ชาวบ้านเอือมระอา พฤติกรรมตร.ทำตัวกร่าง ไม่ให้เกียรติศาสนสถาน บุกโรงพักไล่ออกจากพื้นที่

ชาวบ้าน อ.กัลยาณิวัฒนา รวมตัวบุกโรงพักประท้วงให้ย้าย รอง ผกก.สอบสวน และตร.อีก 4 นาย ออกจากพื้นที่ภายใน 7 วัน แฉพฤติกรรมใช้วาจาไม่สุภาพ ไม่ให้เกียรติศาสนสถาน จนเป็นที่เอือมระอาและยังข่มขู่ทำร้ายครูสอนศาสนา

26 เม.ย.2566 - ที่ลานหน้าสถานีตำรวจภูธรกัลยาณิวัฒนา ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 100 คนรวมตัวชูป้ายประท้วงเพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ย้าย รอง ผกก.สอบสวนฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจ อีก 4 นาย ย้ายออกจากพื้นที่ เนื่องจากไม่พอใจการปฏิบัติหน้าของเจ้าหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 5 นายดังกล่าว ก่อนจะยื่นหนังสือให้กับพันตำรวจเอกธนัญชัย ศิริวรรณา ผู้กำกับการ สภ.กัลยาณิวัฒนา โดยระบุว่า รอง ผู้กำกับการคนดังกล่าว มีพฤติกรรมไม่ให้เกียรติประชาชน เวลาที่ชาวบ้านไปติดต่อราชการมักจะใช้วาจาที่ไม่สุภาพ แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายครั้ง ไม่ให้เกียรติศาสนสถาน สูบบุหรี่ในโบสถ์คริสต์ ขณะไประชุมชาวบ้านโดยไม่สนใจเนื่องจากหมู่บ้านดังกล่าวเป็นหมู่บ้านปลอดอบายมุข มีป้ายบอกชัดเจน เมื่อชาวบ้านว่ากล่าวตักเตือนกลับพูดจาตะคอกใส่ชาวบ้าน สร้างความไม่สบายใจแก่ชาวบ้านและผู้นำศาสนาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมไปซื้อของที่ร้านของชาวบ้าน, ตัดผม แล้วไม่จ่ายเงินหลายครั้งอีกด้วย จนเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้านในพื้นที่แต่ไม่มีใครกล้ายุ่งเนื่องจากเกรงกลัว

ชาวบ้านระบุอีกว่า ในส่วนของ ร้อยตำรวจโท น. และพวกอีก 3 คนได้ข่มขู่ และทำร้ายนายบุญยืน ตะแก อายุ 60 ปี ครูสอนศาสนา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงหัวค่ำของวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายดักจับนายบุญยืนฯ ที่หน้าป่าช้าบ้านห้วยฮ้อม ต.บ้านจันทร์ อ.กัลยานิวัฒนา ขณะที่นายบุญยืนกลับจากทำสวน จนรถมอเตอร์ไซค์ล้มบาดเจ็บ ก่อนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ล็อคคอสวมกุญแจมือและซ้อมได้รับบาดเจ็บ หลังตรวจค้นแล้วไม่พบยาเสพติด แต่ไม่รับผิดชอบโดยอ้างว่า ปฏิบัติตามหน้าที่จนทำให้เกิดความไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้หนักขึ้น

หลังจากที่ชาวบ้านได้ยื่นหนังสือกับ พันตำรวจเอกธนัญชัย ศิริวรรณา ผู้กำกับการ สภ.กัลยาณิวัฒนา ต่อมาพันตำรวจเอกธนัญชัย ได้เชิญตัวแทนชาวบ้านไปพูดคุยเพื่อหาทางออกตามข้อร้องเรียน ก่อนจะได้มติว่า จะได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนมา และจะแจ้งผลการดำเนินการให้ชาวบ้านภายใน 7 วัน ก่อนที่ชาวบ้านจะแยกย้ายกันกลับ

ด้านนายโกวิท กิจรุ่งเรืองพัฒนา ตัวแทนชาวบ้านเปิดเผยว่า ชาวบ้านในอำเภอกัลยาณิวัฒนา ส่วนใหญ่เป็นพี่น้องชนเผ่า บางคนไม่รู้กฎหมายเมื่อได้รับความเดือดร้อนไปขอแจ้งความกลับไม่ได้รับการบริการที่ดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บ่อยครั้งทำให้เกิดความไม่พอใจในกลุ่มชาวบ้านตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผลการพูดคุยกับผู้กำกับการ สภ.กัลยาณิวัฒนา ทราบว่าจะได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและจะทราบผลภายใน 7 วัน หากผลออกมาไม่เป็นตามที่ยื่นร้องจะออกมารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่ง

