หนึ่งในนโยบายเร่งด่วนรัฐบาลคือ “เร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน เพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์รับมือกับอาชญากรรมออนไลน์อย่างรวดเร็ว ผนึกกำลังกับประเทศเพื่อนบ้านและสร้างกลไกการร่วมรับผิดชอบของบริษัทผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมและธนาคารพาณิชย์”
มิจฉาชีพแฝงอยู่ทุก แฟลตฟอร์มออนไลน์ สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล เหยื่ออาชญากรรมหลายชีวิตต้องสังเวยโจรออนไลน์ วัคซีนไซเบอร์ การแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจกับภัยออนไลน์จึงเป็นสิ่งสำคัญ หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องต่างเผยแพร่ให้ความรู้ วิธีการป้องการไม่ตกเป็นเหยื่อหลากหลายวิธี ทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ แต่ถึงแม้กระนั้นยังมีผู้ตกเป็นเหยื่อยอดพุ่งรายวัน
องค์ประกอบอาชญากรรมออนไลน์เกิดขึ้นจากทั้งตัวผู้เสียหายเอง ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง รายได้ไม่พอรายจ่าย จึงอยากมีรายได้เสริม ยอมควักเงินไปลงทุน ทำทุกอย่างที่เป็นรายได้ หรืออีกกลุ่มที่เกิดจาก ความโลภ อยากรวยเร็ว รวยทางลัด ไม่ศึกษาข้อมูลการลงทุนให้ละเอียดถ่องแท้ นึกถึงแต่ผลกำไรทำให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในกลอุบาย เช่นเดียวกันกับแก๊งมิจฉาชีพที่จ้องจะกอบโกย สร้างอุบายรายได้ผลตอบแทนที่สูงลิ่วสนองกิเลสตัณหา จนหลวมตัวเข้าไปอยู่ในวงจร
การลงทุนยุคโซเชียล หลายคดีที่กำลังเกิดขึ้น ณ ขณะนี้ สะท้อนปัญหาภาพรวมหลายอย่างทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมอ่อนแอ การเมือง เจ้าหน้าที่รัฐทุจริตคอร์รัปชัน อย่างคดี “ดิไอคอน” สารตั้งต้นที่ต้องนำมาถอดบทเรียนเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน คดีนี้เริ่มนับหนึ่ง “คดีฉ้อโกง” ปัจจุบันมีผู้ตกเป็นเหยื่อจะทะลุหมื่นคน ความเสียหายเกือบ 3 พันล้านบาท ซึ่งก็เหมือนคดีทั่วไปที่บริษัทสร้างความน่าเชื่อถือโดยการนำดารา ศิลปิน ที่มีชื่อเสียงมาสร้างแบรนด์ให้กับสินค้าตัวเอง
สุดท้ายชักชวนร่วมลงทุนเสนอค่าตอบแทนสูงลิ่ว ความอยากมีอยากได้ของคนก็คล้อยตามถลำลึก ยอมควักเงินลงทุนจากหลักพัน หลักหมื่น หลักแสนสู่หลักล้าน สุดท้ายสูญเงินกลายเป็นปัญหาครอบครัว ปัญหาสังคมตามมา
คดีดิไอคอน ยังสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น แรกๆ มีผู้เสียหายเพียงไม่กี่คนที่ออกมาต่อสู้คดีด้วยตนเอง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว แต่ปรากฏว่าเรื่องเงียบหาย เจ้าหน้าที่ไม่ค่อยให้ความสนใจ สำนวนคดีแทบไม่คืบหน้า ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงคือ สคบ. พบว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนกับ บ.ดิไอคอน ไปไม่ใช่น้อยเคส แต่ก็ถูกเก็บเข้าใต้ลิ้นชัก เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วประชาชนจะพึ่งใครได้
เจ้าหน้าที่รัฐพึ่งไม่ได้ หน้าสื่อออนไลน์ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ จึงเห็น “ทนาย” หรือหน่วยงานองค์กรมูลนิธิต่างๆ พาผู้เสียหายเข้าร้องขอความเป็นธรรม ใช้สื่อกระตุ้นตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งก็ได้ผล เมื่อถูกพาดพิงก็เต้นผางกุลีกุจออำนวยความสะดวกเหมือนแบบขอไปที แต่นั่นก็เป็นการเปิดหลุมให้พวก “ทนายหิวแสง” เรียกรับผลประโยชน์จากผู้เสียหายอีกทาง ผู้เสียหายโดนทั้งขึ้นทั้งร่อง เพราะอยู่ในสภาวะจำยอม
คดีนี้ตีแผ่สังคม ถลกหนังทนายหิวแสง-เจ้าของมูลนิธิ นักร้อง จนกลายเป็นผู้ต้องหาไปด้วย "นางฟ้า-เทวดา" ตกสวรรค์ อย่างนักร้องหญิง น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ เจ๊พัช ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ที่ตอนแรกอ้างตัวเป็นหนึ่งในผู้เสียหายและอาสาช่วยเหยื่อ แต่กลายเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหา “กรรโชกทรัพย์ และตัวกลางเรียกรับสินบน” จาก “บอสพอล” นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล มีหลักฐานเป็นเส้นเงินโอนเข้าบัญชีของมูลนิธิต่อต้านโกง-แชร์ลูกโซ่ “กฤษอนงค์ต้านโกง”
ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันลุกลามถึงฟากฝั่งการเมือง เอื้อประโยชน์ดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ บุกจับ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตคนใกล้ชิดนักการเมืองพรรคดังและแม่ ข้อหา “ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน” หลังมีคลิปเสียงสนทนากับผู้บริหาร บ.ดิไอคอนกรุ๊ป ต่อรองเงินเพื่อแลกกับการเคลียร์ปัญหา หลักฐานน็อกเอาต์เส้นเงินกว่า 100 ล้าน ไหลเข้าบัญชีของแม่นายสามารถ พรรคการเมืองดังต้องออกมาปัดพัลวันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรค โดยนายสามารถได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว
การดำเนินธุรกิจ บ.ดิไอคอน มูลค่านับหมื่นล้าน กรมสอบสวนคดีพิเศษชี้เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ แล้วตลอดหลายปีที่ผ่านมามีการร้องเรียนหน่วยงานรัฐ ทำไมเรื่องเงียบหาย ถ้าไม่มีแบล็กเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กจะสามารถทำธุรกิจได้หรือไม่ คดีนี้จะตัดจบแค่นายสามารถหรือไม่ หนึ่งในการตอบคำถามผู้สื่อข่าวระหว่างนำตัวส่งศาลโดยอ้างว่า “อยากพูด แต่พูดไม่ได้” อะไรหรือใคร ที่นายสามารถอ้างพูดไม่ได้ เชื่อว่า นายสามารถเป็นแค่หมากตัวหนึ่งในกระดานเท่านั้น
เช่นเดียวกันกับคดี “หมอบุญ” นพ.บุญ วนาสิน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลอกร่วมลงทุนโปรเจกต์เกี่ยวกับธุรกิจการแพทย์ มูลค่าความเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท พฤติการณ์พื้นฐานอาชญากรรมทั่วไป สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองเผยแพร่ทางโซเชียล โดยมีกลุ่มนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรวงการแพทย์หลายร้อยคนเข้าร่วมลงทุน ด้วยความน่าเชื่อถือของสังคมเหยื่อตกหลุมพราง สุดท้ายไม่มีอยู่จริง บางรายสูญเงินไปเกือบ 100 ล้าน หลายรายเงินเก็บมาทั้งชีวิตหายวับไปกับตา คนร้ายเชิดเงินหลบหนีออกนอกประเทศ กลายเป็นมหากาพย์คดีออนไลน์
กลโกงมิจฉาชีพปรับเปลี่ยนทุกวัน โจรย่อมเหนือกว่าเจ้าหน้าที่ครึ่งก้าว แต่ครึ่งก้าวนั้นสามารถป้องกันได้จากหนักให้เป็นเบา บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น นอกจากเร่งปราบปรามมิจฉาชีพทุกกลโกงไม่ให้แฝงเข้ามาก่อเหตุได้ ต้องสกัดเหลือบไรที่มาในคราบนักบุญหากินบนหลังคนที่ได้รับความทุกข์ร้อน ต้องแยกปลาออกจากน้ำให้เร็วที่สุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นโยบายที่“อิ๊งค์”ไม่กล้าพูด เรื่องสำคัญกว่าผลงาน90วัน
บรรดากองเชียร์รัฐบาลเพื่อไทยอาจจะชื่นชม หลัง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เล่นใหญ่ เปิดสตูดิโอ 4 ของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ยืนเดี่ยวไมโครโฟน
แถลงผลงาน3เดือน‘รัฐบาลอิ๊งค์’ โชว์อนาคตประเทศ รอดหรือร่วง?
ได้เวลาตีปี๊บผลงานรัฐบาล 90 วันของ “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วันนี้ 12 ธันวาคม 2567 ในหัวข้อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” (2025 Empowering Thais : A Real Possibility) ซึ่งจัดเป็นครั้งแรกของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) พร้อมถ่ายทอดสดให้คนไทยได้รับชม
กม.สกัดรัฐประหาร‘ส่อแท้ง’ พรรคร่วมไม่อิน-ไม่เอา
ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ฉบับ ‘หัวเขียง’ ที่นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยเสนอ ส่อแวว ‘แท้ง’ ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้น
จับ“ไทย”ชน“เมียนมา” เด้งเชือกรับมือเกมมหาอำนาจ
หลังจากที่กองกำลัง “ว้าแดง” ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงข่าวลือความตึงเครียดระหว่างทหารไทยกับว้าแดงบริเวณชายแดน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้ “ข่าวลือ” ดังกล่าวเริ่มเบาเสียงลง
พท.ยึดอำนาจกองทัพ สกัดลากรถถังตรึงทำเนียบฯ
เรียกเสียงครางฮือไปทั่วแวดวงทหารและแวดวงการเมือง กับการขยับของ สส.เพื่อไทย ที่เข้าชื่อกันเสนอร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม เข้าสภาฯ ที่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นประชาชนผ่านเว็บไซต์ของสภาฯ
เพื่อไทยแจกเงินรัฐถังแตก? แผนสะดุดอดปล้นแวต15%
แม้รัฐบาลเพื่อไทยจะมั่นอกมั่นใจว่าจะอยู่ครบวาระหลังมีภูมิคุ้มกันด้วยพลังแฝง จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องคดี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครอบงำรัฐบาล