
ช่วงนี้ ในเวลาไถดูเนื้อหาบนสื่อโซเชียล โดยเฉพาะบนแอป TIKTOK จะเห็นวิดีโอเกี่ยวกับการไปทำงานที่เกาหลีโผล่ขึ้นในฟีดเป็นจำนวนมาก และเนื้อหาแบ่งออกเป็น 2-3 ประเด็น คือ หนึ่ง ชีวิตของแรงงานไทยในเกาหลีใต้ ทั้งความเป็นอยู่ และรายได้แต่ละเดือน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะคุยว่ารายได้ดี มีเงินเก็บเป็นล้าน แน่นอนช่วยกระตุ้นให้คนไทยอยากจะเข้าไปทำงาน
ส่วนประเด็นอื่นคือ เรื่องที่เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้พยายามไล่จับกุมแรงงานไทยผิดกฎหมาย (ผีน้อย) ส่งกลับบ้าน รวมถึงกรณี ตม.ของเกาหลีใต้ที่ปฏิเสธการเข้าประเทศของคนไทย
ซึ่งล่าสุดเพิ่งเห็นข่าวว่า ตม.เกาหลีใต้ได้ปฏิเสธไม่ให้คนไทยเข้าประเทศแทบยกลำ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบไม่ถึง 1 สัปดาห์
แน่นอนว่า ในช่วงที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับความจริงว่ามีคนไทยจำนวนมากที่แอบลักลอบเข้าไปทำงานในเกาหลีใต้แบบผิดกฎหมาย โดยการสวมรอยเป็นนักท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาทางการเกาหลีใต้และไทยเองก็พยายามประสานความร่วมมือในการสกัดผู้ลักลอบไปทำงานเกาหลีผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่ใช่จะสามารถจัดการได้ทั้งหมด
ซึ่งการกระทำแบบนี้ หมายถึงผู้ที่ต้องการเข้าไปแบบผีน้อย ก็จะไปกระทบคนไทยที่อยากจะเดินทางไปเที่ยวจริงๆ ที่อาจจะได้รับผลกระทบ ไม่สามารถเข้าไปประเทศเกาหลีได้ด้วย
ดังนั้นจึงอยากขอให้คนไทยที่อยากเข้าไปทำงานที่เกาหลีใต้ ควรใช้ช่องทางที่ถูกต้อง การแอบลักลอบไปแบบนี้มันมีความเสี่ยงที่จะเสียทั้งเงิน เวลา และความรู้สึก และรวมถึงคุณภาพชีวิตหลังจากที่เข้าไปทำงานด้วย ซึ่งอาจจะไม่ได้รับสวัสดิการที่ดี การรักษาพยาบาลที่ไม่สามารถเข้าถึง เป็นต้น
ล่าสุด ทางกระทรวงแรงงานก็มีการแจงมาตรการสกัดผู้ลักลอบไปทำงานเกาหลีผิดกฎหมาย โดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ตนมิได้นิ่งนอนใจ หลังจากเกิดกรณีทางการเกาหลีใต้ปฏิเสธการเดินทางเข้าประเทศเกาหลีของคนไทยที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่ง (คนไทยขอเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ประมาณ 10,000 คน ถูกปฏิเสธแล้ว 5,000 คน) โดยกระทรวงแรงงานมีด่านตรวจคนหางานทั่วประเทศถึง 25 ด่าน ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการกรมการจัดหางานตรวจสอบผู้มีพฤติการณ์จะลักลอบไปทำงานต่างประเทศอย่างเข้มงวด ใน 2 ด่านที่คนหางานมักเดินทางผ่านด่านไปทำงาน คือด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิ และด่านตรวจคนหางานดอนเมือง
ที่ในปี 2565 มีการระงับการเดินทางผู้มีพฤติการณ์จะลักลอบไปทำงานต่างประเทศแล้ว จำนวน 328 คน และย้ำเตือนให้ศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนหางาน ทำหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบ และดำเนินคดีผู้มีพฤติการณ์หลอกลวงคนหางานไทยไปทำงานต่างประเทศอย่างใกล้ชิด
โดยปัจจุบันได้มีการขยายผล จับกุม ดำเนินคดีสาย/นายหน้าเถื่อนแล้ว 112 ราย เป็นการหลอกลวงคนหางานทั้งสิ้น 158 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวน 12,758,210 บาท พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เอาจริงเอาจังและเข้มงวดกับการดำเนินการใน 3 มาตรการ ประกอบด้วย มาตรการด้านการป้องกัน มาตรการด้านการปราบปราม และมาตรการด้านรณรงค์ประชาสัมพันธ์
นายสุชาติยังระบุอีกว่า ผู้ที่อยากจะไปทำงานที่เกาหลีใต้จริงๆ ควรเข้าไปแบบถูกกฎหมาย โดยขณะนี้ทางการไทยและเกาหลีใต้อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงร่าง MOU เพื่ออำนวยความสะดวกให้เข้าไปทำงานได้อย่างถูกต้องง่ายขึ้น
สำหรับผู้ที่อยากจะเข้าไปทำงานที่เกาหลีใต้จริงๆ และไม่อยากถูกหลอก กรมการจัดหางานแนะนำ 5 วิธีการด้วยกัน ประกอบไปด้วย 1.กรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง 2.บริษัทจัดหางานจัดส่ง 3.นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างของตนไปทำงานต่างประเทศ 4.นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างของตนไปฝึกงานในต่างประเทศ และ 5.คนหางานแจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตัวเอง โดยต้องแจ้งการเดินทางกับกรมการจัดหางานก่อนเดินทางทุกครั้ง และต้องเดินทางออกไปทำงานโดยผ่านด่านตรวจคนหางานที่ประจำอยู่ ณ ท่าอากาศยาน การไปทำงานอย่างถูกกฎหมายจะลดความเสี่ยงจากการตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์
ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่สนใจเดินทางไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี ติดตามข่าวสารจากกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ผ่านเว็บไซต์ doe.go.th/overseas เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง
เกาหลีใต้ยังคงขาดแคลนแรงงานจำนวนมาก แต่ขอให้เข้าไปแบบถูกกฎหมายจะดีที่สุด พอกันทีการแอบลักลอบเข้าไป และตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์.
ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับตาทิศทางดอกเบี้ยไทย
เสถียรภาพทางการเงินโลกขณะนี้ถือว่าอยู่ในจุดสุ่มเสี่ยง หลังจากเริ่มเห็นสถาบันการเงินหลายแห่งเข้าสู่ภาวะล้มละลายและต้องปิดตัวลง ไล่มาตั้งแต่สหรัฐอเมริกาจนถึงยุโรป
“ตลาดรถยนต์ไทย”ช่วงเปลี่ยนผ่าน
ประเทศไทย ถือเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาตลาดรถยนต์ทั้งในและต่างประเทศก็เริ่มมีทิศทางการฟื้นตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย “สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
จัดทัพกำชับนโยบายอุตสาหกรรม
จากการดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรม ผ่านมาหลายเดือนก็เริ่มเห็นนโยบายที่ชัดเจนขึ้น และการบูรณาการการทำงานของหลายๆ หน่วยงานไปพร้อมๆ กัน จากสิ่งแรกที่เห็นคือการปรับปรุงนโยบายของกระทรวงภายใต้คำว่า MIND “ใช้หัวและใจ” ทำงาน โดยแบ่งเป็น 4 มิติ ได้แก่
ปีนี้ได้ใช้แน่รถไฟฟ้าสายใหม่
จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันมีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ หลายสายทาง โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี
ป้องกันกลโกง“แอดมินปลอม”ให้อยู่หมัด
คงต้องยอมรับว่าเหล่ามิจฉาชีพบนโลกออนไลน์นับวันนั้นยิ่งแพร่ระบาดไปทั่วทุกแพลตฟอร์ม เรียกได้ว่าคนอยู่ที่ไหน
ลดค่าก๊าซ-ค่าไฟ ไม่ต้องรอพรรคไหนทั้งนั้น
ทุกครั้งที่จะมีการเลือกตั้ง จะได้เห็นนโยบายหาเสียงของบรรดาพรรคการเมือง ให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำสิ่งนั้น ทำเรื่องนี้ให้ทันที