เที่ยว'สด๊กก๊อกธม' ดื่มด่ำอารยธรรมเขมรในไทย

ปราสาทสด๊กก๊อกธม เป็นปราสาทชายแดนแห่งหนึ่งของประเทศไทย แม้ตั้งอยู่ในพื้นที่ติดต่อกับไทย-กัมพูชา อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แต่ชื่อชั้นของปราสาทแห่งนี้มีความสำคัญยิ่ง เป็นปราสาทหินศิลปะเขมรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก เป็นปราสาทบนฐานสูงที่สุดในไทย

ย้อนกลับไปเมื่อ 25 ปี การบูรณะปราสาทสด๊กก๊อกธมใช้วิธีอนัสติโลซิส  (anastylosis) โดยกรมศิลปากรเริ่มต้นจากปราสาทที่มีสภาพพังทลาย หินหล่นกระจัดกระจาย  นำหินเก่าแต่ละก้อนจัดเรียงประกอบคืนตำแหน่งเดิมและใช้หินใหม่ทดแทนส่วนที่ขาดหายไป เพื่อคืนความสมบูรณ์กลับมาให้ได้มากที่สุด จนเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมปราสาทสด๊กก๊อกธมเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทุกคนเช่นทุกวันนี้ และจัดตั้งเป็นอุทยานประวัติศาสตร์เมื่อปี 2562

ปราสาทเขมรล้อมรอบด้วยคูน้ำ

สมเด็จพระกษิฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงเปิดอุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งได้เปิดศูนย์บริการข้อมูลอุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธมที่จัดสร้างใหม่ นำเสนอเรื่องราวการค้นพบปราสาท และศิลาจารึกจากปราสาทเขมรแห่งนี้ อารยธรรมเขมรโบราณ และปราสาทเขมรในประเทศไทยอย่างครบถ้วน มีแบบจำลองของสด๊กก๊อกธมในอดีตเมื่อครั้งยังสมบูรณ์น่าชม

หุ่นจำลอง 3 มิติ การสร้างปราสาทในห้องนิทรรศการ

ได้รับเชื้อเชิญร่วมเดินทางไปในโอกาสสำคัญนี้ เพื่อสัมผัสความโดดเด่นปราสาทสด๊กก๊อกธม จ.สระแก้ว เยี่ยมชมศูนย์บริการข้อมูลแห่งใหม่ ซึ่งห่างจากอาณาจักรกัมพูชาเพียงหนึ่งกิโลเมตร แค่ข้ามถนนศรีเพ็ญไปจะมีกับระเบิดมากมาย  แต่ไม่ต้องกังวลในพื้นที่อุทยานฯ  มีปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดปลอดภัย 99.99 %  ทริปนี้ฟังบรรยายจาก ธวัลรัตน์ ชัยนราพิพัฒน์ หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม

มีคนถามมากถึงชื่อ”สด๊กก๊อกธม” สามารถถอดแยกความหมายเป็นคำๆ ได้  “สด๊ก” แปลว่า รก ทึบ คำว่า “ก๊อก” แปลว่า ต้นกก และคำว่า “ธม” แปลว่า ใหญ่ นำทุกคำมารวมแปลได้ว่า รกไปด้วยต้นกกขนาดใหญ่ ซึ่งหมายถึงต้นกกใหญ่ที่ขึ้นรถอยู่ในบาราย สระน้ำขนาดใหญ่ด้านตะวันออกของปราสาท  เดิมชาวบ้านเรียก ปราสาทเมืองพร้าว เพราะพบต้นมะพร้าว ปัจจุบันบริเวณนี้ก็มีต้นมะพร้าวขึ้นอยู่

แบบจำลองสด๊กก๊อกธมภายในศูนย์บริการข้อมู

ปราสาทสด๊กก๊อกธม นับเป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดูแบบไศวนิกาย  สร้างขึ้นด้วยหินทรายและศิลาแลง  เมื่อ พ.ศ.1595 ตามพระราชบัญชาของพระเจ้าอุทยาทิตยวรมันที่ 2 กษัตริย์เขมร เพื่อพระราชทานแด่ “พระกัมรเตงอัญศรีชเยนทรวรมัน” พระราชครูของพระองค์ ซึ่งเป็นพราหมณ์ที่สืบเชื้อสายตระกูลพราหมณ์ประจำราชสำนักอาณาจักรเขมรโบราณ  

คติการสร้างนั้นเป็นการจำลองเขาไกลาศที่ประทับของพระศิวะ กล่าวคือ ปราสาทประธานเป็นปราสาทที่ตั้งบนฐานเป็นชั้นเปรียบเสมือนเขาไกลาศ และทางเดินที่มุ่งเข้าหาปราสาทประธานเปรียบเสมือนสะพานที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับสวรรค์ที่เป็นที่ประทับของเทพเจ้า

