‘อนันต์ชัย’ ทนายกองทัพธรรมยื่นฟ้องอดีตไวยาวัจกร หมิ่นประมาทเจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวหายักยอกเงิน 95 ล้านเเละอื่นๆ รวม 37 กรรม
15 ส.ค. 2565 – ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมด้วยนายนฤเบศ ปั่นแก้ว ทนายกองทัพธรรม ได้รับมอบอำนาจจากพระสุธีรัตนบัณฑิต (สุทิตย์ อาภากโร) เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม ให้ยื่นฟ้องนายชาญณรงค์ เพียรดี อดีตไวยาวัจกรวัดสุทธิวราราม ซึ่งเป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “ร่วมกันปกป้องเงินวัดอย่าให้พวกกาฝากในผ้าเหลืองมาผาน” โดยมีรูปหน้าเพจว่า “สุมหัวโกงวัด” ความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
โดยทนายอนันต์ชัย ไชยเดช กล่าวว่า นายชาญณรงค์ เพียรดี อดีตไวยาวัจกรวัดสุทธิวราราม ได้สร้างเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวขึ้นมา และเขียนบทความต่างๆ อีกทั้งใช้ภาพประกอบกล่าวหาใส่ร้ายพระสุธีรัตนบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 จนถึงปัจจุบัน กว่า 37 ครั้ง โดยกล่าวหาว่า “ยักยอกเงินวัด 95 ล้านบาท, บริหารงานวัดแบบแหกตาชาวบ้าน, ปล่อยให้สัปเหร่อที่เผาศพไม่หมดแล้วนำไปโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา, บิดเบือนความจริง และกล่าวหาว่าพระสุธีรัตนบัณฑิต กับคณะสงฆ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่า “…เป็นทีม” เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดเป็นความเท็จ โดยพระสุธีรัตนบัณฑิต และคณะสงฆ์ ไม่เคยมีพฤติกรรมดังที่จำเลยได้กล่าวหา
ซึ่งโจทก์ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะสงฆ์และฝ่ายบ้านเมืองที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว ซึ่งพบว่าไม่มีมูลตามที่กล่าวหา แต่นายชาญณรงค์ ได้โพสต์ข้อความดังกล่าวอันเป็นเท็จ ถือเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ทำให้พระสุธีรัตนบัณฑิต และคณะสงฆ์ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากประชาชนที่ไม่ทราบความจริง เข้าใจผิดว่า เป็นพระไม่ดี มีเจตนาทุจริตยักยอกเงินวัด นอกจากนี้ นายชาญณรงค์ ยังร้องเรียนไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กองบังคับการบ้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ถึง 3 ครั้ง และเรียกสื่อมวลชนมาทำข่าวถึง 2 ครั้ง พยายามกลั่นแกล้ง เพื่อให้โจทก์สึกออกจากการเป็นพระ โดยไม่มีความสำนึกถึงบาปบุญคุณโทษ ส่วนมูลเหตุจูงใจที่ทำให้นายชาญณรงค์ ใส่ความพระสุธีรัตนบัณฑิต และคณะสงฆ์นั้น เป็นเพราะไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหารภายในวัดที่ให้เกิดความชัดเจนและมีระบบที่เหมาะสม
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่ร้ายแรง ของคนที่ต้องการใส่ร้ายพระสงฆ์ และใช้การสื่อสารในโลกออนไลน์โจมตีการทำงานของฝ่ายที่ตนไม่พอใจ โดยปราศจากข้อเท็จจริง ดังนั้น สมควรที่ศาลจะลงโทษในสถานหนัก เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป และขอให้นายชาญณรงค์ลบโพสต์ ทั้ง 37 ครั้ง และให้ลงโฆษณาในสื่อฯ ทุกแพลตฟอร์มทั้งหมด 46 สื่อ โดยเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คุก 'ทนายคลายทุกข์' 1 ปีแต่รอลงอาญาไลฟ์สดด่า 'อ.อ๊อด'
ศาลอาญาจำคุกทนายเดชา 1 ปี ปรับ 1 แสน รอลงอาญา 2 ปี ไลฟ์สดด่า อ.อ๊อดให้คนฟังรู้ว่าใครจนได้รับความเสียหาย จ่อฟ้องกลับนำเข้าข้อทูลเท็จ ปมเย้ยใส่กุญแจมือลงใต้ถุนศาล
'ลิลลี่เหงียน' ยกมือไหว้ 'ทนายกิ่ง' ยืนยันไม่มีเจตนาหมิ่นประมาท
ลิลลี่เหงียน-วันมะนี พอนสะหวัน ในฐานะจำเลย เดินทางมาพร้อมทนายกุ้ง-อำนวยพร มณีวรรณ์ ที่ศาลอาญารัชดา เหตุจาก ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช เป็นโจทก์ฟ้องคดีหมิ่นซึ่งหน้า, ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา, หมิ่นประมาท, หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากที่ไปออกรายการโหนกระแส ทางช่อง 3
หิ้ว 'ชาคิต' โชเฟอร์พาจ่าเอ็มหนี ฝากขัง ไร้ญาติประกัน ส่งตัวนอนเรือนจำ
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้ควบคุมตัวนายชาคิต บัวปลี หรือ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาที่ขับรถพา นายเอกลักษณ์ หรือพ.จ.
'เกลิน ธัญรดี' ฟาดกลับ เตรียมฟ้องกู้ชื่อเสียงคืน!
ดาราสาว เกลิน-ธัญรดี ชาญชนินท์กุล พร้อมด้วยทนายวัฒนา ศักขี ได้เดินทางมายังศาลอาญา เพื่อยื่นฟ้อง หมอดูคู่กรณี ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา การกระทำผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ โดยเรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนหลักล้านบาท หลังจากที่อดทนเงียบและเก็บเรื่องราวนี้ไว้เป็นเวลานาน
เปิดพฤติการณ์ 'จ่าเอ็ม' ฆ่าโหด 'ลิมคินยา' นวดก่อนลงมือ
เปิดพฤติการณ์ฆ่าโหด ‘ลิมคินยา’ พบ ‘จ่าเอ็ม' นวดผ่อนคลายก่อนลงมือสังหาร เจ้าตัวสารภาพทุกข้อกล่าวหา ศาลอาญาออกหมายจับ ‘คิมรินพิช’ มือชี้เป้าถือพาสปอร์ตกัมพูชา
ศาลสืบพยานล่วงหน้าคดีสังหาร 'ลิม คิม ยา' ภรรยาเบิกความชัดเห็น 'จ่าเอ็ม' ในที่เกิดเหตุ
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 ได้ยื่นคำร้องขอสืบพยานบุคคลก่อนฟ้องในคดีที่ พนักงานอัยการ นายเอกลักษณ์ แพน้อย