ฮุนเซนแฉตระกูลชิน โชว์ภาพห้องนอนแม้ว-ปู อุ๊งอิ๊งขอโทษแม่ทัพภาค2

"นายกฯ อิ๊งค์" อุ้มลูกสาวพร้อมพาสามีเข้าทำเนียบฯ หลังไปไหว้ศาลหลักเมืองวันคล้ายวันเกิดสามี ก่อนประชุมผู้ว่าฯ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำต้องดูแล ปชช.ให้ปลอดภัยและรักษาอธิปไตยของชาติ บอก รบ.ยึดหลักสันติ หลีกเลี่ยงการปะทะ พร้อมบินลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ให้กำลังใจทหารชายแดน ย้ำคุย "มทภ.2" แล้วเข้าใจกันดี ลั่นหนุนกองทัพเต็มที่ "รองเลขาฯ นายกฯ" แจ้งตำรวจไซเบอร์เอาผิด "ฮุน เซน" ปล่อยคลิปเสียง เป็นภัยความมั่นคง ปท. "ปธ.วุฒิฯ" ยื่น "ศาล รธน.-ป.ป.ช." ถอดถอน  "แพทองธาร" ผิดจริยธรรมร้ายแรง "นทท.เขมร"  บุกทำกิจกรรมพื้นที่ปราสาทตาควาย "ทหาร" เข้าแจงให้งดแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ "ลุงฮุน" สุดแสบ! โพสต์ภาพเดือน เม.ย.68 "พาหลานอิ๊งค์"  ชมห้องพัก “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ในบ้านพักกัมพูชา โบ้ยคลิปหลุดฝีมือลูกน้องเคืองแทนจนสัมพันธ์ 30 ปีถูกทำลาย

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 20 มิ.ย.2568 เวลา  08.24 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมาพร้อมกับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ หรือน้องธาษิณ บุตรชายคนเล็ก ซึ่งนายกฯ ได้อุ้มน้องธาษิณลงมาจากรถ หลังช่วงเช้าได้เดินทางไปสักการะศาลหลักเมือง เนื่องจากในวันที่ 21 มิ.ย.นี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของนายปิฎก

เวลา 09.00 น. นายกฯ เป็นประธานการประชุมติดตามดูแลการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า รวมทั้ง น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าฯ 7  จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ประกอบด้วย จังหวัดตราด สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และจันทบุรี ประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

น.ส.แพทองธารกล่าวในที่ประชุมว่า   กระทรวงมหาดไทยมีการเปลี่ยนแปลง จึงอยากให้ทุกท่านทำงานเพื่อประชาชนและเพื่อประเทศชาติต่ออย่างเข้มแข็ง เอาประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก อยากจะเน้นย้ำให้ดูในเรื่องคุณภาพบังเกอร์ที่มีอยู่แล้ว

"เราต้องพร้อมอยู่เสมอ เราต้องการสันติภาพ เลี่ยงการปะทะ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์สุดวิสัยใดๆ  เราต้องพร้อม ตอนนี้รัฐบาลคุยเรื่องการไม่ปะทะ ไม่ให้เกิดความรุนแรงต่างๆ แต่ขอให้เตรียมพร้อมทุกอย่าง หากเกิดเหตุการณ์ปะทะ โรงพยาบาล บุคลากรทุกอย่างต้องพร้อม เพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่สำคัญ" น.ส.แพทองธารกล่าว

นอกจากนี้ น.ส.แพทองธารได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและทวีตผ่าน X เน้นย้ำเรื่องความพร้อม 7 จังหวัดแนวชายแดน ในกรณีมีภารกิจเร่งด่วนที่ต้องใช้งบประมาณ ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งจัดทำรายละเอียดตามความเหมาะสมและเร่งด่วน รัฐบาลพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะประโยชน์สูงสุดคือความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และรักษาอธิปไตยของชาติอย่างเต็มกำลัง

ต่อมา น.ส.แพทองธารพร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม  และคณะ เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี มี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ จากนั้นคณะเดินทางต่อไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลโดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน มีว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี, นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี, น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ

จากนั้น น.ส.แพทองธารได้มอบสิ่งของถุงยังชีพเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ตัวแทนชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) โดย น.ส.แพทองธารกล่าวขอบคุณและให้กำลังใจ ชรบ.ต่อการปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ขณะที่ชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบและผ้าขาวม้ามาผูกเอวเป็นกำลังใจให้ น.ส.แพทองธาร ระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ น.ส.แพทองธารได้ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ น.ส.แพทองธารไม่ได้ตอบคำถาม และจังหวะสอบถามอย่างชุลมุน ปรากฏว่าไมค์ของสื่อมวลชนช่องหนึ่งไปโดนศีรษะ น.ส.แพทองธาร ทำให้ น.ส.แพทองธารอุทานว่า "โอ๊ย เขกหัวหนึ่ง" ก่อนที่สื่อมวลชนจะรีบขอโทษ ซึ่ง น.ส.แพทองธารได้หัวเราะพร้อมตอบว่า ไม่เป็นไร