เสานางเรียงมากที่สุดในไทยอยู่ที่นี่ 

เราเดินผ่านทางเดิน 3 ช่วง ปูพื้นด้วยศิลาแลง มีเสานางเรียงตั้งเรียงรายขนาบทั้งสองข้าง เสานางเรียงเป็นแท่งสี่เหลี่ยมทำจากหินทราย ฐานสลักลวดลาย หัวเสาคล้ายดอกบัวตูม  ทางเดินพาเราผ่านโคปุระไปถึงปราสาทประธาน เป็นอาคารสำคัญจุดศูนย์กลางของปราสาทสด๊กก๊อกธม เปรียบกับที่ประทับของพระศิวะ และเป็นที่ประดิษฐานของศิวลึงค์ รูปเคารพแทนองค์พระศิวะ เทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู  เรื่องเล่าจากศิลาจารึกสด๊กก๊อกธม หลักที่ 2 กล่าวถึงการสถาปนาศิวลึงค์ที่ปราสาทขอมโบราณนี้

บันไดทางขึ้นปราสาทที่ปรากฎเบื้องหน้า เย้ายวนให้เราไม่รีรอเดินไปสู่ชั้นบน ซึ่งด้านในประดิษฐานรูปเคารพ คงเหลือเฉพาะฐานโยนี  ปัจจุบันมีการจำลองศิวลึงค์ประดิษฐานไว้ ย้อนเวลาไปศิวลึงค์ที่ประดิษฐานบนโยนี เมื่อมีการบูชาด้วยการสรงน้ำ ทำให้น้ำสรงกลายเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ และไหลออกมาทางท่อโสมสูตร ซึ่งปราสาทสด๊กก๊อกธมปรากฎท่อโสมสูตรที่ทิศเหนือของปราสาทประธาน  ระเบียงคดด้านทิศใต้ และทิศตะวันตก  น้ำที่ไหลออกจากท่อนี้ส่วนหนึ่งแจกจ่ายให้คนที่มาสักการะเพื่อเป็นสิริมงคล ใครนึกภาพไม่ออกลงจากปราสาท แวะศูนย์บริการข้อมูลมีภาพวาดจำลองพิธีบูชาให้ดู

ปราสาทประธานบนฐานสูง

ยอดของปราสาทประธานก็มีความพิเศษลักษณะซ้อนชั้นลดหลั่นกัน 4 ชั้น แต่ละชั้นประกอบด้วยเรือนธาตุ ซุ้มประตู ทับหลัง และหน้าบันซ้อนกันงดงาม  ทับหลังหน้าบันแกะสลักภาพบุคคลและลวดลายพันธุ์พฤกษาวิจิตร ด้านหน้าซุ้มประตูประดับบรรพแถลง มุมหลักแต่ละชั้นประดับนาคปัก ยอดประสาทสอบลงเป็นทรงพุ่ม มุมย้อยประดับกลีบขนุนรูปบุคคล ยอดบนสุดเป็นรูปทรงกลศคล้ายกับหม้อน้ำมนตร์ในฮินดู ปัจจุบันสูญหายไป

บรรยากาศร่มรื่นภายในปราสาทเขมรโบราณ

มุมสูงว่างามแล้ว จากบนปราสาทมองลงมาพื้นล่าง จะเห็นเสานางเรียงปักบริเวณลานภายในระเบียงคตล้อมรอบปราสาท มีบรรณาลัยหินทรายหรือสถานที่เก็บคัมภีร์  2 หลัง  เราอิ่มเอมกับสถาปัตยกรรมของปราสาท ที่เทียบเคียงได้กับศิลปกรรมในวัฒนธรรมเขมรโบราณแบบเกลียงผสมปาปวน ที่เป็นลักษณะเฉพาะศิลปะเขมรปาปวน ยังมีกรอบหน้าบันสลักพญานาค 5 เศียร ไม่พูดถึงภาพสลักซุ้มประตูประธาน ซุ้มประตูรองที่เหลือภาพสลักสมบูรณ์ พรรณนาความสวยได้ไม่หมด ต้องมาดูให้เห็นกับตา 

ำลองศิวลึงค์ประดิษฐานบนโยนี บูชาด้วยการสรงน้ำ

ความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของปราสาทสด๊กก๊อกธม ธวัลรัตน์ ชัยนราพิพัฒน์ กล่าวว่า เป็นปราสาทเขมรที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก เกิดก่อนปราสาทพิมาย และปราสาทพนมรุ้งกว่า 100 ปี มีส่วนยอดปราสาทเป็นทรงพุ่มยุคแรกๆ ที่ส่งอิทธิพลไปถึงปราสาทพิมาย และปราสาทพนมรุ้ง 

เสานางเรียงปราสาทสด๊กก๊อกธมที่สะดุดตานักท่องเที่ยว เธอให้ตัวเลขรวมแล้ว 143 ต้น ถือเป็นปราสาทที่มีเสานางเรียงมากที่สุดในไทย ปัจจุบันยังไม่พบโบราณสถานที่มีเสานางเรียงมากเท่าที่นี่  โดยกำลังศึกษาเพิ่มเติม คิดว่าอดีตน่าจะมีเสานางเรียงตั้งถึงคันดินที่ล้อมรอบ แต่ยังไม่มีหลักฐานพอ มีเพียงภาพถ่ายทางอากาศ ปี 2498 ซึ่งเป็นภาพสด๊กก๊อกธมเก่าที่สุด ก่อนที่เขมรแดงจะเข้า มีการปรับพื้นที่ ทำให้หลักฐานบางอย่างสูญหายไป   

บาราย สระน้ำโบราณ

ส่วนบาราย สระน้ำขนาดใหญ่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้านอกกำแพงแก้วด้านทิศตะวันออกของปราสาท หน.อุทยานฯ บอกว่า ชาวเขมรโบราณนำความรู้เรื่องการชลประทานผสมกับความเชื่อทางศาสนา สันนิษฐานว่า อาจมีการนำน้ำไปใช้อุปโภคบริโภคและประกอบพิธีกรรมสำคัญ จนกลายเป็นประเพณีการสร้างบารายคู่กับเทวสถาน ขณะนี้ ศก. ร่วมกับโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า(จปร.) สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาเรื่องสหวิทยาการกับปราสาทสด๊กก๊อกธม  สำรวจระบบจัดการน้ำในพื้นที่  เป้าหมายพัฒนาเป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่เกิดประโยชน์ต่อชุมชน ปัจจุบันได้ปรับภูมิทัศน์ทำทางเดินสู่บารายให้นักท่องเที่ยวมาเรียนรู้ภูมิปัญญาคนโบราณ

เส้นทางงานอนุรักษ์และพัฒนาโบราณสถานยังเดินหน้าต่อไป เช่นเดียวกับเส้นทางสู่ปราสาทสด๊กก๊อกธมที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวมาสัมผัสความงามอารยธรรมเขมรและสถาปัตย์สด๊กก๊อกธมอันยิ่งใหญ่ที่ปราสาทแห่งนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัญเชิญ12พระพุทธรูปมงคลให้สักการะสงกรานต์

13 เม.ย.2567 - นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานพิธีเปิด “งานประเพณีสงกรานต์ปีใหม่ไทย” (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year festival) เนื่องในประเพณีสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม

สรงน้ำพระธาตุ-เทวดานพเคราะห์ เทศกาลสงกรานต์

เนื่องในเทศกาลสงกรานต์สงกรานต์ กรมศิลปากรขอเชิญพุทธศาสนิกชนและผู้สนใจร่วมกิจกรรมสรงน้ำพระธาตุและเทวดานพเคราะห์ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 12-14 เมษายน 2567  เวลา 09.00-16.00 น. ณ ศาลาสำราญมุขมาตย์พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ประดับตกแต่ง'ขบวนเรือพระราชพิธี' มรดกวัฒนธรรมล้ำค่า

ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเป็นมรดกศิลปวัฒนธรรมล้ำค่าของประเทศไทย กองทัพเรือได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคตามโบราณราชประเพณี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 การพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน

ส่งมอบเรือพระราชพิธี 16 ลำ ให้ศก.ประดับตกแต่ง

5 เม.ย. 2567 - เวลา 11.00 น. พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธี ส่งมอบการซ่อมทำเรือพระที่นั่งและเรือรูปสัตว์ จำนวน 16 ลำ ที่กองทัพเรือ ได้ดำเนินการเรียบร้อยให้แก่กรมศิลปากรเพื่อนำไปประดับตกแต่งตัวเรือ โดยมี

จับ 2 ขบวนการ 'ไฮบริดสแกม' หลอกสาวไทยลูกครึ่งมะกัน สูญเงินกว่า 200 ล้าน

พ.ต.อ.คมสันต์ กันหา ผกก.4 บก.สอท.1 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้รับแจ้งจากสายลับว่า 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับ กำลังเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทยทางจุดผ่านแดนถาวร บ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์พร้อมเปิดปี 68

28 มี.ค.2567 - นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า กรมศิลปากรอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เป็นศูนย์กลางการอนุรักษ์โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ซึ่งเป็