ปักหมุด‘ครม.สัญจร’เชียงใหม่ กู้ศก.-ฟื้นท่องเที่ยวหลังภัยพิบัติ

ประเดิมนัดแรก “ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่” หรือ “ครม.สัญจร” ของรัฐบาล “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จังหวัดเชียงใหม่ บ้านเกิดตระกูลชินวัตร

พร้อมลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงราย ด้วยต้องการกอบกู้เศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนืออย่างเร่งด่วน หลังประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สร้างความเสียหายมหาศาล จึงเป็นเหตุผลที่นายกฯ อิ๊งค์เลือกปักหมุดสัญจรพื้นที่เชียงใหม่ เชียงราย เป็นพื้นที่แรก ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม 2567

สำหรับภารกิจแรกของ ครม.สัญจรอิ๊งค์ จะเริ่มประชุม ครม.ทันทีในวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อำเภอแม่ริม โดยนายกฯ และรัฐมนตรีจะใส่ชุดผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติด้วยครั่ง สีชมพูบานเย็น ซึ่งเป็นสีประจำมณฑลพายัพ (นครเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน น่าน และแพร่)

ทำการทอและย้อมโดยกลุ่มอาชีพผ้าฝ้ายอำพัน อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ และตัดเย็บ ปักลาย โดยผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP อำเภอสันกำแพง ภายในตัวเสื้อจะแต่งแถบผ้าปักลายชาติพันธุ์ในจังหวัดเชียงใหม่ ปักลายหงส์ในโคม ลายอัตลักษณ์จังหวัดเชียงใหม่ และปักลายพระราชทาน “ลายสิริวชิราภรณ์” และ “ลายดอกรักราชกัญญา” เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี รวมถึงปักลายดอกไม้เพื่อเพิ่มความสวยงามให้ตัวเสื้อ

สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญนอกจากการพิจารณางบประมาณของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือในการพัฒนาด้านต่างๆ จะมีการพิจารณาข้อเสนอในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมเสนอมาตรการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

เช่น ให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำกับผู้ประกอบการ เพื่อเป็นเงินทุนฟื้นฟูกิจการ การเสนอเร่งรัดโครงการเมกะโปรเจกต์ของจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ โครงการสนามบินล้านนาแห่งที่ 2 โครงการระบบขนส่งมวลชน (โครงการรถไฟฟ้ารางเบา) เป็นต้น

นอกจากนี้จะมีการเสนออนุมัติหลักการพิจารณางบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็น เพื่อนำไปใช้ในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ การบริหารจัดการน้ำ และฟื้นฟูโครงการที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ที่จะเสนอโดยกรมชลประทาน เป็นต้น

และหลังจากประชุม ครม.เสร็จสิ้น นายกฯ จะลงพื้นที่ทันที โดยช่วงบ่ายลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อมอบนโยบายแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5

ต่อจากนั้นจะเดินทางไปร่วมงาน Northern Coffee Gathering 2024 ณ ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ OLD Chiang Mai อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และช่วงเย็นเป็นประธานเปิดงาน CHARMING Chiang Mai 2025 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

จากนั้นวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน นายกฯ จะเดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนเป็นประธานพิธีเปิด “โครงการคนไทยห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCDs” ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และช่วงบ่ายจะติดตามปัญหายาเสพติด

ส่วนภารกิจวันสุดท้าย วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม นายกฯ จะลงจังหวัดเชียงราย ร่วมประชุม “คลังสัญจร” ครั้งที่ 1/2567 ซึ่งจัดโดยกระทรวงการคลัง ในการลงพื้นที่ประสบอุทกภัยหลังน้ำลด เพื่อฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ และส่งมอบมาตรการช่วยเหลือลดหย่อนด้านภาษีต่างๆ ให้ประชาชน ที่ด่านศุลกากรแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 

จากนั้นนายกฯ จะติดตามแผนการขุดลอกแม่น้ำเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เสร็จแล้วจะพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และมอบบัตรประจำตัวประชาชนแก่บุคคลที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS เชียงราย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย

ขณะเดียวกันในห้วงการตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายของนายกฯ บรรดารัฐมนตรีจะกระจายกันลงพื้นที่คู่ขนานไปด้วย อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

ตรวจติดตามโครงการปรับปรุงลำห้วยโป่งน้อย หมู่ที่ 6 ก่อสร้างคลองระบายน้ำคอนกรีตดาด ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ และโครงการปรับปรุงลำเหมืองสาธารณประโยชน์ โดยก่อสร้างคลองระบายน้ำ

ด้าน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม จะประชุมติดตามความคืบหน้าและรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และแนวทางการฟื้นฟู, ลงพื้นที่ตรวจติดตามการเตรียมความพร้อมการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น

ส่วนหลังประเดิม ครม.นัดแรก ที่นายกฯ อิ๊งค์ลงไปนำทัพบูรณาการฟื้นพื้นที่ด้วยตัวเองแล้ว คาดว่าเมืองเหนือจะกลับมาคึกคัก มีเม็ดเงินสะพัดเข้ากระเป๋าชาวบ้านได้มากขึ้นอีกครั้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นโยบายที่“อิ๊งค์”ไม่กล้าพูด เรื่องสำคัญกว่าผลงาน90วัน

บรรดากองเชียร์รัฐบาลเพื่อไทยอาจจะชื่นชม หลัง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เล่นใหญ่ เปิดสตูดิโอ 4 ของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ยืนเดี่ยวไมโครโฟน

แถลงผลงาน3เดือน‘รัฐบาลอิ๊งค์’ โชว์อนาคตประเทศ รอดหรือร่วง?

ได้เวลาตีปี๊บผลงานรัฐบาล 90 วันของ “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วันนี้ 12 ธันวาคม 2567 ในหัวข้อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” (2025 Empowering Thais : A Real Possibility) ซึ่งจัดเป็นครั้งแรกของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) พร้อมถ่ายทอดสดให้คนไทยได้รับชม

นายกฯอิ๊งค์ ยืนยันจุดยืนรัฐบาล ไม่มีเจตนาแทรกแซงกองทัพ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ว่า เรื่องนี้มีความคิดเห็นต่างกันอยู่แล้วก็ต้องรับฟังทุก