เร่งแบ่งเขตเลือกตั้งก่อน28ก.พ.

กกต.ย้ำเร่งแบ่งเขตคาดประกาศ 28 ก.พ. แจงทำล่วงหน้าไม่ได้เกรงทำเกินกฎหมายรองรับ วอนทุกฝ่ายเข้าใจไม่เข้าข้างพรรคใด ปัดหนักใจบัตร 2 ใบ ชี้ก่อนเลือกตั้งปี 62 เคยมีมาแล้ว วางแนวทางแยกสีบัตรป้องกันสับสน  พร้อมเป็นพี่เลี้ยงพรรคทำไพรมารีโหวต

ที่ จ.ภูเก็ต​ เมื่อวันที่​ 2 กุมภาพันธ์ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)​ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวปฏิบัติ กฎหมาย กฎระเบียบที่ปรับปรุงเปลี่ยนไปตามห้วงเวลา และเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดในการพัฒนาการประชาสัมพันธ์ของภาคีเครือข่าย เพื่อเตรียมพร้อมในการเลือกตั้ง ส.ส.  ประกอบด้วย ผู้บริหาร พนักงาน ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ตัวแทนสื่อมวลชนจังหวัดภาคเอกชน และตัวแทนสื่อมวลชนภาครัฐ  ใน 14 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ระนอง สตูล สงขลา สุราษฎร์ธานี และจังหวัดยะลา

นายแสวงกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้สมัคร มีแต่ว่าที่ผู้สมัคร  ซึ่งอาจจะกระทำผิดในช่วงนี้ กกต. ทำได้เพียงแค่รวบรวมข้อมูล เนื่องจากยังไม่ทราบว่าเป็นผู้สมัครหรือไม่ และไม่รู้ว่าจะอยู่ครบวาระหรือไม่     หากอยู่จนครบวาระจะมาพิจารณาดูว่ามีการกระทำความผิดหรือไม่ แต่หากอยู่ไม่ครบวาระ มีการสิ้นอายุสภา โดยการยุบสภาเงื่อนเวลาก็เปลี่ยนไป จึงเป็นเงื่อนไขที่บังคับว่ากรณีอยู่ครบวาระการกระทำที่มีผู้มายื่นเรื่องร้องเรียนไว้ หรือกรณีที่ กกต.เห็นเองเนื่องจากความปรากฏ โดย กกต.จะต้องนำมาพิจารณาว่าการกระทำนั้นเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่  

 “เป็นครั้งแรกที่เราและพรรคการเมืองต้องมาเจอลักษณะนี้ ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าจะอยู่จนครบวาระหรือยุบสภาหรือเปล่า แต่สำหรับเรา ก็คงมีการเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเราก็ถูกตั้งโจทย์ เหมือนการแบ่งเขต เหมือนเราไม่พร้อม เหมือนสังคมถาม จริงๆ มีคนเข้าใจเยอะ แต่ว่าผู้แสดงความเห็นซึ่งเป็นนักจัดรายการบอกว่าทำไม กกต.ไม่แบ่งเขตไว้ก่อน ทำไมเมื่อกฎหมายประกาศใช้   ทำไม กกต.ไม่ประกาศเขตเลือกตั้งทันที    นี่คือสิ่งที่สังคมอาจจะไม่เข้าใจ ประชาสัมพันธ์นี่แหละจะทำให้ประชาชนเข้าใจ หากประชาชนไม่เข้าใจเรื่องนี้ เราก็จะทำงานยาก หนึ่งคือเหมือนเราไม่ใส่ใจ ความหมายคือ เหมือนเราหยุดมาตั้ง 4 ปี ทำอะไรอยู่ ทำไมคุณไม่แบ่งเขตก่อน" นายแสวงระบุ

อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแค่ประชาชนที่ไม่เข้าใจ ฝ่ายการเมืองก็ไม่เข้าใจ กกต. จึงเกรงว่ากฎหมายมีผลบังคับใช้แล้วเกิดยุบสภาเลย กกต.จะไม่มีเวลาทำงานในการแบ่งเขต ความรับผิดชอบจะอยู่ที่ กกต.ทันที แต่จริงๆ เป็นเงื่อนไขตามกฎหมาย การแบ่งเขตถ้าไม่มีอำนาจตามกฎหมาย กกต.ไม่สามารถทำได้ บ้านเรามีอะไรนิดหน่อยก็มีฝ่ายที่เห็นด้วยและฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย เราต้องไม่สร้างเงื่อนไขในการทำงานซึ่งเป็นงานใหญ่ของประเทศ   การเมืองแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ตนเองพยายามที่จะลดเงื่อนไข จึงต้องไปพูดว่าเราต้องการ 45 วัน ถ้าไม่ได้ 45 วัน เราลำบาก   และพรรคการเมืองก็ลำบาก ไม่มีเขตเลือกตั้ง พรรคการเมืองจะไปทำไพรมารี   หรือส่งผู้สมัครก็ทำไม่ได้ สุดท้ายไม่รู้ว่ารัฐบาลจะคิดอย่างไร แต่ให้มาคือหมายความว่ายังไม่ยุบสภา ให้เวลาเพราะเป็นเงื่อนไขเวลาตามกฎหมาย หากยุบสภาช่วงนี้เราไม่มีเขตก็ยากขึ้น พอยากขึ้นกฎหมายไม่ครอบคลุมจะเป็นเงื่อนไขให้คนมาท้วง ซึ่ง กกต.ทำได้ แต่มีคนท้วงแน่นอน โดยพยายามทำให้เกิดความโปร่งใส  และลดเงื่อนไขในการทำงาน

