สูตรตั้งรัฐบาลปลิวว่อน ราวกับสูตรก๋วยเตี๋ยว
เพราะอะไรนะหรือ?
ก็เพราะมหกรรมแย่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร มันจบไปแล้วนะสิครับ
พรรคอันดับ ๒ เขาเริ่มตั้งรัฐบาลกันแล้ว
ที่จริงก็ปล่อยม้าออกจากซองตั้งแต่ "ลุงป้อม" กลับจากไป "ดูแม้ว" ที่ลอนดอนนั่นแหละครับ
๓-๔ วันมานี้ความเคลื่อนไหวทางการเมืองจึงเริ่มเร็วขึ้น
และต้นเดือนหน้าจะยิ่งเร็วขึ้น จนพรรคก้าวไกลอาจปรับตัวไม่ทัน
มีความพยายามที่น่าเห็นใจจากพรรคก้าวไกล ที่จะกอบกู้สถานการณ์กลับ หลังผิดพลาดเพราะไปเสนอชื่อ "ปดิพัทธ์ สันติภาดา" ส.ส.พิษณุโลก เป็นประธานสภาผู้แทนฯ
ใช่ครับ! มันคือการตอบโต้พรรคเพื่อไทยแบบทันควัน หลังพรรคเพื่อไทย ยืนกราน เก้าอี้ประธานสภาผู้แทนฯ ต้องเป็นของพรรคลำดับที่ ๒
เป็นไปตามสูตร ๑๔+๑
ที่จริงวิเคราะห์กันมาเป็นเดือนแล้วว่า ในวันที่พรรคก้าวไกล กับพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ คนของพรรคตัวเอง ชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนฯ วันนั้นคือจุดจบของการตั้งรัฐบาล ๘ พรรค
คือวันที่ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" เลิกฝันถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
และมันก็มาถึงแล้ว
ท่าทีหันรีหันขวางของพรรคก้าวไกล ที่ขอเลื่อนประชุม ๘ พรรคไม่มีกำหนด แล้วไปจบที่นัดคุยวันที่ ๒ กรกฎาคม ก่อนสภาเปิด ๑ วัน เห็นได้ชัดว่านี่คือมือใหม่ทางการเมือง
อ่อนหัด ไร้ประสบการณ์
ตามเหลี่ยมพรรคเพื่อไทยไม่ทันอย่างสิ้นเชิง
ฉะนั้นหลังจากนี้คนกุมเกมตั้งรัฐบาล ไม่ใช่พรรคก้าวไกลอีกแล้ว
แต่เป็นพรรคเพื่อไทย
พรรคเพื่อไทยก็ไม่ต่างจากพญาแร้งครับ
บินวนแค่รอเวลาว่าเศษเนื้อเน่าเมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็ดิ่งลงพื้นรุมทึ้ง
การพูดคุยกันในวันที่ ๒ กรกฎาคม จึงออกได้แค่หน้าเดียว
ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นของพรรคเพื่้อไทย
หลังจากนั้น "พิธา" และก้าวไกล จะไม่เหลืออะไรในมือ แม้กระทั่ง ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แต่ก็มีรางวัลปลอบใจสำหรับ "พิธา" นั่นก็คือ เก้าอี้หัวหน้าฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ที่มีความสำคัญเช่นกัน
เป็นตัวแทนของประชาชนในการตรวจสอบรัฐบาล
ดูเหมือนจะเขียนเรื่องนี้วนไปวนมาเป็นเดือนแล้ว และคิดว่า พรรคก้าวไกลน่าจะเข้าใจสถานการณ์ของตัวเองตั้งแต่เริ่มแรก
แต่เปล่าเลย เพราะ เย่อหยิ่ง จองหอง ความคิดตัวเองอยู่เหนือทุกสิ่ง
ด้อยค่ากระทั่งความเป็น "ชาติ" ที่บรรพบุรุษสร้างมาร่วม ๘๐๐ ปี แล้วกลับไปเชิดชูว่าสิ่งที่คณะราษฎรทำเมื่อปี ๒๔๗๕ นั่นเหนือกว่า
เพราะ ๑๔ ล้านเสียง และวาทกรรม "ก้าวไกลคือเสียงข้างมาก" ได้ผลน่าพอใจ
จึงเกิดความย่ามใจว่า มีประชาชนหนุนหลังแล้วการเมืองไม่มีทางพลิก
อ่านการเมืองได้แค่หางอึ่ง ริจะเข้าสู่อำนาจ คุมประเทศ
ดังนั้นสำหรับพรรคก้าวไกล มันจบแล้วจริงๆ ไม่ต้องไปวิ่งหาให้ใครช่วยอีก
หากเพื่อไทย เห็นแก่พวกพ้องจริง อาจใจดี ในวันโหวตเลือกนายกฯ นั้น จะโหวตให้ "พิธา" เล่นตามน้ำไป
เพราะรู้อยู่แล้วว่า "พิธา" ไม่ผ่านด่าน ส.ว.
แต่ถ้าจะหักเลยด้วยการ เสนอชื่อ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็น แพทองธาร ชินวัตร, เศรษฐา ทวีสิน หรือ ชัยเกษม นิติสิริ แข่งกับ "พิธา" ก็ทำได้
มีข้ออ้างฟังขึ้นด้วย!
