ไม่คิดไกลคุมพปชร. 2ป.สยบข่าวเสี้ยม/กลุ่ม16กลับลำถอนตัวซักฟอกรัฐบาล

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 7 มิถุนายน 2565

“ประยุทธ์” บอกเพิ่งรู้ข่าวจะไปนั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ    ลั่นไม่คิดไกลขนาดนั้น ตอนนี้แค่ประคองรัฐบาลให้ครบวาระ “ประวิตร” โต้ข่าวปล่อย ไม่มีทางเสี้ยมให้แตกกัน บอกอยู่กันมาตั้งแต่ "บิ๊กตู่" เป็นร้อยตรี เพื่อไทยได้ทียกมือหนุน พูดเต็มปากว่าจะได้เลิกเป็นอีแอบ! ยัน 8 มิ.ย.สรุปชื่อรัฐมนตรีถูกกฐินไม่ไว้วางใจ ยื่น 15 มิ.ย.ตามเดิม “รัฐบาล” พร้อมแจงทุกข้อหา หวังใช้เป็นเวทีทำความเข้าใจประชาชน

เมื่อวันอังคารที่ 7 มิถุนายน มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่น่าสนใจ เมื่อเกิดกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมไปนั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เพิ่งได้ยินข่าวเมื่อเช้า และไม่รู้ว่าได้แหล่งข่าวมาจากไหน ยังไม่ได้มีอะไรทั้งสิ้น ยังทำงานอยู่เหมือนเดิม ซึ่งทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี ฉะนั้นคงต้องตอบได้แค่นี้ ก็ไม่รู้ข่าวนี้มาจากไหน ไม่ทราบเลย ตัวตนเองก็ยังไม่ทราบ

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ให้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ว่าจะตัดสินใจไปต่อหรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ในใจมีคำตอบหรือยังว่าจะไปต่อหรือไม่ในทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า  “ผมยังไม่คิดไปไกลขนาดนั้น ผมคิดว่าทำอย่างไรจะประคับประคองรัฐบาลนี้ไปให้ครบวาระ เรื่องวันหน้าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนนะจ๊ะ”

ถามต่อว่า จากการโหวตรับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีวาระแรก ที่ดูเหมือนเสถียรภาพรัฐบาลเหนียวแน่น นายกฯ กล่าวว่า โอเคนะ ยังไม่เห็นมีปัญหาอะไร จากการอภิปรายในสภา ทุกคนก็ช่วยกันดีในเรื่องงบประมาณ ซึ่งทำให้มติเห็นชอบมากกว่าตามระบบสภาอยู่แล้ว เมื่อเห็นชอบมากกว่าก็ดำเนินการต่อไป ช่วงนี้เป็นช่วงของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่จะพิจารณาในรายละเอียด

เมื่อถามย้ำว่า จุดยืนอนาคตการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ที่อะไร พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถาม เพียงหยุดฟังและเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ทั้งนี้ระหว่างให้สัมภาษณ์ประเด็นทางการเมือง เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ตอบคำถามด้วยอารมณ์และน้ำเสียงปกติ ไม่มีอารมณ์หงุดหงิดเหมือนหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา

ขณะที่ พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า ไปถามคนปล่อยข่าวสิ ไปถามคนที่ปล่อย

ย้ำถามว่า ในอนาคตมีความเป็นไปได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่รู้ๆ และเมื่อถามอีกว่าหากในอนาคต พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ จำเป็นต้องเป็นสมาชิกพรรค พปชร.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ๆ และเมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรจะเป็นหัวหน้าพรรคไปตลอดหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้พล.อ.ประวิตรเคยบอกว่าจะเป็นร่มโพธิ์ ร่มไทรให้พรรคไปตลอด พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถามดังกล่าว

บิ๊กป้อมบอกเรื่องอีกนาน

  ต่อมา พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์อีกครั้ง โดยยังคงไม่ตอบกรณี พล.อ.ประยุทธ์จะเข้าไปคุมพรรค พปชร.ด้วยตัวเอง และเมื่อถามย้ำว่า ต้องดูก่อนว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไปต่อใช่หรือไม่ หรือต้องดูใกล้ๆ ก่อน พล.อ.ประวิตรตอบว่า ยังอีกนาน ยังเหลือเวลาอีกนาน

ในช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตรกล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการเข้าประชุมพรรค พปชร.ว่า ไม่ไป และปฏิเสธตอบคำถามถึงการพูดคุยกับนายกฯ ในกระแสข่าวว่าจะสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร.อีกครั้ง

ต่อมาเวลา 16.30 น. มีแกนนำพรรค พปชร. ระดับรัฐมนตรี กรรมการบริหารพรรคบางส่วน ได้ไปที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เพื่อร่วมวอร์รูมกับ พล.อ.ประวิตร โดยใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง และแยกย้ายกันไปในเวลาประมาณ 18.00 น. โดยวอร์รูมดังกล่าวได้หารือกันหลายเรื่อง ทั้งการเตรียมการเลือกตั้งและตัวผู้สมัคร ส.ส.ในแต่ละภาค แต่ละเขต โดยได้มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบให้กับแกนนำพรรคกำกับดูแลแต่ละภาค ซึ่งให้แต่ละพื้นที่อบรมผู้สมัคร ส.ส. เตรียมการกระบวนการหาเสียง นโยบาย และให้แต่ละเขตตั้งวอร์รูม และมีวอร์รูมใหญ่ที่พรรค มี พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรค นอกจากนี้ ให้มีการปรับปรุงโซเชียลมีเดียครั้งใหญ่ของพรรค รวมถึงให้แต่ละพื้นที่ไปเตรียมเรื่องใช้โซเชียลมีเดียในการหาเสียง ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรย้ำว่า ให้ทุกคนดำเนินการตามแผนให้ชัดเจน และรายงานให้ทราบเป็นระยะ ซึ่งจะมีการประชุมติดตามทุก 2 สัปดาห์

 อย่างไรก็ตาม มีช่วงหนึ่ง พล.อ.ประวิตรได้พูดในวอร์รูมถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคและเป็นหัวหน้าพรรคว่า คุยกับพล.อ.ประยุทธ์ทุกวัน ไม่ได้มีอะไร และไม่ได้คุยกันว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมาเป็นหัวหน้าพรรค

"อยู่ด้วยกัน รักกัน ไม่ได้มีอะไร มาเสี้ยมให้แตกทำไม ไม่มีทางเสี้ยมให้แตกกันได้ เพราะผมอยู่ด้วยกันมานานตั้งแต่นายกฯ เป็นร้อยตรี" แหล่งข่าวอ้างคำพูด พล.อ.ประวิตร

นอกจากนี้ แกนนำพรรคบางส่วนยังพูดถึงต้นตอของข่าวดังกล่าวว่า เป็นการปล่อยข่าวจากสมาชิกพรรคคนหนึ่ง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของพรรค ทำให้เกิดภาพความขัดแย้งระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์กับ พล.อ.ประวิตร

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวเช่นกันว่า ไม่ทราบจริงๆ เท่าที่อยู่ในพรรค พปชร. ยังไม่เคยมีการพูดคุยหรือได้ข่าวในเรื่องดังกล่าว น่าจะไปสอบถามแหล่งข่าวหรือนักข่าวที่เสนอข่าวนี้ออกมาเป็นคนแรกว่าไปเอาข่าวมาจากไหน ยืนยันว่าภายในพรรคไม่มีเรื่องนี้และไม่เคยได้ยิน

เมื่อถามว่า เป็นการปล่อยข่าวเสี้ยมให้ พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตรแตกกันหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า แล้วแต่จะคิด แต่ในหลักการ หากในพรรคจะปรับเปลี่ยนอะไรต้องพูดคุยกัน แต่วันนี้ยังไม่มีเรื่องดังกล่าว อีกทั้งบรรยากาศภายในพรรคยังเป็นไปได้ดี ยังทำงานได้ราบรื่นอยู่ เห็นได้จากการลงมติในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2566 ก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ได้มีปัญหาอะไร แสดงให้เห็นว่าการทำงานของ ครม.และพรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นไปด้วยดีอยู่ ไม่มีความขัดแย้ง ขอร้องอย่าไปคิดมาก

ถามว่า หากอนาคต พล.อ.ประยุทธ์ไปเป็นหัวหน้าพรรค พปชร.จริง ถือว่าดีหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ขอตอบดีกว่า เอาไว้ให้ถึงเวลา ยืนยันว่ายังไม่ได้ยินเรื่องนี้ อย่าไปให้ประเด็นกับตรงนี้มาก เราต้องดูจากข่าว แหล่งข่าว และข้อเท็จจริงด้วยว่าเป็นอย่างไร อยากให้ไปดูต้นข่าวว่ามาจากที่ไหน”

ส่วนนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวเพียงสั้นๆ ถึงเรื่องนี้ว่า ไม่ได้ยินๆ พร้อมทั้งโบกมือและเอามือปิดหู ก่อนกล่าวอีกว่า ไม่รู้เรื่อง

