
‘ทนายเชาว์’ กางกฎหมาย ปมหุ้นไอทีวี ไร้คำว่าผู้จัดการมรดกต่อท้าย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของ ‘พิธา’ แล้ว แต่ยังมีช่องรอด แนะรีบหอบหลักฐานแถลง
12 พ.ค. 2566 – นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และทนายความ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง “หุ้นไอทีวีเป็นของใคร….?” มีเนื้อหาระบุว่า ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่า การถือครองหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อลำดับ 1 และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลนั้น เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามการเป็น ส.ส. และการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่ เนื่องจากเดิมหุ้นดังกล่าวเป็นของนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ บิดาของนายพิธา ต่อมาภายหลังที่นายพงษ์ศักดิ์ เสียชีวิต เมื่อปี 2549 นายพิธาก็เข้ามารับหน้าที่ผู้จัดการมรดกของนายพงษ์ศักดิ์ตามคำสั่งศาล และมีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงบัญชีผู้ถือหุ้นในชื่อเดิมของนายพงษ์ศักดิ์มาเป็นชื่อนายพิธา ไม่มีคำว่าในฐานะผู้จัดการมรดกเหมือนกรณีโดยทั่วไป จึงเกิดคำถามว่าหุ้นดังกล่าวยังเป็นทรัพย์สินในกองมรดกของนายพงษ์ศักดิ์ หรือโอนมาเป็นกรรมสิทธิ์ของนายพิธา ในฐานะทายาทแล้ว
อดีตรองโฆษกพรรครปะชาธิปัตย์ ระบุว่า เรื่องนี้มองได้สองมุม คือ
1.จากพฤติการณ์ จะเห็นได้ว่านายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ เสียชีวิตตั้งแต่ปี 2549 เป็นระยะเวลา 17 ปีกว่าแล้ว การจัดการมรดกโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะผู้จัดการมรดกยังไม่เสร็จสิ้นโดยไม่ปรากฎว่ามีข้อขัดข้องเรื่องการจัดการแบ่งปันทรัพย์มรดกกันระหว่างทายาทซึ่งมีอยู่ด้วยกันเพียงไม่กี่คน ประกอบกับการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงบัญชีผู้ถือหุ้นจากนายพงษ์ศักดิ์เจ้ามรดกมาเป็นชื่อนายพิธาเพียวๆ โดยไม่มีคำต่อท้ายว่ากระทำในฐานะผู้จัดการมรดกเหมือนกรณีทั่วไป จึงมองได้ว่าหุ้นได้โอนจากกองมรดกมาเป็นกรรมสิทธิ์ของนายพิธาเสร็จเด็ดขาดแล้ว
2.ตามข้อกฎหมาย หุ้น เป็นทรัพย์สินชนิดหนึ่งของผู้ถือหุ้นเมื่อผู้ถือหุ้นตาย หุ้นนั้นจึงตกทอดแก่ทายาททันทีตามกฎหมาย โดยผ่านกองมรดกของผู้ตาย โดยผู้จัดการมรดกสามารถเข้ามาถือหุ้นแทนผู้ตายเพื่อจัดการแบ่งปันให้ทายาท ซึ่งแม้จะมีข้อจำกัดในการทำหน้าที่ของผู้จัดการมรดกตามกฎหมายไว้หลายประการด้วยกัน แต่ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องตายตัวว่าต้องทำทุกกรณี ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกเป็นสำคัญ ดังนั้น ปัญหาว่าหุ้นดังกล่าวโอนไปเป็นกรรมสิทธิ์ของนายพิธาแล้วหรือไม่ หรือยังเป็นหุ้นในกองมรดกที่นายพิธาถือแทนอยู่ ก็แค่อาศัยคำยืนยันจากบรรดาทายาทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกองมรดกของนายพงษ์ศักดิ์ หากยืนยันว่าหุ้นดังกล่าวยังไม่ได้มีการแบ่งปันกันระหว่างทายาท ทางรอดของนายพิธาก็เปิดกว้างเพราะทำได้ง่ายมาก
