ตำรวจอังกฤษเผยเมื่อวันพุธว่า ชายชาวอิรักที่เสียชีวิตในเหตุระเบิดรถแท็กซี่ในเมืองลิเวอร์พูลเมื่อวันอาทิตย์ซึ่งทำให้อังกฤษยกระดับเตือนภัยก่อการร้าย เตรียมแผนก่อเหตุมานานไม่น้อยกว่า 7 เดือน
รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพุธที่ 17 พฤศจิกายน 2564 อ้างคำกล่าวของรัส แจ็กสัน ผู้บังคับการตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายในเขตตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ ว่าอีมัด อัลซวีอัลมีน ชายสัญชาติอิรักอายุ 32 ปี ที่เสียชีวิตภายในรถแท็กซี่ที่ระเบิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน เช่าที่พักแห่งหนึ่งในเมืองลิเวอร์พูลเมื่อเดือนเมษายน และได้ซื้อวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการทำระเบิดตั้งแต่ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นอย่างน้อย
ระเบิดแสวงเครื่องที่อัลซวีอัลมีนประกอบขึ้น ระเบิดภายในรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ด้านนอกโรงพยาบาลสตรีเมืองลิเวอร์พูล ในช่วงเวลาไม่กี่อึดใจก่อนพิธีรำลึกวันทหารผ่านศึกจะเริ่มต้นขึ้นที่วิหารลิเวอร์พูลซึ่งอยู่ใกล้กัน คนขับรถแท็กซี่ที่หัวไวและคุมสติได้ขังผู้โดยสารรายนี้ไว้ภายในรถ แล้วหนีออกมาก่อนที่รถจะระเบิดไฟลุกท่วม โดยที่ตัวเขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนมือระเบิดตายคาที่
มือระเบิดรายนี้เคยขอลี้ภัยที่อังกฤษแต่ไม่ผ่าน แจ็กสันกล่าวว่า เขามีอาการป่วยทางจิต และคงต้องใช้เวลาในการสอบสวนประเด็นนี้ด้วยส่วนหนึ่ง จึงจะเข้าใจได้ทั้งหมด
อัลสวีอัลมีนได้รับการอุปการะโดยเอลิซาเบธ และมัลคอล์ม ฮิตช์คอตต์ คู่สามีภรรยาคริสเตียนในเมืองลิเวอร์พูล นาน 8 เดือน ตั้งแต่ปี 2560 ช่วงที่เขายื่นอุทธรณ์คำขอลี้ภัย อาสาสมัครคู่นี้กล่าวว่า พวกเราเศร้าใจและช็อกกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น พวกเรารักเขา เขาเป็นคนน่ารัก มัลคอล์มเผยกับสถานีไอทีวีนิวส์ด้วยว่า อัลสวีอัลมีนเคยเข้าสถาบันรักษาอาการทางจิต ภายหลังถูกจับกุมพร้อมกับมีดระหว่างเหตุการณ์หนึ่งในเมืองลิเวอร์พูล
หนังสือพิมพ์ไทมส์รายงานว่า ระเบิดแสวงเครื่องที่เขาใช้ประกอบด้วยสารทีเอทีพี ซึ่งเป็นวัตถุระเบิดชนิดเดียวกับที่กลุ่มรัฐอิสลามใช้ในการก่อวินาศกรรมที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสเมื่อปี 2558 และระเบิดที่เมืองแมนเชสเตอร์เมื่อปี 2560
เหตุการณ์เมื่อวันอาทิตย์เป็นการก่อการร้ายครั้งที่ 2 ในอังกฤษรอบเดือนที่ผ่านมา หลังจาก ส.ส.พรรครัฐบาลโดนแทงเสียชีวิตขณะพบประชาชนในเขตเลือกตั้งทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเมื่อเดือนตุลาคม
เมื่อวันจันทร์ รัฐบาลอังกฤษประกาศยกระดับเตือนภัยก่อการร้ายในประเทศ จากระดับ "มีนัยสำคัญ" เป็นระดับ "รุนแรง" ซึ่งเป็นระดับรองจากระดับสูงสุด หมายความว่ามี "ความเป็นไปได้สูง" ที่จะเกิดการโจมตี.
