ผบ.ทสส.-ทภ.1 คนใหม่ ย้ำภารกิจเทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ดูแลประชาชน

ผบ.ทสส.-ทภ.1 คนใหม่ย้ำภารกิจเทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ดูแลประชาชน /ทอ. จัดเต็มสวนสนามยานยนต์-เครื่องบินรบ “บิ๊กไก่” นำพัฒนา ทอ.แข็งแกร่ง พร้อมปกป้องอธิปไตย ด้าน “บิ๊กจอร์จ”ส่งไม้ต่อมั่นใจ”บิ๊กดุง”พากองทัพเรือก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม ภายใต้งบฯ ที่จำกัด มทภ.3 ร่วมมือดูแล ภาคเหนือสงบสุข- สามัคคี

29 ก.ย.2566 - มีการส่งมอบหน้าที่ผู้นำกองทัพหลายหน่วย เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 8.00 น.ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถ.แจ้งวัฒนะพล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ได้ส่งมอบหน้าที่ ให้ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี โดย พล.อ.เฉลิมพล ได้กล่าวขอบคุณกำลังพล และแสดงความเชื่อมั่นว่าผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนใหม่ จะสามารถปฏิบัติราชการได้อย่างดี นำพากองทัพไทยเป็นหน่วยงานหลักด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคง ขณะที่ พล.อ.ทรงวิทย์ ให้คำมั่นว่าในการปฏิบัติหน้าที่จะร่วมกับกำลังพลทุกนาย ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และช่วยเหลือประชาชนในทุกโอกาส ตลอดจน ดูแลความเป็นอยู่ของกำลังพลและครอบครัว ตลอดจนสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท และเสียสละ

เวลา 10.00 น.ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ว่าที่เสนาธิการทหารบก ส่งมอบหน้าที่ให้ พล.ท.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ โดยพล.อ.พนา กล่าวว่า ตลอดระยะ เวลา 1 ปี ที่ปฏิบัติหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 1 ได้รับความร่วมมือร่วมใจเป็นอย่างดีจากผู้ใต้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงานทุกคน ส่งผลให้ภารกิจต่างๆ ของกองทัพภาคที่ 1 ที่ได้รับมอบจากผู้บังคับบัญชา สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เป็นที่เชื่อมั่นและเป็นที่ยอมรับของประชาชนขณะที่ พล.ท.ชิษณุพงศ์ กล่าวว่า จะสืบสานงานตามปณิธาน พิทักษ์ราชันย์ ปกป้องประชา รักษาแผ่นดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงการดูแลประชาชน ตลอดจนการดูแลสวัสดิการให้กับกำลังพลทุกระดับชั้น ซึ่งถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องสืบสานแนวทาง และมาตรฐานในการปฏิบัติงาน ดังที่ท่านอดีตแม่ทัพภาคที่ 1 ได้วางรากฐานไว้ต่อไปให้ดียิ่งขึ้น โดยมีกำลังพลในกองทัพภาคที่ 1 ร่วมปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ และขอสัญญาว่า จะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ และยุติธรรม

ขณะที่ กองทัพอากาศ พล.อ.อ. อลงกรณ์ วัณณรถ ส่งมอบหน้าที่ให้ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล เข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่ลานอเนกประสงค์ อุทยานการบินกองทัพอากาศ และได้จัดพิธีสวนสนามเพื่อเป็นการเทิดเกียรติ 4 กองพันและจัดขบวนยานยนต์สวนสนาม 29 คัน เช่นรถชุดปฏิบัติการ จากกรมทหารอากาศโยธิน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ‘รถโจมตี (รถบันได) จากกรมปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน,รถยิงจรวดต่อสู้อากาศยาน จากกรมต่อสู้อากาศยาน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน,รถเกราะ V-150 จากกรมปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน,รถเกราะ Condorจากกรมปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน

ส่วนการสวนสนามทางอากาศ ห้วงที่1 ประกอบด้วย หมู่บิน FINALE FLYING ซึ่งประกอบกำลังของอากาศยาน 10 เครื่อง ได้แก่ เครื่องบินฝึกแบบที่ 2 (T-50) 3 เครื่อง จากฝูงบิน 401 กองบิน 4 ,เครื่องบินขับไล่แบบที่ 19 ก (F-16) 3 เครื่อง จากฝูงบิน 403 กองบิน 4
- เครื่องบินขับไล่แบบที่ 20 ก (Gripen 39D) จำนวน 4 เครื่อง จากฝูงบิน 701 กองบิน 7และห้วงเวลาที่ 2 ประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่แบบที่ 20 ก (Gripen 39D) จำนวน 1 เครื่อง จากฝูงบิน 701 กองบิน 7

พล.อ.อ. อลงกรณ์ กล่าวว่า พล.อ.อ. พันธ์ภักดี เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถสูง มีอัธยาศัยและจิตใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่นด้วยความเมตตา เชื่อมั่นว่าจะนำพากองทัพอากาศให้เจริญก้าวหน้าอย่างเข้มแข็ง ข้าราชการ มีความสุข แลประชาชนมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในกองทัพอากาศของเราอย่างดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