ขณะที่นาย ช. (นามสมมุติ) เจ้าของร้านตัดผมแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ รอง ผกก. คนดังกล่าวได้ไปใช้บริการตัดผมซึ่งตนก็คิดราคาจากผู้ใหญ่ตัดหัวละ 30 บาท ถูกขอลดราคาให้เพียง 20 บาท แต่ตำรวจนายดังกล่าวกลับไม่จ่ายเงินครั้งแรกอ้างว่า ไม่ได้เอากระเป๋าเงินมา หลังจากนั้นมาตัดครั้งที่สองก็ยังไม่จ่ายเงิน และยังมาใช้บริการตัดครั้งที่ 3 กลับแกล้งเอาเงินแบ็งค์ 1 พันมาจ่ายให้อ้างว่าไม่มีแบ็งค์ย่อย ทั้งที่รู้ว่า ตนไม่มีเงินทอน หลังจากนั้นก็ไม่เห็นหน้านายตำรวจรายนี้อีกเลย ซึ่งเป็นการกลั่นแกล้งและย่ำยีตนเอาเปรียบ ทำให้ได้รับความลำบากเนื่องจากตน หาเช้า กินค่ำ มีภาระต้องเลี้ยงดูลูกเมียต้องจ่ายค่าเช่า ค่าไฟ

ส่วนนายโชค(นามสมมุติ) ชาวบ้านเปิดเผยว่า วันนี้มาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ สภ.กัลยาณิวัฒนา ทั้งตั้งด่านลอย เรียกรับผลประโยชน์กับผู้ประกอบการเป็นรายเดือน นอกจากนี้จากการพบว่า เจ้าหน้าที่จะจับกุมเฉพาะผู้เสพยาเท่านั้นส่วนผู้ค้ากลับปล่อยลอยนวลเหมือนรู้กัน ทำให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ส่วนช่วงกลางคืนชาวบ้านที่ออกหาปลา หาเขียด ตอนกลางคืนมักจะถูกเจ้าหน้าที่หาเรื่องจับกุมเป็นประจำ ทำให้เป็นที่เบื่อหน่ายของชาวบ้าน

ด้านพันตำรวจเอกธนัญชัย เปิดเผยว่า หลังจากได้รับหนังสือร้องเรียนและพูดคุยกับตัวแทนชาวบ้านแล้วหลังจากนี้จะได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อท็จจริงในข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้นและจะทราบผลภายใน 7 วัน ซึ่งยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ระทึก! เพลิงไหม้วอด เรือยอร์ชสุดหรู อ่าวนาจอมเทียน คาดเสียหาย 10 ล้าน

ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างรุนแรงบน เรือยอร์ชสุดหรู ชื่อ โค โค่ ยอร์ช ลำตัวเรือสีขาว ลักษณะ 2 ชั้น ห่างชายฝั่งหน้า โอเชียน มารีน่า อ่าวนาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ออกไปทางเมืองพัทยาราว 3 กิโลเมตร

ชาวบ้านผวา! แจ้งตำรวจช่วย โจ๋ปาประทัดลูกบอล ยิงปืนทางเข้าชุมชน

พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.สำโรงใต้ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากนายประเทศ เข็มนิล อายุ 65 ปี ชาว ตำบลสำโรงกลาง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

แผงขายหมูปิดระนาว ราคาหน้าฟาร์มปรับขึ้น 2 รอบติด ผู้ค้ากระอักรับต้นทุนไม่ไหว

ที่แผงหมูสดตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา พบว่ามีการปิดแผงหมูแล้ว นายอภิชาติ พคพงษ์พันธ์ อายุ 60 ปี พ่อค้าเขียงหมูในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง

ชาวบ้านน้ำพุร้อน ร้องดีเอสไอ สอบผู้ใหญ่บ้านร่ำรวยผิดปกติ บกพร่องหน้าที่ หน่วยงานเงียบฉี่

ชาวบ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี กว่า 100 คนได้มารวมตัวกันที่บริเวณหน้าด่านพุน้ำร้อนเพื่อมายื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมผู้ใหญ่บ้าน

ปฏิบัติการ 'สิงห์ทมิฬ' ทลายสินค้าเถื่อนเมืองภูเก็ต มูลค่าเสียหาย 500 ล้านบาท

กรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ "สิงห์ทมิฬ" นำหมายศาลบุกค้น ร้านขายบุหรี่เถื่อน เหล้าเถื่อน กลางเมืองภูเก็ต มูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท ลักลอบขนเข้าทางเรือ