DSIเรียก7พยาน คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน ขบวนการฮั้วสว.

"ดีเอสไอ" ร่อนหมายเรียกพยานคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน ปมฮั้ว สว.67 ล็อตแรก 7 ราย ให้เข้าชี้แจงเหตุรับโอนเงิน 1 ก.ค.นี้ หลังหลักฐานบ่งชี้ เชื่อเป็นงบประมาณในการจัดตั้งผู้สมัคร เกี่ยวพันพื้นที่ 3 ภาค “เหนือ-อีสาน-ใต้”

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน มีความคืบหน้าจากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ และในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ลงพื้นที่จริงและจำลองเหตุการณ์ ณ อิมแพ็ค ฟอรัม ฮอลล์ 4  เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปจัดทำเป็นระบบแผนที่อัจฉริยะ GEO-AI คือการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และระบบภูมิสารสนเทศ (Geospatial Technology) ในการแสดงเหตุการณ์การเลือก สว.ระดับประเทศ พิจารณาพฤติกรรมกลุ่มบุคคลที่ปกปิดวิธีการดำเนินการและความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายในการเลือก สว. จำนวน 138+2 ราย

อีกทั้งยังมีการใช้ระบบเอไอในการตรวจจับใบลงคะแนนที่มีลักษณะผิดปกติ เพื่อตรวจสอบว่ามีการกาหมายเลขชุดเรียงกันซ้ำๆ หลายฉบับ หรือโหวตลงคะแนนตามโพย รวมถึงมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการจัดฮั้ว เพื่อเตรียมพิจารณาออกหมายเรียกพยานมาให้การชี้แจงเรื่องเส้นทางการเงินตามขั้นตอน ตามที่มีการนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ภายหลังจากที่ดีเอสไอ โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่ง สว. รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน หรือคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน ขบวนการฮั้ว สว. ซึ่งได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่รับเป็นคดีพิเศษ โดยเฉพาะการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ด้วยการทำหนังสือประสานขอรายการเดินบัญชีของบุคคลจากธนาคาร

ล่าสุด คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้พิจารณาออกหมายเรียกพยานล็อตแรก จำนวน 7 ราย ซึ่งไม่ใช่ สว. โดยนัดหมายให้ทยอยเข้ามาชี้แจงเรื่องเส้นทางการเงิน เหตุผลในการโอนและรับโอนเงินในวันที่ 1 ก.ค.นี้ เนื่องจากพนักงานสอบสวนพบพฤติการณ์มีเส้นทางการเงินเกี่ยวพันในช่วงเลือกตั้ง มีการรับโอนเงิน ซึ่งเชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับงบประมาณในการจัดตั้งผู้สมัคร โดยทั้ง 7 รายนี้มีการกระทำอยู่ในหลายพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง