กอดชามข้าวตายหมู่ ‘อิ๊งค์’บีบน้ำตาขออภัยคลิปฉาว/รทสช.ชง‘ชัยเกษม’ขัดตาทัพ

"นายกฯ อิ๊งค์" แถลงขออภัย ปชช.  คลิปคุย "ฮุน เซน" ทำให้ไม่สบายใจ ลั่นรัฐบาล-กองทัพเคลียร์เข้าใจกันแล้ว จุดยืนตรงกันปกป้องอธิปไตย พร้อมซัพพอร์ตกองทัพทุกอย่าง ปลุกคนในชาติสามัคคีไปด้วยกัน ซัดการกระทำ "ลุงฮุน"  ทั่วโลกไม่ยอมรับ วางคิวไปชายแดนอุบลฯ ขึ้นฐานมรกต 20 มิ.ย. พบ มทภ.2 เคลียร์ใจอีกครั้ง  "ภูมิธรรม" เชื่ออิ๊งค์ขอโทษแล้วจบ มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบเทอม บอกพรรคร่วมฯ ที่เหลือเหนียวแน่น ปัดต้องหาเพิ่ม "รทสช.-ปชป.-ชทพ." ยังกั๊กถอนตัว  ขณะที่ รทสช.ถกเครียดก่อนมีมติให้ "พีระพันธุ์" คุย "อุ๊งอิ๊ง" เสนอเปลี่ยนตัวนายกฯ เป็น "ชัยเกษม" แทน   "ทวี-นฤมล" เสียงหวานอยู่ต่อ "ภราดร" ไขก๊อกรอง ปธ.สภาฯ "พปชร.-ทสท." จี้ลาออก "ปชน." ผวาทหารยึดอำนาจ ร้องต้องยุบสภา "ผบ.ทบ." สยบกระแสรัฐประหาร แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 19 มิ.ย.2568 เวลา 09.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี   เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ตึกไทยคู่ฟ้า โดยใช้ทางเข้าประตูสะพานอรทัย เนื่องจากมีการปิดถนนบริเวณประตูเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ เส้นทางเข้า-ออกประจำ ที่มีกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ปักหลักชุมนุมเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธารแสดงความรับผิดชอบต่อคลิปการสนทนาสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

จากนั้น น.ส.แพทองธารได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพบ เพื่อให้รายงานผลการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดกรณีคลิปเสียงดังกล่าว โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ, พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม, พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทสส., พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร.,  พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เสนาธิการทหารเรือ ตัวแทน ผบ.ทร., พล.อ.อ.วชิระพล เมืองน้อย เสนาธิการทหารอากาศ ตัวแทน ผบ.ทอ. ที่ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ และ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ติดประชุมที่ ทบ. และตามมาภายหลัง

ภายหลังประชุมนานกว่า 3 ชม. น.ส.แพทองธารแถลงผลการประชุม โดยมีรัฐมนตรีและผู้นำเหล่าทัพที่ร่วมประชุมต่างมายืนอยู่ด้านหลังนายกฯ  ระบุว่า ได้เชิญหน่วยงานความมั่นคง ก.การต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้น ก่อนอื่นต้องขออภัยต่อประชาชนคนไทยทุกคน ที่มีเรื่องของกรณีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ตนพูดคุยกับผู้นำกัมพูชา

"ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ตัวดิฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับทางแม่ทัพภาคที่ 2 และกองทัพ อธิบายถึงเจตนาว่าเป็นเพียงเทคนิคของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจเขาก่อน เพื่อพูดคุยถึงรายละเอียดต่อๆ  ไป เป็นการต่อรองให้การปะทะหยุดลง นี่คือความตั้งใจที่แท้จริง ที่ต้องการให้สถานการณ์สงบสุข และไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิป และเผยแพร่เช่นนี้ดิฉันได้ทำความเข้าใจกับกองทัพเรียบร้อยแล้ว ซึ่งกองทัพก็รับฟังและบอกว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันเพื่อผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกๆ คนก็ต้องผนึกกำลังกันไว้เช่นกัน" น.ส.แพทองธารกล่าว

