รัฐบาลเอาจริง! รองโฆษกร่ายผลงานปราบอาชญากรรมออนไลน์

รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ อายัดบัญชีม้า 5.8 หมื่นบัญชี ปิดเบอร์ซิมลวงกว่าแสนเบอร์ เว็บพนันเกือบสองพันเว็บ

19 ม.ค.2566 - นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการดำเนินการภาครัฐที่เร่งแก้ไขแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ผ่านการบูรณาการหลายหน่วยงาน มีกลไกความร่วมมือระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส), สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นต้น จนสามารถดำเนินคดีผู้กระทำผิดจำนวนมาก โดยในปี 2565 ดำเนินคดีแก๊ง Call Center ในต่างประเทศ 8 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหา 166 คน ทำการปิดกั้นการโทรหลอกลวง/ข้อความ SMS หลอกลวง จำนวน 118,530 หมายเลข ทำการอายัดบัญชีม้าจำนวน 58,463 บัญชี ปิดกลุ่มโซเชียลมีเดียซื้อขายบัญชีม้า จำนวน 8 กลุ่ม และปิดกั้นเว็บพนันจำนวน 1,830 เว็บ เป็นต้น

สำหรับการแก้ปัญหาบัญชีม้าและบัญชีต้องสงสัยจะนำไปใช้กระทำผิดกฎหมาย สำนักงาน ปปง. ได้จัดทำประกาศ หลักเกณฑ์ในการพิจารณากำหนดหรือทบทวนรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งควรได้รับการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดตามกฎกระทรวงการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า พ.ศ. 2563 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งจะทำให้การดำเนินการในเรื่องนี้ประสิทธิภาพมากขึ้น

ขณะเดียวกัน สำนักงาน กสทช. ได้มีมาตรการแก้ปัญหา SIM ผิดกฎหมาย โดยให้ผู้มี 100 SIMขึ้นไป ซึ่งมีอยู่ประมาณ 8,000 ราย ยืนยันตัวตนให้ถูกต้องภายใน ม.ค.2566 ทั้งนี้ เพื่อตัดวงจรการที่มิจฉาชีพใช้ SIM เติมเงินโทรไปหลอกลวงประชาชน (Call Center) และทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ มากไปกว่านั้นได้มีแผนงาน กรณีผู้มี 100 ซิมขึ้นไป ประมาณ 8,000 ราย ยืนยันตัวตนให้ถูกต้องภายใน ม.ค.2566 ทั้งนี้ เพื่อตัดวงจรการที่มิจฉาชีพใช้ SIM เติมเงินโทรไปหลอกลวงประชาชน (Call Center) และทำธุรกรรมการเงินออนไลน์

นางสาวรัชดา กล่าวต่อว่า เพื่อให้การแจ้งความคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสะดวกต่อผู้เสียหาย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้พัฒนาระบบการรับแจ้งความออนไลน์ www.ThaiPoliceOnline.com ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนได้เข้าถึงกระบวนการสืบสวนสอบสวนอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ระบบเริ่มใช้งาน 1 มี.ค.2565 ถึง 31 ธ.ค.2565 รวม 10 เดือน มีผู้เข้ามาแจ้งความจำนวน 163,091 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 27,305 ล้านบาท โดยเฉลี่ยมีความเสียหายวันละ 91 ล้านบาท และมีแนวโน้มการเกิดคดีสูงขึ้นทุกเดือน ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่ม ดังนี้

1.คดีที่ผู้กระทำความผิดอยู่ในประเทศไทย ได้แก่ การซื้อขายสินค้าหรือบริการผ่านทางออนไลน์แต่ไม่รับสินค้า การปล่อยกู้ผ่านแอปฯ นอกระบบ การลงทุนแบบแชร์ลูกโซ่ เป็นต้น มีสถิติการรับแจ้งประมาณ 40.5% ของคดีทั้งหมด ความเสียหายรวมประมาณ 1,230 ล้านบาท 2.คดีที่ผู้กระทำความผิดอยู่ต่างประเทศ และมีคนไทยร่วมขบวนการ โดยเดินทางไปทำงานผ่านช่องทางธรรมชาติ เพื่อไปทำหน้าที่เป็นแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทยผ่านทางออนไลน์ด้วยวิธีการต่าง ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มคดีที่มีมูลค่าความเสียหายมากที่สุด ประมาณร้อยละ 51 มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 15,800 ล้านบาท และ 3.คดีอื่น ๆ ที่เหลือประมาณ 8.5% ได้แก่ แฮ็กระบบคอมพิวเตอร์ การเรียกค่าไถ่ทางคอมพิวเตอร์ การคุกคามทางเพศ หลอกให้ไปทำงานต่างประเทศ เป็นต้น

“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างที่สุด และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการการทำงานเพื่อป้องกัน ยับยั้ง และปราบปราม ปัญหาดังกล่าว อีกทั้งยังได้ออกมาตรการเชิงรุกเพื่อแก้ปัญหาบัญชีม้าซึ่งเป็นตัวการสำคัญของอาชญากรรม รวมถึงสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อยับยั้งและจับกุมผู้กระทำผิด อีกทั้ง ยังได้มีการประชุมระหว่างหน่วยงานเพื่อพิจารณาการแก้กฎหมายเพื่อแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการใช้โปรไฟล์ของบุคคลอื่น การรับจ้างเปิดซิมผีและบัญชีม้า การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ P2P เป็นต้น ทั้งนี้ ประชาชนสามารถโทรแจ้งเบาะแสการกระทำผิดได้ที่หมายเลข 1212 หรือประสงค์แจ้งความออนไลน์ได้ที่ www.ThaiPoliceOnline.com ตลอด 24 ชั่วโมง”นางสาวรัชดา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มช. ร่วมลงนามเดินหน้า “การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี” กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย 17 หน่วยงาน

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ เรื่อง การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายอีก 17 หน่วยงาน

ผบ.ตร.ไทยถกด่วน ผบ.ตร.กัมพูชาหามาตรการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์!

สตช.ถกด่วนร่วมตำรวจกัมพูชาวางมาตรการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมประสานขอส่งตัวผู้ต้องหากว่า 100 คนกลับมาดำเนินคดีในไทย

'คารม' เตือน ปปง.ไม่เคยมีเพจให้ร้องเรียนผ่านสื่อสังคมออนไลน์

'คารม' ยืนยัน เพจแจ้งความออนไลน์ ชื่อ 'ศูนย์รับเรื่อง-ลงทะเบียนและตรวจสอบเพื่อรับเงินคืนจากคดีออนไลน์' ไม่ใช่ของ ปปง. ย้ำเตือน ปชช. อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม

'เกณิกา' ชูผลงานแก้หนี้นอกระบบมั่นใจจบภายใน 4 ปี

'เกณิกา' เผยผลงานแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล สามารถไกล่เกลี่ยได้ครบ 100% มูลหนี้ลดลง 1.2 พันล้านบาท ด้านหนี้ กยศ.ยอดหนี้ต้องชำระลดลง 2.8 ล้านราย มั่นใจแก้หนี้นอกระบบจบภายในรัฐบาล

เร่งขยายผลแก๊งพาคนไทยไปเก็บผลไม้ที่ฟินแลนด์ผิดกฎหมาย

'คารม' เผยกรมการจัดหางาน เร่งขยายผลขบวนการนำพาคนหางานเก็บผลไม้ป่าฟินแลนด์ผิดกฎหมาย ย้ำขณะนี้ยังชะลอจัดส่งแรงงานไทยทำงานเก็บผลไม้ป่า แนะผู้สนใจไปทำงานต่างประเทศปฏิบัติตามกฎหมาย

รัฐบาลชวนปชช. จอง-แลกเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เริ่ม 24 ก.ค.

รัฐบาลเชิญชวนประชาชน จอง-แลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ตั้งแต่ 24 ก.ค.นี้