เด็กและครอบครัว..บนสองทางแพร่ง โจทย์รอ"รัฐบาลใหม่"สานฝันเป็นจริง

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์ความรู้นโยบายเด็กและครอบครัว (คิด for คิดส์) โดยความร่วมมือระหว่างสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก  เยาวชน และครอบครัว สสส. กับศูนย์ความรู้นโยบายสาธารณะเพื่อการเปลี่ยนแปลง (101Public Policy Think Tank:101 PUB) จัดเสวนาสาธารณะ “เด็กและครอบครัวไทยในสองทางแพร่ง : รายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัวประจำปี 2566” เผยแพร่รายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัวประจำปี 2566 พร้อมหารือแนวนโยบายแก้ปัญหา-เติมฝันเด็กและครอบครัวภายใต้รัฐบาลใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่เด็กและครอบครัวไทยเผชิญกับความพลิกผันของทั้งสังคมโลกและสังคมไทย 2 เรื่องใหญ่ หรือ “สองทางแพร่ง” คือสถานการณ์ "หลังโควิด" และ "หลังเลือกตั้ง" ที่เพิ่งผ่านพ้นไป สสส.สานพลังภาคีเครือข่ายจัดเสวนาวันนี้ เพื่อชวนคิดและหาคำตอบว่า รัฐบาลใหม่ควรดำเนินนโยบายเด็ก เยาวชน และครอบครัวอย่างไร จึงจะสนับสนุนคุณภาพชีวิตและสุขภาวะของเยาวชนและครอบครัวได้ดีที่สุด ผ่านมุมมองของผู้แทนเยาวชน นักการเมือง และนักวิชาการ พร้อมสำรวจความคิดเห็นเยาวชน 20,000 คน ที่จะทำให้เราเข้าใจตัวตน-ความคิดของ "เด็กสมัยนี้" อย่างแท้จริง

สสส.คาดหวังว่าการสานพลังจัดเวทีนี้ของทุกภาคส่วน จะทำให้ได้ข้อเสนอนโยบายที่เอื้อให้เกิดนวัตกรรมที่เป็นระบบ กลไก และมาตรการสนับสนุนทรัพยากรให้ครอบครัว มีขีดความสามารถในการเลี้ยงดูและพัฒนาเด็ก สนับสนุนโอกาสให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงพื้นที่เรียนรู้ใกล้บ้าน และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน ได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาเชิงนโยบายในระดับประเทศ เพราะการลงทุนกับเด็กเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เหมือนการสร้างฮาร์ดแวร์ให้พร้อมใส่ซอฟต์แวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต

สสส.ทำงานสร้างเสริมสุขภาพในกลุ่มวัยทำงาน เด็กและเยาวชน ทั่วโลกลงความเห็นว่าการลงทุนฮาร์ดแวร์เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ ไลฟ์สไตล์ถูกสร้างเริ่มต้นจากวัยเด็ก ตลอดเวลา 20 ปี สสส.ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเด็กและเยาวชนทั้งๆ ที่พบว่ายังมีข้อจำกัด การสร้างโรงเรียนศูนย์นำร่องให้เป็นต้นแบบ กลไกของรัฐมีข้อจำกัด การเรียนรู้ต้องปฏิรูปการศึกษาเรียนรู้ เราได้ใช้ไตรพลัง วิชาการ นโยบาย สังคมเน้นนโยบายจากพรรคการเมือง ใช้นโยบายบายพาสไปถึงเด็กโดยตรง เป็นโจทย์ที่จะผลักดัน digital platform ถึงผู้บริหารโรงเรียนโดยตรง ด้วยวิถีการเปลี่ยนแปลง ผู้กำหนดนโยบายเปิดกว้างเพื่อจะเข้าไปได้อย่างทั่วถึง ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

