุกกระแสชาตินิยม เป็นการไม่ดีสำหรับรัฐบาลทั้งสองฝ่าย
มทภ.2 ชี้ผู้นำเขมรแค่แก้เกม
ที่บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. และ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางไปให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่บริเวณฐานปฏิบัติการมรกต พื้นที่ช่องบก ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.
พล.ท.บุญสินให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.ว่า ไม่มีอะไรเน้นย้ำเป็นพิเศษ ก็รอดูสถานการณ์
ถามว่าถ้าหากผลการเจรจาเป็นลบมีแผนรองรับไว้หรือไม่นั้น แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ก็มี 1 2 3 ก็ว่าไป เมื่อถึงมาตรการตอบโต้ทางฝั่งกัมพูชา แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ไม่มีๆ เราก็ดูภาพรวม ดูทางรัฐบาลเป็นหลักก่อน
พอถามว่า ในโซเชียลผู้นำทางฝั่งกัมพูชาพยายามบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากกองทัพทหารบางส่วนที่รัฐบาลคุมไม่อยู่นั้น แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ไม่ใช่ เป็นเรื่องการเมือง เมื่อถามต่อว่าการเมืองอะไร แม่ทัพภาคที่ 2 ตอบว่า เขาพยายามแก้เกมให้ประชาชนในประเทศเขา ยืนยันไม่หวั่นไหวกับกระแสข่าวนี้
พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นที กล่าวถึงกรณีกัมพูชาตัดสายเคเบิลเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) ของเอกชนไทยที่ให้บริการไทยไปยังกัมพูชาว่า การให้บริการอินเทอร์เน็ตของเอ็นทีไปยังกัมพูชา ตรวจพบว่าสัญญาณคุณภาพลดลง จึงได้สั่งการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ พบว่าสายเคเบิลที่ส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) ไปยังกัมพูชาถูกตัดใน 2 เส้นทางคือ เส้นทางจากอรัญประเทศ และเส้นทางจากเกาะกูดไปยังกัมพูชา ซึ่งส่งผลให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตสองเส้นทางดังกล่าวใช้งานไม่ได้
“การถูกตัดสัญญาณสองเส้นทางดังกล่าว ส่งผลกับลูกค้าของเอ็นทีที่เป็นบริษัทเอกชนของไทยที่เข้าไปประกอบธุรกิจในกัมพูชาในการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตเพื่อการทำธุรกิจ ซึ่งตอนนี้คงยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ว่ามีมูลค่าเท่าใด” กรรมการผู้จัดการใหญ่เอ็นทีระบุ
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จฮุน เซน ประกาศ 6 มาตรการตอบโต้ประเทศไทยว่า ทั้ง 6 มาตรการนั้น ฮุน เซน และฮุน มาเนต ทำเพื่อสร้างผลกระทบทางลบต่อความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตของประชาชนชาวกัมพูชาทั้งสิ้น ทั้งการค้าขาย ที่น่าตกใจคือการส่งตัวผู้ป่วยมารักษาในประเทศไทยเพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิตก็มีการจำกัด ทั้ง 6 มาตรการล้วนส่งผลต่อประชาชนแบบไม่แคร์ ไม่มีมาตรการใดที่ยอมเสียผลประโยชน์ของตัวเองที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจกาสิโนที่เป็นกระเป๋าเงินของตระกูลฮุนเลย
“ผมขออนุญาตแนะนำนายกฯ และ รมว.กลาโหม ว่ามาตรการใดๆ คงต้องพุ่งเป้าไปที่กลุ่มผลประโยชน์ที่มีเครือข่ายโยงใย เชื่อมโยงกับตระกูลฮุน ซึ่งผมขอให้คีย์เวิร์ดคือ LYP Group ซึ่งถือเป็นกลุ่มทุนที่เชื่อมโยงกับตระกูลฮุนโดยตรง เกี่ยวข้องกับธุรกิจกาสิโนขนาดใหญ่ที่ประเทศกัมพูชา และมีความโยงกับกลุ่มทุนไทย รวมถึงนักการเมืองไทยบางกลุ่มด้วย รัฐบาลจะต้องดำเนินการเข้าไปตรวจสอบ และหากพบว่ามีการใช้ไทยเป็นฐานการกระทำความผิดก็ดำเนินการกวาดล้างให้สิ้นซาก และมาตรการในการจัดการกลุ่มอาชญากรรมแบบนี้จะเกิดประโยชน์กับประชาชน และเป็นมาตรการที่พุ่งเป้าไปที่กระเป๋าเงินของตระกูลฮุน เพื่อทำให้รัฐบาลกัมพูชาเข้ามาสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้งหนึ่ง” นายวิโรจน์กล่าว