“ถ้านายพิธา ยืนยันได้ด้วยพยานหลักฐานโดยอ้างคำยืนยันจากบรรดาทายาทว่า ถือครองหุ้นดังกล่าวในฐานะผู้จัดการมรดก ทุกอย่างก็จบ ไม่ต้องไปไล่เรียงอีกว่า บริษัทนี้ยังประกอบกิจการสื่ออยู่หรือไม่ แต่ถ้ายืนยันไม่ได้ เรื่องอาจลากยาวไปอีก เพราะต้องพิสูจน์ว่าบริษัทไม่ได้ประกอบกิจการสื่อแล้ว ทางที่ดีถ้านายพิธามีหลักฐานในมือ ก็แถลงต่อสาธารณะเคลียร์ไปซะเรื่องก็จบ ไม่ต้องรอให้ทีมกฎหมายเป็นฝ่ายชี้แจง อย่างไรก็ตามหากนำบรรทัดฐานคำพิพากษาศาลฎีกา ที่คืนสิทธิการสมัคร สส.นครนายก เขต 2 ให้กับนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ด้วยเหตุที่การถือหุ้นเอไอเอส ในจำนวนน้อย ไม่มีอำนาจในการบริหารจัดการมาใช้ นายพิธาก็มีโอกาสรอดอยู่มากเช่นกัน” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มท.2 ลั่นแบล็กลิสต์ผู้มีอิทธิพลคืบมาก แซะ 'เจ๊เจี๊ยบ' อยู่บัญชีคนสวยปากจัด
ไม่เลิกเจอแน่! 'ชาดา' แจงทำแบล็กลิสต์ผู้มีอิทธิพลคืบหน้ามาก ลั่นใครถูกกาหัวเป็นมาเฟีย ต้องโดนตรวจสอบครอบครองอาวุธปืน บอกติดตลก ‘เจี๊ยบ ก้าวไกล’ อยู่ในบัญชีคนสวยปากจัด
สัญญาณไม่ดี! ทำไม 'พิธา' บอก 'ชัยธวัช' ไม่ใช่ผู้นำขัดตาทัพ
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทำไมนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต้องบอกว่า นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล
ชัยธวัชมา-ปดิพัทธ์..? กับทางออก เก้าอี้รอง ปธ.สภาฯ
ก่อนที่ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะนำชื่อ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อให้ทรงแต่งตั้งเป็น ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ทางประธานสภาฯ คงรอให้ได้ข้อยุติในเชิงข้อกฎหมายเสียก่อน ถึงจะนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย
‘ช่อ’ ลั่นกลางวงเสวนา ‘ก้าวไกล’ จะอยู่ตรงนี้ สู้ต่อไปจนกว่าชนะ
พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวตอนหนึ่งในวงเสวนา'ตื่นเถิดประเทศไทย'ในกิจกรรม "ก้าวต่อไป ไกลทั้งแผ่นดิน"
‘พิธา’ ลั่นจะกลับมายิ่งใหญ่ ปลุกสมาชิกอย่าปล่อยไฟที่จุดติดดับเด็ดขาด
‘พิธา’ ฝากฝัง ‘ชัยธวัช’ ขอสมาชิกรักตัวเองอย่างไร ให้รักหัวหน้าใหม่อย่างนั้น ย้ำ แกนกลางก้าวไกลยังคงอยู่ โว นำเลือกตั้งครั้งแรกก็ได้มา 151 แล้ว หากเทียบบัญญัติไตรยางค์ รอบหน้าไม่ต่ำกว่า 300 ชู 3 กลยุทธ์ แข่ง-ขยับ-ขยาย จนกว่าจะถึงเส้นชัย
‘ชัยธวัช’ ลั่น ‘หน.ก้าวไกล’ เปลี่ยน แต่ว่าที่นายกฯยังชื่อ ‘พิธา’ ชู 4 ยุทธศาสตร์ 2 ภารกิจ
‘ชัยธวัช’ ผลักดัน 4 ยุทธศาสตร์ 2 ภารกิจ ‘ก้าวไกล’ พร้อมสู้กับการเมืองของชนชั้นนำล้มระบอบประชาธิปไตยอันมีปชช.เป็นไม้ประดับ ย้ำ ไม่มีอะไรมีจะต้องเสียใจอีกต่อไป แม้พรรคไม่ได้เป็นรัฐบาล