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ามันเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ต่อประชาชนหรือของอะไรที่จะมาพูดว่ารัฐบาลกับกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกัน เราต้องปกป้องอธิปไตยของเราไว้  และนี่คือสิ่งที่เห็นตรงกัน และยินดีที่จะซัพพอร์ตกองทัพทุกๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่กองทัพต้องการการสนับสนุนใดๆ ก็ตาม คือสิ่งที่เราตั้งใจว่าจะทำร่วมกัน วันนี้เองการที่เราจะออกมาทำอะไร หรือตัดสินใจในมิติต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย และแน่นอนว่าประชาชนตรงชายแดนด้วย คือสิ่งที่เราต้องนึกถึงและให้ความมั่นใจ ให้ความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชนตรงนี้ด้วย

อิ๊งค์น้ำตาคลอหนึ่งเดียวกองทัพ

นอกจากนี้ วันนี้กระทรวงการต่างประเทศได้เน้นย้ำการดำเนินการโดยสันติวิธีผ่านกระบวนการทวิภาคี ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยมายื่นหนังสือประท้วงและแสดงความผิดหวังอย่างยิ่งต่อการกระทำของผู้นำกัมพูชา และความจริงทั่วโลกไม่มีใครทำแบบนี้ ที่ผู้นำประเทศใหญ่ๆ ที่มีการพูดคุยตกลงกันหรือมีการเจรจาใดๆ ถ้าไม่ได้บอกก่อนว่าจะมีการอัดคลิป เช่น กรณีที่โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับผู้นำต่างๆ เมื่อติดต่อไปจะติดต่อผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเรื่องที่ถูกต้อง  ซึ่งจะแจ้งให้ทราบว่ามีการอัดคลิปเกิดขึ้น แต่กรณีเป็นการโทรศัพท์โดยมือถือส่วนตัวของดิฉัน และการกระทำแบบนี้ไม่ควรเป็นที่ยอมรับของทั่วโลกอยู่แล้ว รัฐบาลไทยและกองทัพขอแสดงรับผิดชอบในเรื่องของการปกป้องอธิปไตยที่เรากำลังดูแลร่วมกัน ขอยืนยันอีกครั้งว่า รัฐบาลและกองทัพเป็นหนึ่งเดียวกัน และอยากให้ประชาชนเป็นอย่างเดียวกับเราด้วย เพื่อที่จะสามัคคีปกป้องอธิปไตย

 “เวลานี้ที่เคยบอกไปไม่ใช่เวลาที่เราจะต้องมาสู้กันเอง สิ่งที่เกิดขึ้นดิฉันต้องขออภัยในความที่ไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นวันนี้ดิฉันรับทราบดีต่อจากนี้จะระวังในเรื่องของการพูดคุยให้มากขึ้น และแน่นอนว่าทางกองทัพที่เราพูดคุย เรามั่นใจอย่างหนึ่งว่าถ้าเรารวมกันเป็นหนึ่ง สามัคคีกัน เราจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันอย่างแข็งแรงได้” นายกฯ กล่าวด้วยน้ำตาคลอเล็กน้อยในช่วงท้าย และมีสีหน้าเรียบเฉยตลอดการแถลงข่าว

มีรายงานข่าวว่า ในวันที่ 20 มิ.ย. เวลา 11.30 น. น.ส.แพทองธารเตรียมเดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ก่อนจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปที่องค์การบริหารส่วนตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จากนั้นเวลา 13.00 น. จะเดินทางด้วยรถยนต์ไปยังฐานปฏิบัติการมรกต เพื่อพบปะกำลังพลและมอบสิ่งของบำรุงขวัญกำลังใจให้กับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลปกป้องอธิปไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

"นายกฯ จะได้พบกับ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการโทร.ไปพูดคุยกรณีคลิปเสียงหลุดบทสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ก่อนจะร่วมประชุมกับความมั่นคงเพื่อหามาตรการดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยสูงสุด" แหล่งข่าวระบุ

