ศาลปกครองเชียงใหม่ ยกคำขอทุเลาเกี่ยวกับวิธีการเสนอชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี มช.

7 ม.ค.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 ศาลปกครองเชียงใหม่มีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามกฎ ในคดีหมายเลขดำที่ 469/2564 ระหว่าง นายสมชาย ปรีชาศิลปกุล กับพวกรวม 13 คน ผู้ฟ้องคดี กับสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กับพวกรวม 2 คน ผู้ถูกฟ้องคดี

คดีนี้ผู้ฟ้องคดีทั้งสิบสามเป็นผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ฟ้องว่า การที่สภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) ออกข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยการสรรหาธิการบดี (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2564 ข้อ 5 วรรคสาม มีสาระสำคัญว่า “ในการเสนอรายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีทุกขั้นตอนให้ใช้วิธีปรึกษาหารือ และ มิให้ดำเนินการโดยวิธีเลือกตั้งหรือหยั่งเสียง หากปรากฏหลักฐานว่าผู้สมัครหรือผู้ถูกเสนอชื่อรายใดยอมรับวิธีการดังกล่าวให้คณะกรรมการตัดชื่อออกจากกระบวนการสรรหา และถ้ามีผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยสนับสนุนก็ให้ถือว่ามีความผิดทางวินัย” เป็นการตราข้อบังคับที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและเป็นการกระทำที่ไม่สุจริตทำให้ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนข้อบังคับดังกล่าว และขอให้ทุเลาการบังคับตามข้อบังคับนี้ มิให้นำมาใช้บังคับกับการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ซึ่งศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดี ทั้งสองชี้แจงข้อเท็จจริง ในกรณีดังกล่าว

ศาลปกครองเชียงใหม่วินิจฉัยว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 อาศัยอำนาจตามมาตรา 25 วรรคหนึ่ง (3) และมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ.2551 ออกข้อบังคับดังกล่าวในชั้นนี้ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่ากระบวนการในการออกข้อบังคับไม่เป็นไปตามรูปแบบขั้นตอนหรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กำหนด ส่วนปัญหาว่าข้อบังคับดังกล่าวมีเนื้อหาที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นประเด็นในเนื้อหาแห่งคดีที่ศาลต้องแสวงหาข้อเท็จจริงต่อไป จึงเห็นว่าข้อบังคับดังกล่าวไม่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการให้ข้อบังคับนี้มีผลใช้บังคับในระหว่างการพิจารณาคดี ไม่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง เพราะหากต่อมาศาลวินิจฉัยว่าเป็นกฎที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลย่อมจะพิพากษาให้เพิกถอนกฎดังกล่าวได้ ประกอบกับการที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามข้อบังคับดังกล่าวย่อมจะส่งผลทำให้กระบวนการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัย เชียงใหม่ที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้ ต้องล่าช้าออกไปและจะเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐ ตามมาตรา 66 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองฯ พ.ศ. 2542 และข้อ 72 วรรคสาม แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ฯ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 กรณียังไม่มีเหตุอันสมควรที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามข้อ 5 วรรคสาม ของข้อบังคับดังกล่าว ศาลปกครองเชียงใหม่จึงมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามกฎของผู้ฟ้องคดีทั้งสิบสาม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พลิกชีวิตชุมชนเชียงใหม่! พอช.-มช. ผนึกกำลังขับเคลื่อน ศูนย์เด็กเล็ก-คลองแม่ข่า สู่อนาคตที่เข้มแข็ง

เชียงใหม่ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) จัดประชุมหารือแนวทางสร้างความร่วมมือกันในขับเคลื่อน การพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็ง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กและพื้นที่ริมคลองแม่ข่า เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่

ชาวพะเยา เฮ! ศาลปกครองฯพิพากษาให้ชนะคดี โรงงานปล่อยน้ำเสียลง 'ลำน้ำแวน'

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ตามที่ชาวบ้าน ม.5 และ ม.11 ต.เชียงบาน อ.เชียงคำ จ.พะเยา 200 คนได้มอบอำนาจให้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนยื่นฟ้องอุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา

แพทย์ มช. ตอกย้ำความเป็นเลิศ คว้ารางวัล Thailand Quality Class Plus : Customer ยกระดับมาตรฐานองค์กรทัดเทียมระดับสากล

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศที่มีความโดดเด่น ด้านลูกค้า (Thailand Quality Class Plus : Customer) จากเวทีรางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality

นีโอ จับมือ ม.เชียงใหม่ ยกระดับโปรดักซ์ FMCG เสิร์ฟกลุ่ม Young Old – Gen Beta ตอกย้ำบทบาท “Segment Creator” ผู้บุกเบิกนวัตกรรมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO โดย ‘บริษัท นีโอ แฟคทอรี่ จำกัด’ จับมือมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสินค้ากลุ่ม FMCG รองรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความต้องการเฉพาะ “Young Old (Yold) และ Gen Beta (เด็กเล็ก)”

มช. นำ Big Data พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ร่วมบูรณาการ ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ภายใต้ โครงการศึกษาและพัฒนาแนวทางการเก็บข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคพลังงานในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการของประเทศไทย

ชาวเชียงใหม่อุ่นใจ สสส.-มช. เดินหน้าโครงการ "Chiang Mai Greentopia" ช่วยลดสารเคมีตกค้างในเลือดได้สูง ภายใน 2 ปี ลดเหลือ 66% จาก 90%

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ม.ค. 2568 ที่สวนผักฮักร้องขุ้ม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ตัวแทนเกษตรกร ภาคีเครือข่าย และสื่อมวลชน ติดตามการดำเนินงานโครงการ Chiang Mai Greentopia : ต้นแบบการสร้างความมั่นคงทางอาหาร