ขณะที่่พล.อ.อ. พันธ์ภักดี กล่าวว่า ขอให้คำมั่นสัญญาว่า จะนำพากองทัพอากาศ ร่วมกับพวกเราชาวกองทัพอากาศทุกคนสืบทอดเจตนารมณ์ของท่าน จะพัฒนากองทัพอากาศ ให้เป็นกองทัพอากาศที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ ดำรงอยู่อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความเจริญก้าวหน้า เพื่อปกป้องเอกราช อธิปไตย และราชบัลลังก์ ให้มีความมั่นคงยั่งยืนสืบไป

ที่กองทัพเรือ(วังเดิม)เวลา 13.00 น. พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ส่งมอบหน้าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้แก่ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม โดยพล.ร.อ. เชิงชาย กล่าวว่า ขอขอบคุณเพื่อนข้าราชการ ทหาร พนักงานราชการ และลูกจ้างทุกคน ทุกหน่วย ที่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง ในการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทางที่ตนได้ตั้งปณิธานไว้

แม้งบประมาณจะถูกปรับลดลงไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจและสังคมโลกแต่กองทัพเรือยังปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ขอบคุณ กำลังพลและข้าราชการทุกท่านการปฏิบัติเหล่านี้ล้วนเป็นผลให้กองทัพเรือดำรงอยู่ได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ได้รับการยกย่องดังเช่นที่บรรพบุรุษทหารเรือได้สร้างไว้ในอดีต และเป็นกองทัพที่มีคุณค่ายิ่งสำหรับประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง

ผู้บัญชาการทหารเรือท่านใหม่ เป็นนายทหารเรือที่มีความรู้ ความสามารถ มีความซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติหน้าที่เพื่อกองทัพเรือด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจมาโดยตลอด จึงมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านจะสามารถนำกองทัพเรือก้าวไปข้างหน้า ได้อย่างสง่างามเต็มภาคภูมิสืบต่อไป

กองทัพภาคที่3 ที่สนามกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ด้กระทำพิธีรับ-ส่งหน้าที่และมอบการบังคับบัญชาแม่ทัพภาคที่ 3 ระหว่าง พล.ท.สุริยะ เอี่ยมสุโร แม่ทัพภาคที่ 3 และ พล.ต.ประสาน แสงศิริรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3

พล.ต. ประสาน กล่าวว่า ขอยืนยันเจตนารมณ์อย่างแน่วแน่ว่า จะทุ่มเทในการปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของกองทัพภาคที่ 3 ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ถูกต้อง ชอบธรรม บนพื้นฐานแห่งคุณธรรมและจริยธรรม ทั้งจะปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเป็นธรรม ตลอดจนร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการปฏิบัติงาน เพื่อสร้างสรรค์ความมั่นคง ความสงบสุข และความรักความสามัคคี ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา กำชับให้รอบคอบ ไม่ประมาท อย่ายุ่งเกี่ยวผลประโยชน์ในพื้นที่

พลเอกเจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เดินทางไปติดตามสถานการณ์ชายแดนไทยและเมียนมา ในพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร โดยคณะได้รับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติภารกิจของหน่วย

งบ68 ทร.ซื้อเครื่องบินลำเลียง  ‘เรือดำน้ำ-ฟริเกต’ ไปถึงไหน?

คงต้องติดตามดูต่อไปว่า “สุทิน” จะได้รับการอนุมัติให้นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหมต่อเพื่อผลักดันโครงการ และปัญหาที่ยังไม่ลุล่วงเหล่านี้หรือไม่

‘วิโรจน์’ หนุน ‘สุทิน’ แก้กฎหมายกลาโหม สกัดรัฐประหาร ลั่นต้องทำให้ถึงแก่น

‘วิโรจน์’ เห็นด้วยในหลักการ หลัง ‘สุทิน‘ เสนอแก้ ’กฎหมายกลาโหม‘ สกัดรัฐประหาร แต่ต้องแก้ให้ถึงแก่น ไม่ใช่แค่ผิว ชี้ เป้าหมายสูงสุด คือทำให้กองทัพไม่อยู่ในฐานะรัฐอิสระ แนะ ควรปรับสัดส่วน ‘สภากลาโหม’ ให้เหลือแค่ 11 คน-มีทหารไม่เกินกึ่งหนึ่ง

‘เศรษฐา’ ลงพื้นที่ชายแดนแม่สอด 23 เม.ย. เกาะติดสถานการณ์สู้รบในเมียนมา

‘สุทิน’ เผยสถานการณ์สู้รบเมียนมาเข้มข้นขึ้น คนหนีภัยมาไทย ยอมรับกระทบเราแต่ไม่มีอะไรน่าวิตก ขอสบายใจกองทัพปกป้องอธิไตย-ดูแลประชาชนเต็มที่