98 สว.ยื่นอภิปรายรัฐบาลทิ้งทวน แทง 7 ปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

จากความเคลื่อนไหวของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในการยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ซึ่งร่วมกันเข้าชื่อเป็นจำนวน 98 คน เสนอผ่าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ส่งต่อให้กับสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ประสานกับคณะรัฐมนตรีและฝ่ายรัฐบาล เพื่อกำหนดวันและเวลาในการเข้ามาชี้แจง

โดยอ้างถึงปัญหาสำคัญ 7 ด้าน ที่รัฐบาลยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เคยให้ถ้อยคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้ นับแต่วันที่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน

หัวข้อที่น่าสนใจในการอภิปรายครั้งนี้คือ การพยายามพุ่งเป้าไปที่ ‘ปัญหาด้านเศรษฐกิจของชาติ และปัญหาปากท้องของประชาชน’ โดยเฉพาะโครงการ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ซึ่งอาจส่งผลต่อภาระหนี้สินของประเทศ และนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ไม่ได้มุ่งแก้ไขปัญหาจากต้นตอในระดับครัวเรือน

ประกอบกับ ‘ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย’ ซึ่งเน้นหนักไปที่การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามคําพิพากษา ซึ่งอาจทําให้เกิดปัญหาการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามมา

สะท้อนให้เห็นถึงความ สองมาตรฐาน และทำให้หลายฝ่ายมองว่าเจตนาที่แท้จริง อาจจงใจให้เกิดความเชื่อมโยงไปถึงกรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำลังพักรักษาตัวนอกเรือนจำอยู่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจในขณะนี้ หรือไม่

อีกทั้งยังมีข้อสงสัยต่อการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ยาเสพติด การพนัน รวมไปถึงการปราบปรามขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ การเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดเพื่อเกษตรกรรม และแนวทางการปราบปรามผู้มีอิทธิพลด้วย

 ‘ปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ’ ที่อยู่ระหว่างพิจารณาดําเนินการทําประชามติ ซึ่งรัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนในการอธิบายให้ได้ ว่ามีความจําเป็นในการดําเนินการอย่างไร โดยชอบด้วยกฎหมายอย่างไร จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชน และการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศอย่างไร

ข้อกังวลในกรณีที่อาจมีการเอื้อให้กับกลุ่มทุนพลังงานซึ่งมีอิทธิพลกับทางการเมือง สามารถกำหนดราคาพลังงานในอัตราที่สูงเกินความจำเป็น ทั้งค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม และค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งส่งผลให้ ‘ปัญหาด้านพลังงาน’ ไม่สามารถแก้ไขโครงสร้างพลังงาน และการบริหารได้หรือไม่

รวมถึง ปัญหาด้านการต่างประเทศและการท่องเที่ยว ทั้งการสร้างความเชื่อมั่น และให้ความคุ้มครอง การวางตัวเป็นกลาง การเลือกข้างของรัฐบาลในสถานการณ์ความขัดแย้งของประเทศต่างๆ และการเรียกผู้กระทําความผิดว่า ‘จีนเทา’ ซึ่งอาจเป็นการตอกย้ำ ทำให้กระทบความสัมพันธ์กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีนหรือไม่

ตลอดจน ‘ปัญหาการดําเนินการปฏิรูประเทศ และการดําเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ’ และ ‘ปัญหาด้านการศึกษาและสังคม’ ด้วย

ท้ายญัญติสรุปว่า ปัญหาข้างต้นเป็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่เร่งด่วน ที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการและแก้ไขปัญหาโดยทันที เพราะส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนและยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมทั้งไม่บรรลุเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีและรายได้เพิ่มขึ้น

แม้ นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.หัวหอกที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้จะออกมายืนยันว่า การขอเปิดอภิปรายในครั้งนี้ไม่ได้หวัง "ล้มรัฐบาล" แต่เป็นการทำตามหน้าที่ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน

และการที่ นายพรเพชร ผู้รับหน้าที่ประสานงาน จะปัดตอบ ว่าการกระทำในครั้งนี้ไม่ใช่ ‘ผลงานชิ้นโบแดง‘ ทิ้งทวนก่อนหมดวาระก็ตาม

แต่ในบรรดา 98 สว.ที่มีส่วนร่วมกับการดำเนินการ จากสายพลเรือน สายอาชีพ ยังมีรายชื่อจากสายทหารจำนวนหนึ่ง ซึ่งถูกสงสัยว่าอาจเข้าข่ายอยู่ในฝ่ายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะไม่ได้โหวตให้นายเศรษฐาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรวมอยู่ด้วย

ทำให้ข้อครหาต่างๆ ยังไม่ถูกลบล้างไป เนื่องจากทุกหัวข้อที่ สว.หยิบยกขึ้นมานั้น สามารถหวังผลได้ หากตัวนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีไม่สามารถชี้แจงให้กระจ่างเพียงพอ ก็อาจเพลี่ยงพล้ำจากการถูกแทงในครั้งนี้เช่นกัน!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คณะสอบวินัย"บิ๊กโจ๊ก"ส่อเค้าวุ่นไม่จบ “สราวุฒิ”จ่อเกษียณโยนเผือกร้อนสีกากี

สู้กันทุกกระบวนท่าเต็มสรรพกำลังอภิมหาศึก “สีกากี” สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที่ถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนพัวพันคดีเว็บพนันออนไลน์ ระบุว่า “การสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย”

จับตาระเบียบใหม่ กกต. สกัดฮั้วเลือก 'สว.'

เตรียมนับถอยหลังปิดฉากสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดบทเฉพาะกาลที่จะหมดวาระลงในวันที่ 3 พ.ค. 2567 แต่จะยังคงรักษาการจนกว่าจะมีวุฒิสภาชุดใหม่เข้ามาดำรงตำแหน่ง หากดูตามไทม์ไลน์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

จากวังสราญรมย์ถึงตึกไทยคู่ฟ้า “ทูตปู”เลขาฯส่วนตัวทักษิณ สู่ตัวเต็งรมว.ต่างปท.คนใหม่

ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้ารัฐบาล และเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาแค่หนึ่งคืนก็เคาะออกมาแล้วว่าจะดัน ทูตปู มาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตทีมงานหน้าห้อง นายกรัฐมนตรี ตึกไทยคู่ฟ้า สมัยทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

'เศรษฐา1/1'เศรษฐกิจ-การเมืองนำ เว้นระยะ'ความมั่นคง-กองทัพ'

โฉมหน้า “คณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1/1” ที่ออกมา นอกจากจะเป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตัวบุคคลของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว เป้าหมายที่ฉายภาพชัดต่อทิศทางการบริหารงานของรัฐบาล

ดิจิทัลวอลเล็ตสะดุด'พรบ.ธ.ก.ส.' แจกเงินหมื่น‘ลูกผีลูกคน’อีกแล้ว

ภาพ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง นำทีมหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค หรือแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มาแถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบหลักการ โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

คณะก้าวหน้า-ธนาธรปักธง "สว.สีส้ม" แชร์เก้าอี้สภาสูง

การเมืองช่วงเดือนพฤษภาคม วาระสำคัญเรื่องหนึ่งที่ต้องติดตามก็คือ การได้มาซึ่ง วุฒิสภา-สภาสูง ชุดใหม่ ที่จะมาแทนสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดปัจจุบัน ที่จะหมดวาระลงในวันที่ 10 พ.ค. แต่ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า สว.ชุดใหม่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่