‘ทบ.’ปฏิญาณป้อง‘สถาบัน’ ทร.จ่อถกจีนสเปกเรือดำน้ำ

ผบ.ทบ.นำ 179 นายพลถวายสัตย์ปฏิญาณตนหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 ปกป้องพระมหากษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ท่องคาถา “ในดวงตรามหาจักรี” มีจิตซื่อตรงในพระราชา ดำรงเกียรติทหาร ขณะที่ ผบ.ทร.ยันทหารเรือเป็นประชาชนอยู่ภายใต้ รธน.อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ภายในกองบัญชาการกองทัพบก  พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารชั้นนายพลสังกัดกองทัพบก จำนวน 179 นาย

โดย พล.อ.ณรงค์พันธ์และนายทหารที่สังกัดหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 (ฉก.ทม.รอ.904) ใส่เครื่องแบบเต็มยศชุดพระราชฐานและหมวกทรงโมฬีเข้าร่วมพิธี

พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า “ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ตามที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ  ให้ปวงข้าพระพุทธเจ้าที่มารวมตัวกัน ณ ที่นี้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญและพระราชทานยศชั้นนายพลของกองทัพบกนั้น  นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และเป็นเกียรติยศอันสูงยิ่งของการรับราชการ ตลอดห้วงระยะเวลาที่ผ่านมาปวงข้าพระพุทธเจ้าต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ  รัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยฯ แห่งนี้ขึ้น ทั้งยังมีพระเมตตาทรงรับและเปิดโอกาสให้ลูกหลานของประชาชนชาวไทยทั่วไปได้เข้าไปศึกษาเล่าเรียนโดยไม่แบ่งชั้นวรรณะ เพื่อให้ได้เข้ารับราชการสนองพระเดชพระคุณช่วยกันปกปักรักษาเอกราช อธิปไตยของประเทศชาติและราชอาณาจักรไทย ให้อยู่จนมาทุกวันนี้

นอกจากนั้น ปวงข้าพระพุทธเจ้ายังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ที่ได้พระราชทานกระบี่ และพระราชทานยศ นายทหารสัญญาบัตรมาตลอดห้วงเวลารับราชการที่ผ่านมา พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่องค์พระมหากษัตริย์ องค์จอมทัพไทยแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์มีต่อปวงข้าพระพุทธเจ้านั้น

ปวงข้าพระพุทธเจ้าจักสำนึกจะเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม พร้อมทั้งขอถวายสัตย์ปฏิญาณที่จะจงรักภักดี จะยอมอุทิศตนพร้อมเสียสละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องและรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของประเทศชาติ ราชอาณาจักรแห่งนี้ และจักเทิดทูนและรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์เจ้าแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ จนกว่าชีวิตจะหาไม่” พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารได้สั่งทำความเคารพ และขอให้ทุกคนนั่งคุกเข่าพนมมือ โดย  พล.อ.ณรงค์พันธ์ได้ให้นายพลกล่าวถวายคำสัตย์ปฏิญาณตาม เริ่มที่คาถาในดวงตรามหาจักรี “ติระตะเน สะกะรัฏเฐ จะ...สัมพังเส จะ มะมายะนัง สะกะราโชชุจิตตัญจะ...สะกะรัฏฐาภิวัฑฒะนัง

ความนับถือรักใคร่ในพระรัตนตรัยก็ดี ในรัฐของตนก็ดี  ในวงศ์ตระกูลของตนก็ดี มีจิตซื่อตรงในพระราชาของตนก็ดี ย่อมเป็นเครื่องทำให้รัฐของตนเจริญยิ่ง ข้าพระพุทธเจ้าจะรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า  และจักธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของทหาร”

จากนั้นทั้งหมดได้เปล่งเสียงกล่าวปฏิญาณพร้อมกัน  3 ครั้ง ความว่า “ข้าพระพุทธเจ้าจะรักษามรดกของท่านไว้ด้วยชีวิต” จากนั้นได้ถวายบังคม 3 ครั้ง

ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) พระราชวังเดิม พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ  (ผบ.ทร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการวางบทบาททางการเมืองที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ส.ในปีหน้าว่า ทหารเรือก็เป็นประชาชนอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งในเรื่องของการเลือกตั้งก็เป็นหน้าที่ของประชาชนที่จะต้องมีการสนับสนุนการเลือกตั้ง ในส่วนของกองทัพเรือเองก็ได้มีการสนับสนุนทั้งในด้านสถานที่ และกำลังพลตามที่ได้รับการร้องขอ อีกทั้งยังให้ข้อมูลกับกำลังพลของกองทัพเรือเองในเรื่องของการเลือกตั้งที่เป็นกลาง  บนพื้นฐานตามนโยบายของรัฐบาล ส่วนกรณีที่จะต้องดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาหรือ ส.ว.ควบคู่ไปด้วยนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้เข้ารับตำแหน่ง ขอให้ได้เข้ารับตำแหน่งก่อนจะสามารถให้ข้อมูลตรงนี้ได้

ผบ.ทร.ยังให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโครงการเรือดำน้ำจีน โดยกรอบระยะเวลาต้องดูว่าเรือดำน้ำในปัจจุบัน หากจะดำเนินการต่อจะต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ และมีผลกระทบด้านใดบ้าง อาจต้องมีการเจรจารอบใหม่กับทางการจีน เพื่อขอตรวจสอบข้อมูลที่ทางการจีนเสนอมา หากกองทัพเรือยังมีข้อสงสัยอยู่ ทั้งนี้เพื่อนำมาประมวลผล และหาทางเลือกว่าจะยกเลิกสัญญาหรือเดินหน้าต่อในการพิจารณาโครงการเรือดำน้ำ

เมื่อถามว่า เครื่องยนต์จีนไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน  ทร.ไทยจะเป็นหนูทดลองหรือไม่ และมีโอกาสที่จะยกเลิกสัญญาหรือไม่ พล.ร.อ.เชิงชายตอบว่า หากยังมีข้อสงสัยก็ต้องมีการขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือส่งเจ้าหน้าที่ไปดูเครื่องยนต์เรือดำน้ำตามที่จีนเสนอ ว่าจะสามารถนำมาใช้ในเรือดำน้ำของกองทัพเรือได้หรือไม่ ซึ่งต้องเจรจากับจีนอีกรอบ เพื่อกำหนดแนวทางร่วมกัน ทั้งนี้เท่าที่ทราบเบื้องต้นข้อมูลจากกรมอู่ทหารเรือยังไม่เพียงพอ ทางการจีนต้องแสดงข้อมูลและเหตุผล ว่าของที่เสนอมาเป็นของที่มีคุณภาพเทียบเท่าหรือดีกว่า โดยยึดถือเรื่องของความพร้อมด้านขีดความสามารถด้านยุทธการเป็นสำคัญ และความปลอดภัยของกำลังพลที่ใช้เรือดำน้ำที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเรื่องนี้

เมื่อถามว่า ถ้ายกเลิกสัญญาจะเรียกเงินที่จ่ายไปแล้วและค่าชดเชยที่มีความบกพร่องหรือไม่ พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า เป็นรายละเอียดที่จะต้องให้คณะกรรมการบริหารโครงการไปดูรายละเอียดก่อน เพราะโครงการมีการขยายสัญญาออกไปจากสัญญาเดิมไว้ในปี 2567 ปัจจุบันล่าช้ามาและมีการตรวจสอบเรื่องงบประมาณ หากโครงการยืดระยะเวลาออกไปกินเวลานาน อาจต้องพิจารณาเรื่องของการเสริมสร้างกองทัพในช่วงที่ยังไม่สามารถจัดหาเรือดำน้ำเข้ามาในกองทัพได้ ฉะนั้นเรื่องนี้จะเป็นการทบทวนยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ เพื่อจะให้เรามีความพร้อมตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ 

"หากเรามีการยกเลิกสัญญาแต่ยังต้องการเรือดำน้ำอยู่ ก็ต้องไปพิจารณาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถพูดได้ว่าจะยกเลิกสัญญาหรือเดินหน้าต่อ "

เมื่อถามถึงที่มีการเสนอว่า ให้นำเครื่องยนต์ของเยอรมนีมาใส่ในเรือดำน้ำของไทยได้หรือไม่ พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่า ยังไม่มีคำตอบจากประเทศที่สามที่จะซื้อเครื่องมาแล้วมาติดตั้งเอง การต่อเรือดำน้ำจะต้องเป็นแพ็กเกจ ต้องทำที่ประเทศที่ต่อเรือดำน้ำเท่านั้น และส่งมอบมาให้ไทย แต่ขณะนี้ยังไม่มีแนวทางที่จะนำเครื่องมาติดตั้งที่ไทย

เมื่อถามอีกว่า ในระหว่างที่รอความชัดเจนเรื่องเรือดำน้ำ จะต้องเสริมสร้างผิวน้ำเช่นเรือฟริเกตหรือไม่ พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่า ถ้าโครงการเรือดำน้ำอาจจะขยายเวลาออกไปเพราะมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ อาจต้องพิจารณาทางเลือกเพื่อเสริมสร้างกำลังกองทัพให้เทียบเท่าหรือป้องปรามประเทศรอบบ้านได้ อาจจะเป็นเรือฟริเกต หรือเครื่องบิน หรือเฮลิคอปเตอร์มาทดแทนในช่วงที่ยังจัดหาเรือดำน้ำไม่ได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง