‘ทนายษิทรา’ ไม่หวั่นถูกฟ้องกลับลั่นกลับไปไทยรอบนี้จะประชุมผู้เสียหายทั้งหมดเพื่อตอบโต้กลับทุกคดี ชี้เหยื่อถูกข่มขืนกระทำชำเรา มักถูกคนร้ายก่อเหตุในที่ลับ จึงทำให้พิสูจน์หลักฐานกันได้ยาก พวกนี้เลยได้ใจ

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทนายเพื่อประชาชน เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.เพื่อให้ตรวจสอบมีอดีตตำรวจยศ “พล.ต.ต.” เข้าแทรกแซง ในคดีนายปริญญ์ ภาณิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคการเมือง

นายษิทรา เปิดเผยว่า วันนี้มายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.สำราญ ผบช.น.เพื่อให้ตรวจสอบอดีตตำรวจที่อาจมีการชักจูงให้ผู้เสียหาย โดยขอให้ทาง พล.ต.ท.สำราญ ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของแม่เหยื่อว่าใช้เบอร์ไหนคุยกับ พล.ต.ต.คนนนี้ และ พล.ต.ต.คนนี้ได้มีการต่อสายไปยังคนของพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่งหรือไม่ โดย พล.ต.ต.คนดังกล่าว เกษียณอายุราชการไปแล้ว เคยเป็นผู้บังคับการตำรวจจังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออก ถ้ามีการตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ห้วงวันที่ 11 เม.ย.-ปัจจุบัน น่าจะพอทราบ ถ้ามีการโทรคุยกับแม่เหยือหรือคนของพรรคการเมืองก็จะได้มีการสืบสวนต่อไปว่ามีการคุยเรื่องอะไร

เหตุที่คิดว่ามีการแทรกแซงคดี เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ได้มีการพบกับครอบครัวผู้เสียหาย ซึ่งเขาได้บอกว่ามีอะไรก็ปรึกษากับตำรวจคนนี้อยู่ตลอดเวลา พักหลังเวลาแนะนำอะไรไปเขาจะบอกว่าต้องปรึกษากับตำรวจคนดังกล่าวก่อน ท้ายที่สุดก็ไม่ได้ทำตามในสิ่งที่ควรทำ ไม่ยอมไปที่ศาลเพื่อขอคัดค้านการประกันตัว โดยเขาอ้างว่าตำรวจคนนี้เป็นลุงแต่คิดว่าน่าจะเป็นการนับถือคงไม่เกี่ยวข้องกับสายเลือด ส่วนที่ว่าเหยื่อจะกลับคำให้การหรือไม่นั้นยังไม่ถึงขนาดนั้น แต่ในอนาคตไม่แน่ต้องกันไว้ก่อน ต้องเปิดออกมาให้ได้ว่า พล.ต.ต.คนนี้เกี่ยวข้องอย่างไร ตีกันไม่ให้เขาทำในอนคตด้วย ส่วนจะเข้าข่ายการข่มขู่หรือไม่ ตำรวจต้องสอบสวนมีการข่มขู่บังคับจิตใจพยานหรือไม่ ถ้าพบว่ามีการเชื่อมโยงการใช้โทรศัพท์ตำรวจก็คงต้องไปสอบถามว่ามีการพูดในลักษณะใด เป็นผลเสียต่อรูปคดีหรือเปล่า

นายษิทรา กล่าวอีกว่า พล.ต.ต.คนนี้เข้ามาเกี่ยวข้องตั้งแต่วันเกิดเหตุถูกลานลาม แต่ทราบมาว่าก่อนที่ตจะมาปรึกษาตนวันที่ 12 เม.ย.ยังไม่มีใครมาแนะนำให้ดำเนินคดีจนมาวันที่ 13 เม.ย.จึงแนะนำให้ไปแจ้งความ ถ้ามีการแทรกแซงจริงๆก็กังวลถึงแม้ตอนนี้ยังไม่มีการแก้คำให้การ แต่ถ้าไปถึงชั้นอัยการมีการขอให้สอบเพิ่มเติม สื่อไม่สนใจแล้วอาจจะมีการให้การไปในลักษณะใดลักษณะหนึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีก็ได้ ผู้เสียหาย 15 รายที่มีการแจ้งความดำเนินคดีและเป็นพยาน ยังไม่ได้กกลิ่นอะไรไม่ดี หลังจากนี้คิดว่าทางฝั่งผู้ต้องหาตั้งหลักได้แล้ว คงจะหากลยุทธสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง หลังจาก 15 ราย ต้องมีการระวังมากขึ้น แต่มั่นใจว่าที่ผ่านมามีการพูดคุยกับผู้เสียหายทุกคน ไม่มีใครกระทำในลักษณะดังกล่าว การเก็บหลักฐานในคดีคิดว่าครบถ้วน โดยเฉพาะตัวผู้เสียหายอายุ 18 ปี หลังจากเกิดเหตุก็เข้าแจ้งความเลยในวันรุ่งขึ้น และยังมีพยานแวดล้อมคือคนขับแท็กซี่และทราบว่าตำรวจก็มีการเก็บกล้องวงจรปิดมีการไปกันจริง

ทนายตั้ม ยังกล่าวถึงการที่ผู้ต้องจะฟ้องกลับว่า ไม่กังวลก่อนทำเรื่องนี้ทางฝั่งตรงข้ามเป็นใคร การให้สัมภาษณ์ไม่ได้ระบุชื่อ ตัวตน เพื่อป้องกันการถูกฟ้อง เช่นเดียวกันกับถ้ามีคนมาขอให้หยุดคงหยุดไม่ได้แล้ว เพราะผู้เสียหยมันเยอะไม่ใช้แค่ 1-2 คน แต่เป็นภัยสังคมที่ทำกับผู้หญิงมาเยอะ ถ้าเราไม่หยุดเขาตั้งแต่วันนี้อาจจะมีลูกใครก็ไม่รู้ ลูกชาวบ้านโดนในลักษระนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวที่จะช่วยคนใดคนหนึ่งแต่เป็นการช่วยเหลือคนส่วนรวม และการตั้งคณะกรรมการสอบสวนของพรรคการเมืองนั้นยังไม่มีการประสานมาขอขอมูลแต่อย่างใด

ส่วนหญิงผู้เสียหายที่อยู่ประเทศอังกฤษได้มีการพูดคุยและประสานคนที่สามารถเดินเรื่องให้ผู้เสียหายที่ประเทศอังกฤษแล้ว ถ้าหลักฐานยังอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ในวันถูกข่มขืนที่มีสารคัดหลั่ง กล้องซีซีทีวี ถ้าหลักฐาน 2 อย่างอยู่ก็พร้อมให้ศาลดำเนินคดีต่อเพราตอนี้สภาพจิตใจเขาโอเคแล้ว โดยเหตุดังกล่าวเกิดมาแล้วประมาณ 10 ปี ขณะผู้เสียหายเรียนปริญญาโท ส่วนคนกาอเหตุทำงานที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ไปให้คำสัญญาสามารถคุยกับผู้บริหารมาทำงานที่ธนาคารได้ หลอกล้อไปอพาร์ทเม้นตก่อนข่มขืนกระทำชำเรา ผู้เสียหายก็ได้ดำเนินคดีแต่สภาพจิตใจตอนนั้นย่ำแย่ตัดผมตัวเอง ย้ายที่อยู่ ที่เสียใจที่สุดมีหญิงไทยคนหนึ่งเกี่ยวข้องกับสถานทูตมาบอกว่าอย่าดำเนินคดีด้วย ซึ่งขณะนี้ผู้เสียหายต้องการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ประเทศอังกฤษ ถ้านับผู้เสียหายก็เป็นรายที่ 16 ส่วนอายุความได้คุยกับผู้เสียหายที่ดร็อปไว้ เขาบอกว่าบางเคสเคสคร็อปไว้ถึง 30 ปี ผู้เสียหายมั่นใจว่าดำเนินการได้ และเขายังฝากมาย้ำว่าคดีของเขายังไม่แพ้คดีตามที่กลุ่มผู้ก่อเหตุได้มีการให้ข่าวเพราะยังไม่มีการตัดสินและพร้อมดำเนการต่อ

“ส่วนจะมีผู้เสียหายเพิ่มอีกไหมตอบยาก แต่มีการแจ้งมาทางไลน์แต่ต้องมีการคัดกรองให้มากขึ้น เพราะจากนนี้ไปอาจจะมาเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือทางเกมการเมือง ซึ่งมีผู้ใหญ่แจ้งเตือนระวังทางพรรคการเมืองโต้กลับซึ่งอาจะเป็นวิธินี้ในการสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง จะกลายเป็นว่าผู้เสียหายทั้งหมดเป็นเรื่องไม่จริงจึงต้องป้องกันไว้” นายษิรา กล่าว

‘ทนายษิทรา’ ขอบคุณ’ไฮโซชื่อดัง’ที่ถูกรองหัวหน้าพรรคลวนลาม เข้าให้การเป็นพยานยืนยันพฤติกรรมหื่นกับพนักงานสอบสวนสน.ลุมพินีเรียบร้อยแล้ว

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ

‘ทนายษิทรา’ เผยมีน้องมาปรึกษาว่าถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ลวนลามโดยไม่สมยอม หลอกว่าจะพามาคุยเรื่องงานและสอนเรื่องหุ้นแต่พอมาจริงกลับคุยแต่เรื่องเพศ ชี้เป็นเรื่องใหญ่เพราะมีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต พ่อดังระดับโลก

‘ทนายษิทรา’ แฉ’บังแจ็ค’เคยพยายามติดต่อเรื่อง’ผ้าคาดเอว’แตงโม แต่ไม่คุยด้วย เย้ย ‘ส.ส.เต้’ กับ’อดีตทนายแม๊’ไม่ทันเกมบ้าจี้ตาม โคตรเสียหมา หวั่นสังคมบางส่วนเชื่อเรื่องหลอกลวงที่สร้างขึ้น เตือนให้มีสติ อย่าให้ราคากับคนประเภทนี้

เป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาแสดงจุดยืนเพื่อร่วมหาความจริงในการเสียชีวิตของนางเอกสาวแตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ มาโดยตลอด ล่าสุด ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด โพสต์ว่าได้รับการติดต่อจากนักแต่งเพลงชื่อดังเจ้าของค่ายเพลง ME RECORDS อย่าง ฟองเบียร์-ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม เพื่อให้มาเล่นมิวสิกวีดีโอให้กับ แด็กซ์ Rock Rider อดีตนักร้องนำวงบิ๊กแอส

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะไม่ลงรอยกันเท่าไหร่ สำหรับ ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด กับคุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของนางเอกสาวแตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ถึงขั้นคุณแม่ภนิดาเคยร่อนจดหมายห้ามทนายตั้มเข้ามายุ่งเกี่ยวคดีแตงโมมาแล้ว ล่าสุดดูเหมือนทั้งคู่จะปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย ต้องยกความดีให้นักปั้นชื่อดัง เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร

หลังจากมีข่าวว่า ต่อย-ดายศ เดชจบ พี่ชายของ แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ นางเอกสาวผู้ล่วงลับ กลับลำเท ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทั้งๆ ที่เจ้าตัวเป็นคนไปขอให้ทนายตั้มช่วยเหลือเรื่องของคดีน้องสาว ซึ่งหลายคนก็โยงไปว่าพี่ชายแตงโมไม่อยากมีปัญหากับคุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน เพราะอีกฝ่ายสั่งห้ามทนายตั้มเข้ามายุ่งเรื่องเกี่ยวกับคดีของแตงโม

หลังจากที่คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่ของ แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ร่อนจดหมายห้ามไม่ให้ ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด และทนายคนใดยุ่งกับคดีของลูกสาว ยกเว้น ทนายกฤษณะ ที่เป็นทนายของคุณแม่เท่านั้น ล่าสุดทนายตั้มโพสต์ถามว่าคุณแม่ภนิดาได้เช็คประวัติทนายตนเองก่อนหรือไม่

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด โดนเทจาก ดายศ เดชจบ พี่ชายของสาวแตงโม ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ล่าสุดทนายตั้มได้เผยผ่านเพจเฟซบุ๊กของตนเองว่ามีญาติฝั่งพ่อของนางเอกสาวติดต่อมาหา และเป็นกำลังใจให้ตามหาความจริงต่อไป

หลังจากที่ ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้เผยว่าจะร่วมค้นหาความจริงร่วมกับ ดายศ เดชจบ พี่ชายของสาวแตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ พร้อมลั่นไม่สนหาก แม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน จะไม่พอใจเพราะดายศก็เป็นพี่ชายแตงโมเป็นคนในครอบครัวเช่นกัน ล่าสุดแม่ภนิดาได้ร่อนจดหมายที่เขียนด้วยลายมือถึงทนายตั้มห้ามยุ่งคดีแตงโมแล้ว

ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด โต้รับเป็นทนายให้ ดายศ เดชจบ พี่ชายของสาวแตงโม เผยแค่เป็นคนที่อยากร่วมค้นหาความจริงเพื่อให้ความยุติธรรมกับนางเอกสาว ไม่สนหาก แม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน จะพอใจหรือไม่พอใจ เพราะพี่ชายถือเป็นหนึ่งในผู้เสียหายเช่นกัน

ถึงแม้หลายๆคนอาจจะถอดใจเมื่อเจอคำพูดของคุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของนางเอกสาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ว่าให้อภัย ไฮโซปอ-ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ และ โรเบิร์ต-ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ แต่ล่าสุด ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์อีกหนึ่งความหวังว่ายังมีคนขอมาร่วมสู้ไปด้วยกัน

หลังจากที่คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ เปิดใจในรายการโหนกระแส ว่าหากใครจะทำอะไรเกี่ยวกับแตงโมต้องมาขออนุญาตคุณแม่ก่อน รวมไปถึงประเด็นเรื่องงานศพ ซึ่งต่อมามีข่าวลือว่าเพื่อนๆและผู้ที่ประสงค์จะช่วยเหลือได้ถอนตัวออกไปหลายท่าน