เช่นเดียวกับ นายทิวากร สุระชน รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่า ท่าทีของกัมพูชาในครั้งนี้ชัดเจนว่าเป็นการเดินหมากเชิงรุก ทั้งในมิติการทูต เศรษฐกิจ และความมั่นคง ขณะที่ฝ่ายไทยกลับยังคงอ้างว่าเป็นความเข้าใจผิดและเลือกใช้ช่องทางการประสานงานทางการทูตเพื่อชี้แจง แทนที่จะออกมาตรการเชิงรุกหรือประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนต่อสาธารณะ ทำให้ไทยกลายเป็นตัวตลกในสถานการณ์ความมั่นคงระหว่างประเทศที่กำลังร้อนระอุอยู่ในเวลานี้
“ความไม่ชัดเจนของนายกฯ และ รมว.กลาโหมในช่วงหลายวันที่ผ่านมา กลายเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ทำให้ไทยเสียเปรียบในการเจรจา และกลายเป็นฝ่ายตั้งรับโดยสิ้นเชิง" รองเลขาฯ พรรค ทสท.กล่าว
ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา จัดกิจกรรมเสวนาในหัวข้อ “การถกแถลงเพื่อรักษาแผ่นดินไทย: เราจะรักษาแผ่นดินไทยอย่างไร” โดยเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ 4 คน ได้แก่ นายวีรพันธุ์ มาไลยพันธุ์ อดีตคณบดีคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้เชี่ยวชาญด้านปราสาทต่างๆ, นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีต สว., นายดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายวันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น
พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา สรุปผลการเสวนาว่า ปัญหาชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชามีความทับซ้อนและสะสมมานาน ดังนั้นการจะดำเนินการเรื่องใดเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จึงต้องความรอบคอบ จำเป็นต้องถกแถลง เพื่อให้ได้มุมมองทางวิชาการ
จ.จันทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกัมพูชาปิดด่านถาวรบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าชายแดน ทำให้รถบรรทุกฝั่งกัมพูชาที่ข้ามมาซื้อของฝั่งไทยข้ามกลับไปฝั่งกัมพูชาไม่ได้
พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า รถขนส่งสินค้าค้างอยู่ที่ด่านฝั่งไทยประมาณ 150 คัน ค้างอยู่ฝั่งกัมพูชาประมาณ 70 คัน โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้เร่งรัดประสานงานกับฝั่งกัมพูชาขอให้เปิดด่าน ระบายรถที่ตกค้างของทั้งสองฝั่ง
กระทั่งเวลา 17.00 น. ฝั่งกัมพูชาได้เปิดประตูเพื่อระบายรถขนส่งสินค้าทั้งสองฝั่งแล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประจำด่านได้เข้าช่วยอำนวยความสะดวกดังกล่าวเพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการผ่านแดน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สิงห์อ้วนบี้อธิบดี แจง‘เขากระโดง’ เสี่ยหนูท้าเอาผิด
"สิงห์อ้วน" แบ่งงาน 2 รมช.มท. เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค." มอบ “เดชอิศม์”
ชงDSIสางคดีสีกากอล์ฟ พศ.เร่งรื้อกฎคุมเงินพระ
"โยมอ้วน" ประสานดีเอสไอช่วยตำรวจสอบสวนกลางทำคดี “สีกากอล์ฟ”
เคาะ‘วิทัย’นั่งผู้ว่าฯธปท. มีวิสัยทัศน์แก้ปัญหาศก.
"พิชัย" เผยเซ็นเสนอชื่อผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่แล้ว พร้อมชง ครม.พิจารณา 15 ก.ค.
ยื่นสอบ‘สทร.’ครอบงำ‘เพื่อไทย’
"สหายใหญ่" ออกโรงซูฮก "นายใหญ่ทักษิณ" มือฉมังล็อบบี้ยิสต์
แม้วทรยศชาติตัวเอง ‘ฮุนเซน’แฉรายงานทุกวันส่งเอกสารลับ‘อภิสิทธิ์’ให้ด้วย
“ฮุน เซน” มาแล้ว ย้อนเกล็ดวาทะ “ทักษิณ” มัดประเทศไทยแหล่งค้ายา-ฟอกเงิน
ตร. หอบสำนวนหลักฐานคดีคลิปเสียง ยื่น 'อสส.' ฟ้อง 'ฮุนเซน'
'ตำรวจไซเบอร์' หอบสำนวนคดีคลิปเสียง 'ฮุนเซน' ยื่น 'อสส.' รับเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เอาผิดข้อหาทำลายความมั่นคง