ไทยจะเจอ 'Stagflation' หรือไม่

หลังจากที่ราคาน้ำมันในประเทศยังคงปรับตัวอยู่ในระดับสูง ได้สร้างความกังวลต่อเรื่องอัตราเงินเฟ้อ หลังจากราคาสินค้าส่งสัญญาณปรับขึ้น อันเนื่องมาจากต้นทุนค่าขนส่งต่างๆ ที่ขยับตัวสูงขึ้น จนตอนนี้เริ่มมีการพูดถึงภาวะ 'Stagflation' ที่อาจจะเกิดขึ้นจากเศรษฐกิจไทยในปีหน้า

ภาวะ 'Stagflation' น่ากลัวอย่างไร คำนี้ ศัพท์ที่รวมกันระหว่าง “Stagnation” ที่หมายถึง ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหรือหดตัว และ “Inflation” หมายถึง เงินเฟ้อหรือภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นภาวะการเพิ่มขึ้นของระดับสินค้าและบริการ ดังนั้น Stagflation จึงเป็นการรวมสถานการณ์ทั้งสอง นั่นคือ การเกิดภาวะเงินเฟ้อในขณะที่เศรษฐกิจยังคงมีความชะลอตัว

แน่นอน ถ้าเกิดภาวะแบบนี้ย่อมส่งผลกระทบที่ค่อนข้างใหญ่ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการว่างงานที่จะเพิ่มสูงขึ้นเพราะเศรษฐกิจถดถอย และประชาชนยังถูกซ้ำเติมด้วยภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น เป็นปัญหา 2 เด้งที่กระทบต่อการดำรงชีพ

อย่างไรก็ดี ขอให้อย่าเพิ่งกังวลกับภาวะ 'Stagflation' มากนัก เพราะมีนักเศรษฐศาสตร์หลายคนมองว่าไทยไม่น่าจะเจอปัญหาแบบนี้

อย่างความเห็นของนายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ มองว่า โอกาสที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะ Stagflation นั้นยังค่อนข้างน้อย ถึงแม้อัตราเงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงต้นปี และทรงตัวในระดับสูงกว่า 5% ต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม แต่ TISCO ESU มองว่า เงินเฟ้อในปัจจุบันเกิดจากปัจจัยชั่วคราว และจะทยอยลดลงในช่วงปลายปีนี้ อีกทั้งเมื่อพิจารณาในรายละเอียดแต่ละสินค้า พบว่าในช่วงต้นปีอัตราเงินเฟ้อถูกผลักดันให้เพิ่มขึ้นจากราคาสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการเปิดเศรษฐกิจเป็นหลัก ได้แก่ ราคารถมือสอง ค่าเช่ารถ ค่าโดยสารเครื่องบิน และค่าที่พักโรงแรม ซึ่งราคาในกลุ่มดังกล่าวเริ่มปรับลดลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี แม้ยังมองว่าโอกาสเกิด Stagflation จะมีจำกัด แต่พัฒนาการเศรษฐกิจในระยะข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนสูงหากเงินเฟ้อยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเริ่มมีสัญญาณส่งผ่านของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ไปยังสินค้าอื่นๆ และราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นเริ่มกดดันการบริโภคจนทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ Stagflation ก็อาจมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นความเสี่ยงสำคัญที่ต้องจับตาต่อไป

ด้านนายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อจะสูงกว่า 2% ในไตรมาสสามปี 2565 จากฐานที่ต่ำปี 2564 แต่อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นชั่วคราวตามราคาน้ำมันไม่น่าเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาสสี่ปี 2564 น่าจะฟื้นตัวจากไตรมาสสามได้ราว 1.4% ซึ่งภาวะเช่นนี้เศรษฐกิจไทยยังห่างไกลจากภาวะ stagflation โดยเรายังมองว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวได้ราว 3.2% ในปีหน้า ยกเว้นมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมที่ทำเงินเฟ้อเร่งขึ้น เราจะมาประเมินว่าผลกระทบต่อภาคส่วนเศรษฐกิจต่างๆ จะมีมากน้อยเพียงไร และประเทศไทยจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเช่นไรเทียบกับประเทศอื่น

พร้อมกันนี้ นายอมรเทพยังสรุปว่า แม้นักลงทุนกำลังกังวลปัญหาเงินเฟ้อ เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวแรงตามราคาน้ำมัน และอุปทานชะงักงันในหลายภาคการผลิต แต่เราเชื่อว่าปัญหาราคาน้ำมันและปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจอื่นๆ จะคลี่คลายในไตรมาสแรกปีหน้า เศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวช่วงสั้น และยังไม่จำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินเข้มงวดด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสกัดเงินเฟ้อ ดังนั้นเงินเฟ้อไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ให้ระวังมาตรการที่มารับมือกับเงินเฟ้อ เช่น การรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเศรษฐกิจชะลอ หรือการลังเลที่จะใช้นโยบายการคลังในการดูแลผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวในปีหน้าได้.

ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ESGความยั่งยืนคือ“โอกาส”

ESG แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืนกำลังได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลกในปัจจุบัน และไม่ใช่แค่เทรนด์เท่านั้น เป็นแนวคิดระดับโลกที่ธุรกิจทุกขนาดจะต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้โลกของเราอยู่ได้อย่างยั่งยืน และธุรกิจสามารถดำเนินต่อได้ในอนาคต โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบ 3 ด้านหลัก

ยังต้องจับตาดูเศรษฐกิจรอบโลก

ดูเหมือนว่าจะยังมีหลายสถานการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ต้องเฝ้าจับตาดูในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะทางฝั่งของสหรัฐ ที่เฟดเผยว่าอาจไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงมาก

การจัดตั้งรัฐบาลในม่านหมอก

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการเซ็น MOU ของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่ง MOU ฉบับนี้ถือเป็นข้อตกลงร่วมกันของรัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคก้าวไกล โดยในเนื้อหาหลักของข้อตกลงนี้มีหลายประเด็น ทั้งในมิติด้านการเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา สิ่งแวดล้อม และนโยบายด้านการต่างประเทศ

เช็กเส้นทางก่อนเปิดเทอม

ถึงเวลาเปิดเทอมของน้องๆ หนูๆ กันแล้ว บรรยากาศการเดินทางไปโรงเรียนเริ่มกลับมาเป็นปกติ แน่นอนว่าในช่วงเวลาเร่งด่วน