อิ๊งค์หวานดูแลกองทัพเต็มที่

เวลา 14.00 น. น.ส.แพทองธารและคณะเดินทางต่อไปยังฐานยังปฏิบัติการมรกต ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน ที่เป็นจุดใกล้พื้นที่พิพาทกับทหารกัมพูชามากที่สุด เพื่อพบปะและให้กำลังใจกองกำลังพลกองกำลังสุรนารี และมอบสิ่งของบำรุงขวัญกำลังใจ โดย พล.ท.บุญสินได้พานายกฯ เยี่ยมชมฐานและความเป็นอยู่กำลังพล ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น

ทั้งนี้ นายกฯ รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ความมั่นคงท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมา โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า การลงพื้นที่มาพบปะทหารทุกนายในวันนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจที่ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ด้วยความกล้าหาญอดทนอดกลั้น ต่อสิ่งที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน ขอชื่นชมในความเสียสละ

"สิ่งสำคัญต้องขอขอบคุณแม่ทัพภาคที่ 2 รวมถึงผู้บังคับบัญชาทหารทุกนาย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทำหน้าที่ปกป้องประชาชน ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องอธิปไตยอย่างแน่วแน่ ด้วยความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง ขอให้คำมั่นว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่ ทุกคนคือคนไทย แผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย จะต้องช่วยกันรักษา" นายกฯ กล่าว

ต่อมา น.ส.แพทองธารเดินทางกลับมาที่ อบต.โดมประดิษฐ์ โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธารตอบว่า ทุกคนทำงานหนัก ดีมากเลย มาให้กำลังใจ เมื่อถามอีกว่าการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นอย่างไร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ก็เป็นไปได้ด้วยดี ท่านแม่ทัพภาคที่ 2 ก็คุยดีตั้งแต่แรก เมื่อถามว่าแม่ทัพภาคที่ 2 เข้าใจ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวยืนยันว่า ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เป็นเทคนิคการคุยระหว่างกัน เพิ่งเจอครั้งที่ 2 เองจะไม่ชอบเขาได้อย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเดินทางกลับยังมีประชาชนมารอให้กำลังใจนายกฯ โดยบางคนบอกว่า “ยังเหมือนเดิมนะคะ” และบางคนก็สวมกอดพร้อมมอบพวงมาลัยและผ้าขาวม้าให้

ต่อมาเวลา 16.40 น. น.ส.แพทองธารเดินทางถึงศูนย์เครื่องบิน ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก (ขส.ทบ.)  ภายหลังลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อมาถึงนายกฯ และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เข้าห้องรับรอง โดยมีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ มารอพบ ใช้เวลาหารือ 45 นาที ถึงมาตรการเพิ่มเติมกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนนายกฯ เดินทางกลับไม่ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน ทั้งนี้ มีรายงานว่าช่วงที่ลงพื้นที่ จ.อุบลฯ นายกฯ ได้เดินเข้าไปหา พล.ท.บุญสินที่ยืนรอรับ โดยกล่าวคำว่า "ขอโทษอย่างเป็นทางการนะคะ"

ขณะที่นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธารลาออกว่า คิดว่าคนที่เกี่ยวข้องได้คุยกับนายกฯ แล้วไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนเข้าใจ ทุกคนได้ฟังคลิปร่วมกันหมดแล้วและก็รู้ว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร มันเป็นชั้นเชิงต่อรองทางการทูต ซึ่งก็ต้องมีบุกมีถอย และถ้าดูจากคลิปไม่มีอะไรเลย เป็นเพียงการพูดคุย ยังไม่มีอะไรที่เข้าข่ายข้อหาและเป็นปัญหา เป็นเพียงการพูดคุย และสุดท้ายได้มีการชี้แจงกองทัพ

ถามว่า สมเด็จฮุน เซน จะถูกรัฐบาลพิจารณาขึ้นบัญชีดำในการคบแบบมิตรที่ดีต่อไปหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ทำหน้าที่ตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนักอยู่แล้ว เรายึดมั่นในหลักการสากล ตรงนี้ไม่มีปัญหาอะไร

ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับนายกฯ

ลุงฮุนตอกย้ำสัมพันธ์ตระกูลชิน

นายสมคิดกล่าวว่า เดินทางมาในนามส่วนตัวในฐานะประชาชนคนไทย และเป็นรองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง แจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาจากฝั่งของเขา ซึ่งเป็นการสนทนากับนายกฯ  ไทย ที่มีความยาวกว่า 17.6 นาที จนสร้างความแตกแยกให้กับประชาชนประเทศไทย จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับภัยความมั่นคง

"การแจ้งความครั้งนี้ไม่ได้เป็นการแก้เกี้ยวให้กับนายกฯ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือมีการหวังจะนำผลการแจ้งความไปใช้เป็นประโยชน์ในอนาคต" นายสมคิดกล่าว

พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้กล่าวหาไปเบื้องต้น ยืนยันในข้อกฎหมายสามารถเอาผิดได้ ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะเกิดขึ้นในหรือนอกราชอาณาจักร หากมีการทำลายความมั่นคงส่งผลกระทบในราชอาณาจักร ก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้

ขณะที่ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา (ปธ.สว.) ได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง (ป.ป.ช.) ภายหลังคณะสมาชิกวุฒิสภา ลงวันที่ 19 มิ.ย. ขอให้ประธานวุฒิสภาส่งหนังสือกล่าวหา น.ส.แพทองธาร ต่อ ป.ป.ช. เพื่อไต่สวนและมีความเห็นว่าทุจริตต่อหน้าที่หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง นอกจากนี้ ยังทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่

อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร ได้รวบรวมรายชื่อ สว.เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อถอดถอนนายกฯ 

วันเดียวกัน กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี โดยกองร้อยทหารพรานที่ 2602 เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2568 เวลาประมาณ 13.00 น. พบคณะนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาจำนวนประมาณ 30 คน เดินทางเข้ามายังบริเวณปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยได้มีการบันทึกภาพ วิดีโอ และร่วมร้องเพลงในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยได้เข้าระงับเหตุการณ์อย่างสุภาพและเหมาะสม  พร้อมทั้งเข้าเจรจาอธิบายด้วยเหตุผล เพื่อสร้างความเข้าใจ

โดยชี้แจงให้ทราบว่า การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับแนวทางและข้อตกลงร่วมกัน ที่ทั้งสองฝ่ายเคยหารือไว้ก่อนหน้านี้ จึงขอความร่วมมือให้งดเว้นพฤติกรรมในลักษณะเช่นนี้ โดยคณะนักท่องเที่ยวกัมพูชาได้แสดงความเข้าใจและยุติกิจกรรมโดยสมัครใจ ก่อนเดินทางกลับจากพื้นที่ โดยใช้เวลาอยู่ในบริเวณดังกล่าวประมาณ 20 นาที เหตุการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และยังสามารถพูดคุยในบรรยากาศที่ดีตามแนวทางความร่วมมือที่ทั้งสองฝ่ายยึดถือร่วมกัน ทั้งนี้ ตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชา  พื้นที่ปราสาทตาควายสามารถจัดเจ้าหน้าที่ทหารที่ไม่พกพาอาวุธเข้ามาอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ปราสาทได้

ผศ.ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าศูนย์สำรวจความคิดเห็น นอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่องความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ถึงแนวทางแก้ไขความขัดแย้งว่า ควรดำเนินการเช่นไรมากที่สุด พบว่า ส่วนใหญ่เห็นว่าเน้นเจรจาด้วยสันติวิธี 67.9%, ทำสงคราม 25.4% และไม่มีความเห็น 6.7% พร้อมกันนี้ได้ถามต่อถึงความเห็นในประเด็นแนวทางสันติวิธีที่นายกรัฐมนตรีดำเนินการอยู่หรือไม่ โดยมีประชาชนเห็นด้วย 55.0%, ไม่เห็นด้วย 36.2% และไม่มีความเห็น 8.8%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.10 น. สมเด็จฮุน เซน โพสต์ภาพการพา น.ส.แพทองธารไปชมห้องที่นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยเข้าพัก โดยสมเด็จฮุน เซน ระบุข้อความว่า ทั้งข้าพเจ้าและรัฐบาลกัมพูชาต่างก็เคยให้การสนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นบิดาและอาของนายกรัฐมนตรีไทยคนปัจจุบัน

 “ในการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีไทยเมื่อเดือน เม.ย.68 นอกจากการเยือนอย่างเป็นทางการแล้ว เรายังได้จัดงานเลี้ยงภายในครอบครัว โดย อุ๊งอิ๊ง นายกรัฐมนตรีไทย และสามีของเธอ ได้รับประทานอาหารค่ำที่บ้านพักของข้าพเจ้า ก่อนเดินทางกลับนายกรัฐมนตรีไทยได้ขอเข้าชมห้องที่บิดาและอาของเธอเคยพัก บ้านของข้าพเจ้าได้สงวนห้องไว้ให้พวกเขา 2 ห้อง ห้องหนึ่งมีชื่อว่า ‘ห้องทักษิณ’ และอีกห้องหนึ่งชื่อว่า ‘ห้องยิ่งลักษณ์’ สามีของนายกรัฐมนตรีไทยได้ถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอห้องทั้งสองห้องไว้”

สมเด็จฮุน เซน กล่าวว่า ความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างสองครอบครัวมานานกว่า 30 ปี ถูกทำลายลงเมื่อการสนทนาทางโทรศัพท์เกิดรั่วไหลโดยฝีมือเจ้าหน้าที่กัมพูชารายหนึ่ง ซึ่งโกรธเคืองที่ข้าพเจ้าและนายกฯ กัมพูชาถูกดูหมิ่น โดยกล่าวหาว่าเราไม่มีความเป็นมืออาชีพ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นายกฯอิ๊งค์' ประชุม สส.เพื่อไทย ลั่นจะต่อสู้เพื่อกลับมาปฏิบัติหน้าที่ให้ได้

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุม สส.พรรคประจำสัปดาห์ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ฐานะรักษาการนายกฯ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ และรองหัวหน้าพรรค นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