ต่อมาเวลา 13.30 น. รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา เนื้อหาโดยสรุปยืนยันว่านายกฯ มีเจตนาบริสุทธิ์ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีพลังใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าพลังสามัคคีของพี่น้องชาวไทย ไม่ตกเป็นเหยื่อของสงครามข่าวสารที่อาจมีผู้ไม่หวังดีมุ่งทำลายเอกภาพของฝ่ายไทย ด้วยปฏิบัติการหลายรูปแบบซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ

เวลา 13.25 น. นายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าทหารและรัฐบาลยังทำงานร่วมกันอย่างดี ไม่มีอะไร มีการพูดคุยกันอย่างชัดเจน วันนี้มีการตกลงกันแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับประเทศกัมพูชาที่จะต้องเป็นไปตามขั้นตอน มีการเตรียมมาตรการไว้ทั้งหมดแล้ว

นายกฯ ขอโทษจบอยู่ครบวาระ

ถามว่า มีกระแสกดดันให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่งจะอธิบายอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า  เรื่องนี้เป็นเรื่องภายนอกมากดดัน และคาดหวังที่จะเห็นไทยอ่อนแอที่สุด ต้องการให้ประเทศไทยแตกแยกกันภายใน และจะใช้เงื่อนไขเพื่อบุกรุกไทยในทางต่างประเทศ วันนี้การพูดคุยกับกองทัพเพื่อจะเข้าใจสถานการณ์ร่วมกัน เพื่อหาทางออกร่วมกัน ก็เห็นตรงกันไม่มีอะไรขัดข้อง เรื่องนี้มองว่าไม่ใช่เรื่องระยะสั้น แต่เป็นเรื่องระยะยาว

ซักว่า ผบ.เหล่าทัพได้ให้คำมั่นหรือไม่ว่าจะไม่ทำรัฐประหาร นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่มีแน่นอน เพราะเรื่องนี้ได้เกินเลยไปแล้ว ยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เมื่อถามว่าคำแถลงของนายกฯ ที่ระบุกำลังสู้กับภัยคุกคามของชาติ ถือว่าวันนี้ไทยประกาศศึกกับกัมพูชาแล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เราพูดความจริงให้ประชาชนฟังว่า ขณะนี้มีภัยคุกคามจากภายนอก ซึ่งจะมองเรื่องนี้เป็นเรื่องหลักมากกว่าเรื่องภายในประเทศ และจะต้องเคลียร์เรื่องนี้ให้จบ

นายภูมิธรรมปฏิเสธว่ายังไม่ได้คุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งบอกว่าไม่ใช่ประเด็นที่เราใส่ใจเรื่องท่าทีของสองตระกูลผู้นำจากนี้จะเป็นอย่างไร โดยระบุวันนี้คิดแต่เรื่องของประเทศชาติเป็นเรื่องหลัก และเรื่องเอกราชของประเทศไม่ให้ใครมารุกราน

ถามถึงท่าทีพรรคร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังเหนียวแน่น ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเข้าใจสถานการณ์กันดี แต่ตอนนี้มีสิ่งที่พยายามจะสร้างเงื่อนไขทั้งภายในและภายนอก การสร้างเงื่อนไขภายในคือกลุ่มที่อยากล้มรัฐบาล เป็นเรื่องธรรมดา จริงๆ ทางพรรคภูมิใจไทยที่ออกมาพูดเรื่องสถานการณ์ตรงนี้ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ เพราะรู้กันอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว

ซักว่ามั่นใจว่ารัฐบาลสามารถเดินหน้าได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า มีพรรคร่วมรัฐบาลปล่อยมือไปแล้วพรรคเดียวคือ พรรค ภท. ก็ไม่มีปัญหา พรรคอื่นได้คุยกันและบอกเราแล้วว่าจะประชุมในสถานการณ์อย่างนี้ เมื่อถามอีกว่า หลายพรรคยกเรื่องอธิปไตยมาคุย นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ถูกแล้ว ควรจะต้องพูด เพราะเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจร่วมกัน และเราก็ยืนยันเรื่องนี้อยู่แล้ว

"พอเคลียร์เรื่องนี้ให้ทุกส่วนได้เข้าใจกันแล้ว เรื่อง ครม.จะเป็นเรื่องหลังจากนี้ไป ตอนนี้ถามเรื่องปรับ ครม.ได้แล้ว จริงๆ ก็คุยกันแล้ว และเราคิดว่าจะต้องปรับ แต่เขาไม่อยากปรับ เราก็เลยต้องคุย ขอคุยให้ชัดเจน เพราะสิ่งสำคัญคือเราอยากเห็นนโยบายต่างๆ มันสามารถเอาไปปฏิบัติดำเนินการให้ได้จริง โดยกระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่นโยบายไปถึงประชาชน ซึ่งที่ผ่านมามีความติดขัด  จึงต้องเคลียร์ให้มันจบเท่านั้นเอง" นายภูมิธรรมระบุ

ถามว่า รัฐบาลจะต้องหาเสียงสนับสนุนเพิ่มหรือไม่ หรือเสียงที่มีอยู่เพียงพอแล้ว นายภูมิธรรมกล่าวว่า พอครับ ไม่มีปัญหา ก็เนี่ยพรรคที่มีอยู่ เท่านี้พอ เมื่อถามย้ำว่ารัฐบาลจะเดินไปได้นานแค่ไหน  นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ไปได้จบครบวาระ มั่นใจ เพราะไม่มีอะไรที่ทำให้เกิดปัญหา

ซักว่า แม้ว่าจะมีกระแสกดดันจากข้างนอกอยู่ก็ตามใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า อยู่ที่เราเข้าใจ และนายกฯ พยายามชี้แจงแล้ว และได้ขอโทษประชาชนไปแล้วว่าเป็นสิ่งที่อาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน ท่านก็ขอโทษ และบอกว่าความปรารถนานี้ทำเพื่อประเทศชาติ ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและของครอบครัว สิ่งที่สมเด็จฮุน เซน ก็ทำในสิ่งที่ไม่มีใครเขาทำกันระหว่างประเทศ ถือว่าไม่เหมาะสม  

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. แถลงกรณีคลิปดังกล่าวใน 5 ประเด็นเนื้อหาสำคัญคือ ยืนยันนายกฯ แพทองธารปกป้องประโยชน์ชาติและต้องการสันติภาพ ไม่ต้องการสงคราม การพูดพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 เชื่อว่านายกฯ ไม่ได้มีเจตนา และสมาชิกพรรค พท.ให้ความมั่นใจประชาชนจะปกป้องอธิปไตย

"ในฐานะที่เป็นนายกฯ มาจากการเลือกตั้ง และเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานในระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ คิดว่าในฐานะนักการเมืองจะต้องรับฟังความเห็นของประชาชน และน้อมรับไปปรับปรุงแก้ไข" นายนพดลกล่าว

3 พรรคยังกั๊กถอนตัวร่วม รบ.

 ส่วน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ แสดงจุดยืนพรรคประชาชาติจะยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลและเป็นรัฐบาลอยู่ รัฐบาลต้องไปต่อ ถ้าลาออกต้องมีการปรับรัฐมนตรี เพราะคนที่จะเอารัฐบาลออกก็คือสภา ไม่ใช่ในระบบ อย่างเช่นกฎหมายไม่ผ่านหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เราก็จะทำให้ประชาชนไว้วางใจ

เช่นเดียวกับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม (กธ.) ยืนยันสนับสนุน น.ส.แพทองธารและกองทัพ

พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เวลา 17.00 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวพน้าพรรค รทสช. เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคและ สส. ส่วน สส.กลุ่ม 18 ของนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ไม่ได้ถูกเชิญให้เข้าร่วมการประชุม โดยมีรายงานข่าวว่าก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการติดต่อมายังพรรค รทสช. เพื่อสอบถามถึงจุดยืนและทิศทางการเมืองด้วย

ต่อมาเวลา 19.00 น. การประชุมเสร็จสิ้น นายพีระพันธุ์เดินลงจากพรรค ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงมติที่ประชุม แต่นายพีระพันธุ์เดินเลี่ยงไม่ให้สัมภาษณ์ ระบุสั้นๆ ว่า “มติให้ผมนำไปเรียนท่านนายกฯ ก่อน” ก่อนขึ้นรถยนต์ออกจากที่ทำการพรรคไปทันที

มีรายงานว่า การประชุมใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง เป็นไปอย่างเคร่งเครียด มีการวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่านายกฯ ต้องไปแก้ปัญหาประเด็นคลิปเสียงที่หลุดออกมา หากพรรค รทสช.ถอนตัวจะทำให้เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลในตอนนี้กลายเป็นฝ่ายค้าน และต้องมีการยุบสภา และทำให้กระแสของพรรคประชาชน (ปชน.) จะกลับมาอย่างท่วมท้นมากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ดังนั้นที่ประชุมพรรค รทสช.จึงมีมติให้นายพีระพันธุ์ไปพูดคุยกับนายกฯ เพื่อหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเสนอให้มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ เป็นนายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งพรรค รทสช.รับได้

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เวลา 17.00 น. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. ประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ว่าจะถอนตัวหรืออยู่ร่วมรัฐบาลต่อหรือไม่ โดยนายเฉลิมชัยกล่าวก่อนประชุมว่า พรรค ปชป.ใครคนใดคนหนึ่งตัดสินใจอะไรไม่ได้ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าข้อบังคับพรรคเป็นอย่างไร ตนจะไม่ใช้สิทธิ์อะไรที่มันไม่ถูกต้อง

 ถามว่า ขณะนี้กระแสสังคมเรียกร้องเยอะอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล นายเฉลิมชัยกล่าวว่า มีทั้งสองกระแส มีคนไลน์มาขอให้ถอนและให้กำลังใจ ซึ่งก็มีเหตุผลทั้งหมด แต่เราก็ดูด้วยเหตุผลทั้งหมด

มีรายงานว่า มติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค คะแนนเสียง 19 ต่อ 7 เสียง เห็นชอบให้พรรคประชาธิปัตย์อยู่ร่วมรัฐบาลต่อไป อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ากรณีที่เกิดขึ้น รองหัวหน้าพรรคอย่างน้อย 3 คนในที่ประชุมระบุว่า ต่อไปอาจจะทบทวนบทบาทของตนเองต่อพรรค

พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เวลา 16.30 น. มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค ชทพ. หลังการประชุมนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชทพ. แถลงว่า จากการประชุมมีข้อคิดและข้อเสนอที่หลากหลาย แต่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน การตัดสินใจยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน เนื่องจากหัวหน้าพรรคแต่ละพรรคยังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีถึงรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"วันนี้ยังไม่ถอนตัว จะขอไปพูดคุยก่อนว่า​แนวทางการทำงานจะเป็นอย่างไร เชื่อว่าควรจะมีการพูดคุยกันโดยเร็ว สิ่งที่สำคัญที่สุดพรรค ชทพ.เชื่อว่าอธิปไตยของประเทศไทยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และความมั่นคงของประเทศเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ควรตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยง พรรคได้มอบหมายให้หัวหน้าพรรคเป็นตัวแทนหารือกับนายกฯ เมื่อได้ข้อมูลเพิ่มเติมครบถ้วนแล้ว จะนำมาให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคพิจารณาต่อไป" นายวราวุธกล่าว

ที่รัฐสภา นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 แถลงลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 หลังพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกแถลงการณ์ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ระบุว่า ตนขอลาออกเพื่อที่ไปทำหน้าที่ร่วมกับเพื่อนสมาชิกพรรค ภท. ในฐานะ สส.ฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของสภา ตำแหน่งประธาน รองประธานทั้งสอง ควรไม่มีที่จะมาจากเสียงข้างน้อย แม้จะไม่ได้มีการระบุในตัวบทกฎหมาย

ทบ.สยบรัฐประหารยึดมั่น ปชต.

ส่วนความเคลื่อนไหวพรรคภูมิใจไทย  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. ได้นัดรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกับแกนนำพรรค ที่โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล กรุงเทพฯ รวมทั้งมอบหมายให้ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย นำหนังสือลาออกในทุกตำแหน่งของนายอนุทินไปยื่นต่อนายกฯ  และมีผลตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.68 เป็นต้นไป เช่นเดียวกับนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ ก็โพสต์หนังสือลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ออกแถลงการณ์ถึงกรณีคลิปการสนทนาของ น.ส.แพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน ตอนหนึ่งระบุว่า นายกฯ สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอ ขาดประสบการณ์ และชั้นเชิงการเจรจาต่อการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทยกัมพูชาอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น อาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัวเจรจา ที่ก่อให้เกิดความสุ่มเสี่ยงกับประเทศ พร้อมกับการแสดงถ้อยคำที่ดูหมิ่นศักดิ์ศรีกองกำลังด้านความมั่นคงของประเทศ ที่ปกป้อง รักษาอธิปไตยให้กับคนไทยด้วยความยากลำบาก ดังนั้นเห็นควรให้นายกรัฐมนตรีประกาศลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ออกแถลงการณ์ตอนหนึ่งระบุว่า น.ส.แพทองธารสมควรต้องรับผิดชอบทางการเมือง โดยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงจิตสำนึกในหน้าที่ของผู้นำที่ดี รวมทั้งต้องไม่ใช้อำนาจหรือกระทำการใดๆ ที่กระทบต่อสภาผู้แทนราษฎร หรือหน่วยงาน หรือบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

ด้านพรรคประชาชน (ปชน.) นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค พร้อม สส.และสมาชิกพรรค แถลงข่าวที่รัฐสภา ยืนยัน น.ส.แพทองธาร ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการบริหารราชการแผ่นดินหมดสิ้นแล้ว จึงขอเรียกร้องให้นายกฯ ใช้อำนาจในการยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งใหม่ เพราะเชื่อมั่นว่าประชาชนทุกคนต้องการรัฐบาลที่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้ และขอเรียกร้องให้หลายๆ พรรคร่วมรัฐบาลมีมติออกมาประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล

"กลไกการปฏิวัติรัฐประหาร ไม่ใช่ทางออกแน่นอน เพราะไม่ได้เป็นไปตามกลไกของระบอบประชาธิปไตย ขณะเดียวกันบริบททางการเมือง เสียงสภา รวมถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มีอยู่  หากกางออกมาดูทั้งหมด จะเห็นว่าอาจมีหลายส่วนที่ต้องตั้งคำถาม ฉะนั้นสิ่งที่เป็นทางออกให้กับประเทศจริงๆ คือการยุบสภา เปิดโอกาสให้ทุกพรรคนำเสนอนโยบายของตัวเอง เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงของเขา ซึ่งเป็นอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจเลือกรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง" หัวหน้าพรรค ปชน.ระบุ

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงว่า ผบ.ทบ.ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้น โดยขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถภายใต้กลไกที่มีอยู่ พร้อมเน้นย้ำหากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ คนไทยต้องสามัคคี ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แม้วช็อกเล่ห์ฮุนเซน ตั้งใจอัดคลิปลูกบริสุทธิ์ อิ๊งค์-อนุทินซัดกันเดือด

"นายกฯ อิ๊งค์" สวน "อนุทิน" ใส่สีตีไข่ ปมหา "สี จิ้นผิง" เตือนรัฐบาลดัน กม.กาสิโน กระทบนักท่องเที่ยวจีนไม่มาไทย

'ทักษิณ' ร่ายยาวไม่ยอมให้ประเทศถึงทางตัน หาก 'อิ๊งค์' ไม่รอดเสนอ 'ชัยเกษม' มี สทร.อยู่ทั้งคน

"ทักษิณ" ลั่นเมืองไทยไม่มีทางตัน มั่นใจความบริสุทธิ์ลูกสาว หวังศาลรับฟัง สวดยับพวกสุมหัวตั้งรัฐบาล

'ทักษิณ' รับขาดสะบั้นสัมพันธ์ 'ฮุนเซน' สุดช็อกทำลูกผมขนาดนี้ แจงยิบที่มาคลิปเสียงอุ๊งอิ๊ง

"ทักษิณ" รับ ขาดสะบั้นสัมพันธ์ "ฮุน เซน" ลืมชื่อกันไปแล้ว เชื่อ คลิปหลุด ตั้งใจอัด โอด น่าเจ็บใจ ทำได้กันอย่างไร แซะ คงไปเหยียบตาปลาอะไรสักอย่าง