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พปชร. ระบุว่า น่าจะเป็นการปล่อยข่าว มีคนปล่อยข่าวออกมา เพราะนายกฯ เองไม่ได้แสดงเจตจำนงอะไร และ พล.อ.ประวิตรซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ก็ไม่ได้บอกว่าจะลาออก แสดงว่าน่าจะมีการปล่อยข่าวออกมา แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนปล่อย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าข่าวที่ออกมาเป็นการเสี้ยมหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เป็นไปได้ทั้งนั้น มีทั้งเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ ข่าวอย่างนี้ก็มีมาอยู่ตลอดเวลา

เมื่อถามว่า ดูท่าทีนายกฯ อยากมาเป็นหัวหน้าพรรค พปชร.หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ดูเหมือนไม่มี เมื่อถามย้ำว่า คนในพรรคอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตอบแทนไม่ได้ ยังไม่รู้เลย และไม่เห็นหรือได้ยินอะไรจาก พล.อ.ประวิตรกับเรื่องนี้ ส่วนเรื่องแคนดิเดตนายกฯ ควรเป็นคนในพรรคหรือไม่นั้นก็ไม่ทราบ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่กว่าที่จะไปคิดหรือพิจารณา หรือออกความเห็นได้ เป็นเรื่องใหญ่มาก

พปชร.ยันข่าวโคมลอย

ถามว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร.บอกว่าจะสอบจริยธรรมคนที่ออกมาปล่อยข่าว ซึ่งเป็นคนที่เคยอยู่กับพรรคมาก่อน นายสมศักดิ์ย้อนว่า อย่างนั้นเหรอ เพิ่งรู้

เมื่อถามว่า หลายคนมองว่าข่าวที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร.อีกครั้ง เป็นการปูทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ หลังจากพรรครวมไทยสร้างชาติแท้งไปแล้ว นายสมศักดิ์กล่าวว่า เพิ่งคิดนี่แหละ ก็น่าคิด

ในขณะที่นายไพบูลย์ยืนยันว่า เป็นข่าวโคมลอย บิดเบือน มุ่งหวังปลุกปั่นให้เกิดความปั่นป่วน ไม่มีความจริงแต่อย่างใด เพราะ พล.อ.ประวิตรได้กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่าจะดูแลเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับพรรคตลอดไป ซึ่งสร้างความมั่นใจ เชื่อมั่น และความสบายใจให้กับ กก.บห.และ ส.ส.ทุกคนเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นในฐานะประธานคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับของพรรคจะตรวจสอบว่าเป็นสมาชิกพรรคผู้ใดที่ไปปล่อยข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายกับพรรค โดยการตรวจสอบในเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นสมาชิกพรรคที่เพิ่งเข้ามาสมัครใหม่หลังจากในอดีตเคยลาออกไปแล้วจะไปจัดตั้งพรรคขึ้นใหม่ ซึ่งในช่วงนั้นก็ไปปล่อยข่าวในลักษณะนี้ เพื่อทำให้เกิดความเสียหายกับพรรคเพื่อประโยชน์ของตนเองและพรรคพวก แต่เนื่องจากในขณะนั้นยังไม่เป็นสมาชิกพรรค จึงยังไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับของพรรคที่จะทำการตรวจสอบ แต่เมื่อปัจจุบันบุคคลดังกล่าวได้ขอเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคอีกครั้งหนึ่ง แต่ยังมีพฤติกรรมเดิม คอยปล่อยข่าวในลักษณะเป็นปฏิปักษ์กับพรรค บิดเบือน มุ่งหวังปลุกปั่นให้เกิดความปั่นป่วน เพื่อให้พรรคขาดเสถียรภาพ สร้างความสับสนให้กับสังคม เสียหายต่อภาพลักษณ์ความเป็นเอกภาพของพรรค จึงต้องตรวจสอบการกระทำของบุคคลดังกล่าวว่าในฐานะสมาชิกพรรคได้มีการกระทำที่ฝ่าฝืนหน้าที่และความรับผิดชอบต่อพรรค หรือฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมของพรรคประการใดบ้าง และจะดำเนินการอื่นกับสมาชิกผู้นั้นตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ต่อไป

ต่อมานายไพบูลย์เผยว่า นายเสกสกลได้มายื่นใบสมัครสมาชิกพรรคแบบตลอดชีพ พร้อมจ่ายค่าสมัคร 2,000 บาทอีกครั้งจริงตามกระแสข่าว และได้เข้าสู่ระบบทะเบียนพรรคแล้ว ดังนั้นถือเป็นสมาชิกพรรคแล้ว ส่วนกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคนั้น ไม่เป็นความจริง และไม่มีการพูดคุยกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า พล.อ.ประยุทธ์ควรมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า จะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือเป็นสมาชิกพรรคด้วยก็เป็นประโยชน์ และข่าวที่ระบุว่าจะมาเป็นหัวหน้าพรรคนั้นเป็นไปไม่ได้ และไม่เหมาะสม ท่านเหมาะกับการเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค การเป็นหัวหน้าพรรคมีเพียง พล.อ.ประวิตรที่เหมาะสม คงไม่มีใครเหมาะสมเท่า พล.อ.ประวิตร

ส่วนนายเสกสกล กล่าวถึงข้อสังเกตกรณีที่นายไพบูลย์ระบุว่าผู้ปล่อยข่าวเป็นอดีตสมาชิกพรรคบางคนที่ลาออกไปตั้งพรรค แล้วกลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอีกครั้งว่า ขอให้ถามนายไพบูลย์ว่าหมายถึงใคร และเมื่อถามถึงความชัดเจนการสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร. นายเสกสกลระบุว่า ยังไม่ตอบ

พท.หนุนเลิกเป็นอีแอบ

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสข่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ว่า อยากให้เป็นอย่างนั้น อย่าเป็นอีแอบอยู่ข้างหลัง นักการเมืองในยุคปัจจุบันต้องโปร่งใส อย่าไปอยู่เบื้องหลัง ไม่เหนียมอายถ้าจะมาเล่นการเมือง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรพรรคก็พร้อมสู้เต็มที่

วันเดียวกัน ยังคงมีความเคลื่อนไหวในเรื่องการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ รัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของฝ่ายค้านตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งรัฐบาลพร้อมชี้แจงทุกประเด็น เพราะมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด และหากฝ่ายค้านมีหลักฐาน รัฐบาลก็พร้อมนำไปตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ยอมให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

"รัฐบาลจะใช้เวทีอภิปรายครั้งนี้เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน เพราะมีหลายเรื่องหลายประเด็นที่มีการนำไปบิดเบือนจนทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวหาว่ารัฐบาลล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน มีการทุจริตและหาผลประโยชน์เอื้อพวกพ้อง หรือรัฐบาลไม่ทำตามนโยบายที่แถลงไว้กับรัฐสภา ทั้งนี้ มั่นใจว่านายกฯ รวมทั้งรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายนั้นจะสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น ดังนั้นขอให้ฝ่ายค้านทำการบ้านให้ดี ให้สมราคาคุย ไม่เช่นนั้นประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย”นายธนกรกล่าว

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวเช่นกันว่า นายกฯ ไม่ได้มีความกังวลใจอะไร เชื่อมั่นรัฐมนตรีทุกท่านมีข้อมูลพร้อมชี้แจงอยู่แล้ว และอยากเห็น ส.ส.รุ่นใหม่มีบทบาทช่วยขยายความเผยแพร่การทำงานภาครัฐผ่านช่องทางที่หลากหลาย เพราะคนรุ่นใหม่สื่อสารกับคนรุ่นๆ เดียวกันอาจเข้าใจกันมากกว่า

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ กล่าวหลังประชุม ครม.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้พูดถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในที่ประชุม ส่วนบรรยากาศจะดุเดือดหรือไม่นั้น ไม่ทราบ แต่ก็ผ่านมาเยอะแล้ว ตั้งแต่ช่วงการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ส่วนที่เหลือก็คงเป็นเรื่องเฉพาะด้าน ซึ่งไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ไปต่อไม่ได้ จนถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องปกติที่เป็นไปตามวงจรเมื่อรัฐบาลบริหารมาได้ระยะหนึ่ง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเชื่อมโยงกับงบประมาณต่างๆ ลงในพื้นที่ ส.ส.ของพรรคจำนวนมากว่า รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็พร้อมที่จะตอบเพื่อความมั่นใจ เพื่อความภาคภูมิใจ ส่วนที่มีรายชื่อติดโผนั้น ก็ธรรมดา เพราะช่วงนี้เป็น สธ.ต้องทำให้เกิดสุขภาวะที่ดีก่อนที่จะทำให้เศรษฐกิจ สังคมและบ้านเมืองเปิดประเทศได้ด้วยความปลอดภัย ทำเยอะก็เรื่องเยอะ แต่ก็มั่นใจกับสิ่งที่ทำไป และเชื่อมั่นว่าตอบคำถามได้

เมื่อถามว่า เสียงของฝ่ายค้านที่อยู่ในมือ มั่นใจทำให้รัฐบาลผ่านศึกซักฟอกไปได้ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ในส่วนของพรรคมั่นใจ บอกตลอดรับผิดชอบคนอื่นไม่ได้ คุณพ่อสอนไว้อย่าไปรับประกันคนอื่น”

กลุ่ม 16 บอกไม่ร่วมซักฟอก

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง และเลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวถึงผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (อีอีซี) ว่า คณะกรรมการตรวจสอบฯ แล้วว่าโครงการมีความโปร่งใส วิธีการระเบียบกฎหมายทุกอย่างถูกต้อง แต่ที่ให้สอบเพิ่มเติมนั้น เป็นเรื่องที่คณะกรรมการฯ บอกเวลาตรวจสอบครั้งแรกกระชั้นชิดตรวจไม่ทัน รมว.การคลังจึงให้ไปดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบท่อการส่งน้ำและปริมาณความจุเพิ่มเติม เพื่อให้มีความชัดเจนเกี่ยวปริมาณน้ำมีความลักลั่นอะไรหรือไม่ เพื่อให้มีความมั่นใจ

“ฝ่ายค้านจะเอาเรื่องนี้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืนยันว่าถ้าเราทำถูกต้องตามกฎระเบียบกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของรัฐ ไม่กลัว” นายสันติกล่าว

นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. หัวหน้ากลุ่ม 16 ยืนยันว่า จะไม่ร่วมการอภิปรายกับพรรคฝ่ายค้าน เพราะเป็นสมาชิกของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งได้คุยกับนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรค พท. และนายประเสริฐแล้ว ว่าขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งให้ตรวจสอบแล้ว และยังไม่มีประเด็นเพิ่มเติม ทั้งนี้ทราบว่านายยุทธพงศ์จะเป็นหัวหน้าทีมอภิปราย และมีรัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายจะถูกอภิปราย คือนายอาคม เติมวิทยาไพสิฐ และนายสันติ ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่อภิปรายไม่ไว้วางใจหากไม่มีใครอภิปราย อาจขอร่วมอภิปรายด้วยก็ได้ แต่ขอพิจารณาอีกครั้ง

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค พท. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ในช่วงเช้าวันที่  8 มิ.ย. จะสรุปกันอีกครั้ง และแถลงให้สื่อมวลชนรับทราบ ขณะนี้มีบางพรรคการเมืองที่ฝ่ายค้านยังขอเวลาพิจารณาข้อมูลให้ละเอียดอีกครั้ง แต่เชื่อว่าน่าจะจบในวันที่ 8 มิ.ย. เบื้องต้นรัฐมนตรีที่จะยื่นซักฟอกมีจำนวนประมาณ 5-6 คน และจะไม่เปลี่ยนวันยื่นญัตติจาก 15 มิ.ย.นี้แน่นอน

สำหรับความคืบหน้าของการลงโทษ 7 ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่โหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณสวนมติพรรคนั้น นายประเสริฐกล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 13 มิ.ย. คณะกรรมการจริยธรรมพรรคเพื่อไทยจะประชุมพิจารณาเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง ส่วนบทลงโทษตอนนี้ ให้งดร่วมกิจกรรมของพรรค

นายอนุทินกล่าวถึงกรณี ส.ส. 7 คนของ พท.มีข่าวจะย้ายมาอยู่กับ ภท.ทั้งหมดว่า ก็ตามที่เป็นข่าว แต่ของอย่างนี้เอาไว้ถึงเวลาที่เหมาะสมค่อยแถลง และเมื่อถามว่าโลกโซเชียลแซวว่าเป็นเจ้าของฟาร์มงู นายอนุทินย้อนว่า “ฟาร์มงูเหรอ นึกว่าหัวงู”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอชัย' โนคอมเมนต์ นายกฯ ทาบ 'จักรพล' นั่งโฆษกรัฐบาล

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรีทาบทามนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง

นายกฯ ร่วมผู้นำ 17 ประเทศ แถลงเรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "วันนี้ ผมร่วมกับผู้นำ 17 ประเทศที่มีตัวประกันที่ยังอยู่ในกาซา ออกถ้อยแถลงร่วมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมด

รัฐบาลตีปี๊บ ประกวด 'ข้าวหอมมะลิไทย' ช่วยยกคุณภาพชีวิตเกษตรกร

รัฐบาลหนุนเกษตรกรและโรงสี จัดประกวดข้าวหอมมะลิไทยปี 2566 เฟ้นหาและอนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทยคุณภาพชั้นเลิศ พร้อมขยายช่องทางการจำหน่าย