ก็เพราะพรรคก้าวไกลหักก่อนด้วยการเสนอชื่อ "ปดิพัทธ์ สันติภาดา" เป็นประธานสภาผู้แทนฯ แข่งกับพรรคเพื่อไทย
พรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านร่วมกับ พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ขออวยพรให้เป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างขันแข็ง
ไม่ใช่หายใจเข้าออก ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ แก้ ม.๑๑๒ ยุให้ทำประชามติแบ่งแยกดินแดน หรือวนเวียนอยู่กับเปลี่ยนวันชาติ
ควรเรียนรู้การเป็นฝ่ายค้านจากพรรคประชาธิปัตย์ไว้เยอะๆ แล้วจะมีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองในวันข้างหน้า
และประโยชน์ที่ว่าจะตกเป็นของประชาชนทุกคนอย่างที่พรรคก้าวไกลต้องการมาตลอด
ที่จริงมีสูตรตั้งรัฐบาลอีกสูตร และสูตรนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า "ฝ่ายประชาธิปไตย" มีจริง
๘ พรรคจับมือเหนียวแน่น ไม่ว่า ส.ว.จะตีตกแคนดิเดตนายกฯ ของ ๘ พรรค กี่ครั้งก็ยังยืนหยัด สู้กับฝ่ายที่บอกว่าเป็นเผด็จการอย่างเด็ดเดี่ยว
ไม่ย้ายขั้ว!
เพราะอีกฝั่งแม้จะตั้งรัฐบาลได้ แต่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ตั้งมาก็พังทันที
ยื้อเวลา ไม่มีการยอมแพ้ เพื่อประชาธิปไตย ก็ทำได้ แต่ยากครับที่ พรรคเพื่อไทยจะร่วมวง
หนีเสือปะจระเข้หรือเปล่ามิทราบได้
เราจะได้รัฐบาลระบอบทักษิณกลับมาอีกรอบ
อาจเรียกได้ว่า รัฐบาลไทยรักไทย EP 2 ก็ว่าได้
เพราะเมื่อ พรรคเพื่อไทย เขย่ารวมกับ ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ก็ล้วนเป็นคนเก่าคนแก่จากพรรคไทยรักไทยแทบทั้งสิ้น
พรรคเพื่อไทย ผ่านการเป็นรัฐบาลมาแล้ว
และประวัติไม่ดี
คอร์รัปชันซ้ำซาก
นายกฯ หนี รัฐมนตรีติดคุก
อย่าลืมเด็ดขาดนะครับรัฐบาลเพื่อไทยสร้างความฉิบหายเอาไว้มากมาย โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว ที่โกงกันตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
ย้ำอีกครั้งนะครับ จนถึงวันนี้พรรคเพื่อไทยไม่เคยเอ่ยปากขอโทษประชาชน ทั้งๆ ที่รัฐมนตรียังนอนคาอยู่ในคุก
คอร์รัปชันหลักฐานปรากฏชัดเป็นคำพิพากษาของศาล จะดิ้นหนีอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองไม่ได้ และคนที่เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นควรจะพิจารณาตัวเอง
คนที่ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบรัฐบาลเพื่อไทยอย่างหนักหน่วงที่สุดในวันนั้น คือ "หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม"
แต่วันนี้ถูกประชาชนลืมไปเสียแล้ว!
กระนั้นก็ตามการกลับมาของรัฐบาลเพื่อไทย ต้องยอมรับว่ามาตามรัฐธรรมนูญ จะไปขัดขวางเสียตั้งแต่เริ่มต้นก็ดูจะเอาแต่ใจตัวเองกันเกินไป
คราวนี้พรรคเพื่อไทยควรใช้โอกาสในการแก้ตัว ไม่กระทำการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงเหมือนในอดีตอีก
และต้องสลัดให้พ้นจาก "ทักษิณ"
แต่ไม่ง่าย เพราะ "ชีบวชใหม่" ถูกส่งมาคุมวัดแล้ว
คงต้องเหนื่อยกันต่อ
หวังว่าคงไม่หนีล้มเจ้ามาเจอโกงนะครับ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชะตากรรม 'นายกฯ ชินวัตร'
วันนี้ (๑๒ ธันวาคม) นายกฯ อิ๊งค์ แถลงผลงาน อยากรู้ว่าผลงานมีอะไรบ้าง เชิญเฝ้าหน้าจอสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที หรือช่อง ๑๑ นั่นแหละครับ
ในวันที่ 'ส้ม' โหยหาเพื่อน
ไอ้เสือถอย! ไปไม่ถึงสุดซอยครับ "หัวเขียง" ยอมเลี้ยวกลับเสียก่อน
ง่ายๆ แค่เลิกโกง
อาจถึงขั้นเปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาลกันเลยทีเดียวครับ... หากพรรคเพื่อไทย จะเอาให้ได้ กับร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ด้วยการจับยัดเข้าสภาฯ ก็สามารถยึดอำนาจกองทัพได้สำเร็จครับ
'อุ๊งอิ๊ง' แถลงผลงาน
ล้างตารอไว้นะครับ นายกฯ แพทองธาร นัดไว้แล้ววันที่ ๑๒ ธันวาคม มีข่าวใหญ่
หรืออยากฟังเพลงมาร์ช
เขาว่าเป็นร่างกฎหมายป้องกันรัฐประหาร ข่าววานนี้ (๖ ธันวาคม) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เผยแพร่การรับฟังความเห็นร่าง พ.ร.บ.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๗๗ ในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่...)
รัฐบาลถังแตก?
ตกใจกันทั้งประเทศ...! วันอังคาร (๓ ธันวาคม) ที่ผ่านมา "พิชัย ชุณหวชิร" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไปพูดในงาน Sustainability Forum 2025: Synergizing for Driving Business กล่าวในหัวข้อ "Financial Policies for Sustainable Economy" แนวทางในการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ๓ ข้อ