เลขาธิการ กกต.ยังกล่าวถึงแผนการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า ได้สั่งการไปยังจังหวัดแล้วว่าจะสามารถประกาศเขตเลือกตั้งได้เมื่อไหร่ ซึ่งมีอยู่ 4 ขั้นตอน ไม่สามารถลดขั้นตอนได้ โดยใช้เวลาประมาณกว่า 20 วัน แต่สามารถเร่งขั้นตอนให้เร็วขึ้นได้    ซึ่งตามแผนของ กกต. จะพิจารณาวันที่ 20-28 ก.พ. ใช้เวลาประมาณ 7-8 วัน    หากสำนักงานทำมาทั้ง 77 จังหวัด กกต. พร้อมจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1 วัน ยืนยัน กกต.ทำตามกฎหมายและระเบียบ ไม่เข้าข้างพรรคใด

 “ผมเองก็เห็นใจจังหวัด เพราะเมื่อต้องรับฟังความคิดเห็น 10 วัน กกต.จังหวัดมีเวลา 3 วันในการรวบรวมความเห็น   พร้อมรูปแบบแต่ละแบบส่งมาที่ส่วนกลาง   ส่วนกลางก็ต้องยอมรับงานหนัก ต้องทำบันทึกเสนอให้ กกต.พิจารณา 77 จังหวัด    โดยมีเวลาเพียงวันเดียวก่อนที่จะเสนอเข้าที่ประชุม กกต. ในวันที่ 20 ก.พ. ให้พิจารณา หาก 77 จังหวัดส่งมาพร้อมกันก็ถือเป็นเรื่องดี ส่วนกลางก็ต้องทำให้ได้หากจะเข้าพิจารณาวันที่ 20 หรือ 22 ก.พ. หากทำได้ก็เป็นเรื่องดีกับประชาชนและพรรคการเมืองที่จะได้เขตไปก่อน เพราะ กกต.จะต้องนำเขตไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา ประกาศพร้อมกันทั่วประเทศ คาดว่าน่าจะเป็นไปตามแผนคือ  วันที่ 28 ก.พ." นายแสวงระบุ

นายแสวงยังกล่าวว่า ไทม์ไลน์ที่ กกต.วางไว้เดินเร็วกว่าแผนงาน เช่น ระเบียบ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง กกต.ออกครบทั้ง 5 ระเบียบ ส่งไปประกาศราชกิจจาฯ โดยประกาศเผยแพร่ไปแล้ว 2 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้ง วันนี้ราชกิจจานุเบกษาจะประกาศระเบียบ กกต. เกี่ยวกับพรรคการเมือง ที่เกี่ยวกับการทำไพรมารี จำนวน 2 ฉบับ เหลืออีกเพียง 1 ฉบับระเบียบใหญ่ กกต.ตรวจทาน เพราะมีการแก้ไขระเบียบทั้งฉบับ และพิจารณาแล้วเสร็จในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา

เลขาธิการ กกต.ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการให้ความรู้กับประชาชน​เกี่ยวกับรูปแบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบนั้น ว่า จะเปลี่ยนจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นเรื่องใหม่สำหรับประชาชน เพราะการเลือกตั้งก่อนปี 2562 ใช้รูปแบบบัตร 2 ใบอยู่แล้ว ผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางส่วนที่ไม่ใช่นิวโหวตเตอร์อาจจะเคยเจอ และจะพบในการเลือกตั้งท้องถิ่นอยู่แล้ว ส่วนแนวทางในครั้งนี้จะใช้บัตรคนละสีเพื่อให้เกิดความชัดเจน รวมทั้งประชาสัมพันธ์เพื่อสื่อสารกับประชาชนทุกช่องทาง เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ให้ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ และประชาชนเข้าใจง่าย ให้เกิดความเข้าใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งระบบใหม่ ใช้บัตร 2 ใบ ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ จึงไม่มีอะไรน่าหนักใจในเรื่องดังกล่าว

เมื่อถามว่า การประชุมร่วมกับพรรคการเมืองในสัปดาห์หน้า กกต.จะเน้นย้ำเรื่องอะไร นายแสวงกล่าวว่า การประชุมพรรคการเมืองเป็นการเตรียมความพร้อมร่วมกัน เพราะการเลือกตั้งจะออกมาดี ต้องดีทุกองค์ประกอบ ทั้ง กกต.และพรรคการเมือง ซึ่งสิ่งที่จะเน้นย้ำคือการทำตามกฎหมาย โดยเฉพาะการคิดค่าใช้จ่ายของแต่ละพรรคว่าค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อจะใช้เงินเท่าไหร่ และค่าใช้จ่ายแบบแบ่งเขตจะใช้เงินเท่าไหร่ และชี้แจงเรื่องการทำไพรมารีโหวตที่จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งมีทั้งความยากและความง่าย ความง่ายคือกฎหมายแก้ไขได้แก้ไขให้มีสาขาหรือตัวแทนเดียวในจังหวัดนั้น ส่งผู้สมัครได้ทั้งจังหวัด แต่ความยากคือมีขั้นตอนที่ตั้งจัดประชุมให้ถูกต้องตามข้อบังคับพรรคและกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งคงต้องซักซ้อมให้พรรคการเมืองได้ให้ความใส่ใจ โดยสำนักงาน กกต.พร้อมเป็นพี่เลี้ยงให้ทุกพรรคการเมืองและทุกสาขา หรือตัวแทนพรรคการเมืองตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งจะมีสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดคอยดูแลเกี่ยวกับการสรรหาผู้สมัครแต่ละพรรคตามจังหวัดต่างๆ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้พรรคการเมืองได้เตรียมตัวมาอยู่ตลอด เราทำงานร่วมกันมาโดยตลอด ก็ไม่หนักใจอะไร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์