เงินอุดหนุนสำหรับเด็กแรกเกิดยังมีช่องว่างที่บางครอบครัวยังเข้าไม่ถึง การลงทุนในเด็กได้ผลสรุปชัดเจนแล้วว่าให้ผลตอบแทนสูงสุด เรื่องสวัสดิการมีส่วนสัมพันธ์กับพ่อแม่เด็ก เงินช่วยเหลือเด็กแรกเกิด 600 บาทเป็นโครงการนำร่อง เป็นผลงานวิจัยของ สสส.และ TDRI เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ลงทุนไปนั้นพ่อแม่จะลงทุนให้เด็กอย่างเต็มที่ การ Focus สวัสดิการเด็กเล็กต้องทำอย่างต่อเนื่อง ปล่อยช้าก็จะสายจนเกินไป โดยเฉพาะการสร้างแหล่งเรียนรู้ใกล้บ้านเพื่อให้เด็กเข้าถึงได้” ดร.สุปรีดาให้ข้อคิดปิดท้าย

นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองประธานกรรมการกองทุน สสส. คนที่ 2 เปิดเผยว่า ขณะนี้พายุพัดเราเข้ามาให้เผชิญกับปัญหาที่เด็กเกิดน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ในปี 2565 มีอัตราเด็กเกิดใหม่ต่ำสุดในประวัติศาสตร์เพียง 502,000 คน ขณะที่อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 595,965 คน มีอัตราผู้สูงอายุเพิ่มกว่า 800,000 คน เมื่อ 20 ปีก่อนมีเด็กเกิดใหม่เกินกว่า 1 ล้านคน แต่ปีที่ผ่านมาเด็กเกิดใหม่ลดลงฮวบฮาบ เด็กและเยาวชนในปัจจุบันต้องเผชิญกับการแข่งขันและความท้าทายต่างๆ มากขึ้น จากปัญหาความเหลื่อมล้ำสุดโต่งที่เป็นปัญหารากเหง้าของสังคมเหมือนภูเขาน้ำแข็ง ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบเฉพาะเรื่องรายได้ หากรวมถึงโอกาส อำนาจ สิทธิ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยมีเด็ก 40% ที่พ่อแม่ต้องทิ้งให้อยู่กับปู่ยาตายาย ทิ้งภาคการเกษตรไปหารายได้ในภาคอุตสาหกรรม เชื่อมโยงเป็นปัญหาครอบครัวและสังคม

ปัญหาเด็กรวยสุดมีปัญหาอย่างหนึ่ง เด็กยากจนสุดก็มีปัญหาอีกอย่างหนึ่ง ยาเสพติดไม่ได้เลือกคนรวยหรือคนจน  หมอยังติดยาเสพติด การแก้ไขปัญหาเด็กจึงต้องอาศัยหลายฝ่ายโดยยึดหลัก 3 ข้อ คือ 1.วิธีการเชิงระบบ (System Approach) 2.ทำต่อเนื่อง 3.ทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วม

น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว (สำนัก 4) สสส.กล่าวว่า งานนี้เป็นงานประจำปี แสดงผลสำรวจเด็กและเยาวชนต้องเผชิญกับปัญหาวิกฤติที่แตกต่างกัน ระบบสาธารณสุข สวัสดิการสังคม เงินอุดหนุนเด็กเล็กเดือนละ 600 บาท ผลจากงานวิจัยเงินจำนวนนี้ไม่เพียงพอ ควรเพิ่มเป็นเดือนละ 3,000 บาท เพราะทุกวันนี้เด็กเล็กมีจำนวนน้อยลงเนื่องจากเด็กเกิดใหม่น้อยลงมาก เด็กกลุ่มนี้จะต้องรับมือกับสังคมที่เปลี่ยนแปลง เป็นแรงงานคุณภาพ ทุกวันนี้จากการสำรวจครอบครัวเด็กเล็กมากกว่า 70% อยู่ในสภาพง่อนแง่น จนสุดๆ วิกฤติจากรายได้ไม่พอกับรายจ่าย รายได้ไม่ถึง 1 หมื่นบาท พอกินแต่ไม่มีคุณภาพชีวิต เด็กกลุ่มนี้ขาดโอกาสที่ดีในสังคม ขณะนี้มีเด็กตกหล่นไม่ได้รับเงิน 600 บาท/เดือนเพราะครอบครัวเข้าไม่ถึงแหล่งเงินสวัสดิการ จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องรีบผลักดัน

แหล่งเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องเป็นห้องสมุด มองจากฐานรากในชุมชน สนับสนุนให้เด็กได้เรียนรู้ในชุมชน มีพื้นที่อยู่แล้วก็ต้องให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ศูนย์กิจกรรมเยาวชนได้เงินอุดหนุนให้เยาวชนเข้าร่วมกิจกรรม เป็นการสร้างงานใหม่ให้กับคนว่างงาน ทุกวันนี้สำนัก 4 สสส.ให้การสนับสนุนทำเป็นจุดๆ เพื่อเป็นต้นแบบ โครงการอาสาคืนถิ่นหรือสนับสนุนให้คนหนุ่มสาวที่มีบ้านและที่ดินของตัวเอง 100-200 ตารางวา ทำเป็นพื้นที่เกษตรอินทรีย์เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ สนับสนุนพื้นที่เรียนรู้ ยกระดับการสร้างอาชีพ เป็นการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เป็นการบ่มเพาะธุรกิจเพื่อสังคมด้วยการฝังตัวอยู่ในชุมชน

อนึ่ง ข้อมูลที่น่าสนใจเด็กและเยาวชนต้องเผชิญความยากจนเหลื่อมล้ำรุนแรง กว่า 70% อยู่ในครัวเรือนรายได้ต่ำ (รายได้ต่อหัว 1 แสนบาท/ปี) กลุ่มครัวเรือน จนสุดรายได้ต่อหัว 2,577บาท/เดือน มีจำนวนเด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปี จำนวน 2,896,048 คน หรือ 20.7% กลุ่มครัวเรือนรวยสุด 38,699 บาท/เดือน มีจำนวนเด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปี จำนวน 442,45 8คน หรือ 3.2% เด็กและวัยรุ่นไทยมีปัญหาสุขภาพใจแต่ไร้คนดูแล 17 จังหวัดยังไม่มีจิตแพทย์เด็กประจำอยู่ มีเพียงแห่งเดียวและมีจิตแพทย์เด็กเพียงคนเดียว อาทิ ลำพูน แม่ฮ่องสอน ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร ฯลฯ จิตแพทย์เด็กจะกระจุกตัวแห่งละ 10 คนอยู่ในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี

เด็กและเยาวชนไทยเปราะบางต่อภัยคุกคามออนไลน์ ไทยรั้งท้ายประเทศที่เด็กและเยาวชนปลอดภัยจากความรุนแรงออนไลน์จากการสำรวจใน 30 ประเทศ อันดับที่ 26 เม็กซิโก 27 โอมาน 28 เวียดนาม 29 ไทย 30อุรุกวัย 9% ของเด็กและเยาวชนไทยที่ใช้อินเทอร์เน็ตถูกแสวงประโยชน์และละเมิดทางเพศออนไลน์ ผู้กระทำส่วนใหญ่คือเพื่อนหรือคนรู้จัก 47% กล่าวว่าไม่รู้จะขอความช่วยเหลือได้จากที่ไหน เด็กเพียง 1-3% รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตำรวจ.

***

นายวรดร เลิศรัตน์ และ นายสรัช สินธุประมา นักวิจัยและบริหารการวิจัย ศูนย์ความรู้นโยบายเด็กและครอบครัว

รายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัวประจำปี 2023ของคิด for คิดส์มีว่า เด็กและครอบครัวไทยกำลังเผชิญ 2 ทางแพร่ง ได้แก่ ทางแพร่งหลังโควิด และหลังเลือกตั้ง มี 6 สถานการณ์สำคัญ

1.เด็กและเยาวชนเติบโตในครอบครัวเปราะบางซ้ำซ้อนและยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤต รายได้ครัวเรือนหดหาย เป็นหนี้มากขึ้น โดยเฉพาะครัวเรือนที่มีเด็กฟื้นตัวยากกว่าจนกระทบกับคุณภาพชีวิตและการพัฒนา

2.เยาวชนมีงานที่ดีและสอดคล้องกับความฝันได้ยากขึ้น 15% ไม่มีงาน ไม่ได้รับการจ้างงาน ไม่ได้เรียน หรือฝึกทักษะ ส่วนหนึ่งเพราะหางานที่ดีได้ยาก และต้องดูแลที่บ้านเป็นหลัก

 3.เด็กและเยาวชนไม่ได้รับการฟื้นฟูภาวะการเรียนรู้ถดถอยและพัฒนาทักษะจำเป็นจากระบบการศึกษา การปิดสถานศึกษาช่วงโควิดทำให้เกิดภาวะการเรียนรู้ถดถอย

4.เด็กและเยาวชนเผชิญปัญหาเครียดและซึมเศร้า แต่เข้าถึงบริการสุขภาพจิตได้ไม่ทั่วถึง บริการดูแลสุขภาพจิตเหลื่อมล้ำสูง กระจุกในเมืองใหญ่

5.เด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อความรุนแรงจำนวนมากขึ้น ในรูปแบบซ่อนเร้นยิ่งขึ้น ความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา และเปราะบางต่อภัยคุกคามออนไลน์มากขึ้น

 6.เด็กและเยาวชนฝันถึงสังคมใหม่ สังคมที่คุ้มครองเสรีภาพทางความคิด ทลายระบบอุปถัมภ์-เส้นสาย แก้ทุจริต ปฏิรูปเศรษฐกิจให้ทุกคนกินดีอยู่ดี มีโอกาสเสมอกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เครื่องฆ่าเชื้อโรค-กลิ่นอับหมวกกันน็อก นวัตกรรมสุขภาพขับเคลื่อนสู่การใช้จริง

เครื่องฆ่าเชื้อโรคในหมวกนิรภัยเสริมสร้างสุขภาวะของผู้ขับขี่จักรยานยนต์และผู้โดยสาร ของทีมเยาวชนจากวิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชูทิศ

สสส.ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม ‘พัก กะ Park’ เปลี่ยนสวนสาธารณะให้เป็นพื้นที่สุขภาวะ

กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.), กลุ่ม we!park และภาคีเครือข่ายพัฒนาเมืองสุขภาวะและชุมชนสุขภาวะ (Healthy Space Alliance)

ส่องสุขภาพ'มอเตอร์ไซด์รับจ้าง'ใน กทม.

“มอเตอร์ไซด์รับจ้าง” เป็นอาชีพที่ใกล้ชิดกับชาวกรุงเทพฯ ทั้งรับส่งผู้โดยสารและเอกสาร ผลจากปัญหาจราจรและความเร่งรีบในการเดินทางของคนเมือง  แม้จะเป็นอาชีพที่เสี่ยงอันตรายบนท้องถนนกรุงเทพฯ แต่พวกเขาก็ไม่บอกลางานอิสระนี้ เพราะประกอบอาชีพได้ง่าย

สสส. สานพลังเทศบาลเมืองน่าน UDC ม.แม้โจ้ หนุน 'จ.น่าน' เป็นจังหวัดแรก ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ภายใต้นโยบาย 'เมืองสุขภาพดี' หรือ blue zone ของกระทรวงสาธารณสุข ชู 'ชุมชนน้ำล้อม เทศบาลเมืองน่าน' ต้นแบบเมืองที่เป็นมิตรเพื่อผู้สูงอายุและทุกคน จัดทีมช่างชุมชนออกแบบ ปรับปรุงบ้านคนสูงอายุ คนพิการ ที่อยู่เพียงลำพัง

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วยนางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ และผศ.ดร.วุฒิกานต์ ปุระพรหม หัวหน้าศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน (UDC) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้การออกแบบและปรับปรุงบ้านพักของผู้สูงอายุตามแนวคิดการออกแบบเพื่อทุกคน ในพื้นที่ที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุและทุกคน

'หมอชลน่าน' ยกระดับน่าน Kick off เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล ด้าน สสส. เดินหน้าผลักดัน 'น่านโมเดล' 1 ใน 10 เมืองต้นแบบสุขภาพ ที่มีอารยสถาปัตย์ สภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับ ผู้สูงวัย คนพิการ ตามแนวคิด Universal Design : UD

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน ทัวร์อารยสถาปัตย์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดน่าน “เปิดเมืองอารยสถาปัตย์ เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล จังหวัดน่าน” พร้อมด้วย นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นายกฤษณะ ละไล ประธานมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล