‘พ่อตะวัน’รับปาก ให้ลูกกลับไปเรียน

ศาลอาญา ๐ พ่อตะวันยื่นประกัน รับปากหากศาลเมตตาจะไม่ให้ลูกยุ่งการเมืองอีก จะให้ใช้ชีวิตตามประสาวัยรุ่น และเรียนให้จบต่อไป ศาลขอเอกสารใบรับรองแพทย์มาประกอบเพิ่มเติม โดยนัดฟังคำสั่งในวันที่ 25 ก.พ. แต่เพื่อนบอกยังคงยืนยันว่าจะอดน้ำอดอาหารต่อไป

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ความคืบหน้าคดีที่ พนักงานสอบสวน สน.ดินแดน ได้ยื่นคำร้องฝากขัง น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน อายุ 22 ปี นักเคลื่อนไหวกลุ่มทะลุวัง และนายณัฐนนท์   ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาที่ 1-2 ข้อหาว่าร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มาตรา 116

ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา และร่วมกันกระทำด้วยประการใดอันเป็นการก่อความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ,   ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร

กรณีเหตุการณ์ที่ น.ส.ทานตะวัน หรือตะวัน ที่ร่วมกับนายณัฐนนท์ หรือ แฟรงค์ นักเคลื่อนไหวกลุ่มทะลุวัง พยายามขับรถแซงขบวนเสด็จฯ บนทางด่วน พร้อมบีบแตรรถยนต์ลากยาวระหว่างขบวนเสด็จฯ ผ่าน และใช้ถ้อยคำดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ฝากขังและไม่ให้ประกันในคดี

ในช่วงเช้า นายสมหมาย ตัวตุลานนท์ พ่อของ น.ส.ทานตะวัน ได้มายื่นขอให้ศาลอาญาพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวทั้ง 2 คน โดยนายสมหมายเปิดเผยว่า เมื่อวานได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ พบว่า นายณัฐนนท์มีร่างกายที่แย่มาก ร่างกายขาดน้ำและขาดอาหาร เบลอไปหมด พูดไม่ได้ ส่วนอาการของ น.ส. ทานตะวัน ร่างกายเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก การพูดจาสามารถทำได้เพียงแค่กระซิบ แทบจะไม่ได้ยินเลย ถ้าปล่อยต่อไปให้เป็นเช่นนี้ อีกไม่กี่วันไม่แน่ใจว่าจะรักษาชีวิตไว้ได้หรือไม่ ทั้งสองคนไม่มีแรงแม้กระทั่งจะฝากบอกอะไรมา เลยมาขอความเมตตาจากศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อออกมารับการรักษา โดยครั้งนี้เป็นการยื่นขอประกันครั้งที่ 3 จึงหวังว่าศาลจะเมตตา

จะไม่ให้ลูกยุ่งการเมือง

นอกจากนี้ยังชี้แจงว่า ในวันเกิดเหตุทั้งสองคนไปร่วมงานศพของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มทะลุฟ้าคนหนึ่ง ซึ่งขากลับได้ขึ้นทางด่วนแล้วไปเจอขบวนเสด็จฯ โดยบังเอิญ ไม่ได้มีเจตนาหรือวางแผนเพื่อไปก่อเหตุป่วนขบวนเสด็จฯ แต่อย่างใด เพราะคนทั่วไปไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเส้นทางเสด็จฯ จะใช้เส้นทางใดบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาที่ระหว่างเดินทางอยู่จะไปเจอขบวนเสด็จฯ อีกทั้งขบวนเสด็จฯ ใช้ความเร็ว ไม่มีทางที่จะขับรถตามไปป่วนได้ทัน

"แต่ก็ยอมรับว่าเด็กทั้งสองคนมีพฤติกรรมและใช้วาจาไม่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ แต่การกล่าวหาดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องที่เกินความเป็นจริง ลำพังเด็กทั้งสองคนจะไปทำอะไรได้ เพราะถ้ามีการใช้ความรุนแรงจริง เจ้าหน้าที่ก็สามารถดำเนินการขั้นเด็ดขาดขณะเกิดเหตุได้ทันที"

นายสมหมายให้คำมั่นว่า หากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว จะดูแลลูกไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองอีก จะให้ใช้ชีวิตตามประสาวัยรุ่น และเรียนให้จบต่อไป

ด้านนายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ สายน้ำ กลุ่มทะลุวัง ซึ่งมาให้กำลังใจ เปิดเผยว่า คดีอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งจะครบฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ในเร็วๆ นี้ ต้องดูว่าพนักงานสอบสวนจะยื่นฝากขังผลัดที่ 2 ต่อหรือไม่ ซึ่งในคดีนี้พนักงานสอบสวนให้เหตุผลคัดค้านประกันตัวว่าผู้ต้องหาอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือหลบหนีได้ ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองไม่ได้มีเจตนาหลบหนี และไม่เคยไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานแต่อย่างใด จึงไม่เห็นความจำเป็นที่พนักงานสอบสวนจะต้องออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองคน วันนี้จึงมาให้กำลังใจให้นายสมหมาย เพราะรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน จึงอยากให้ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว

ต่อมา เวลา 14.00 น. ภายหลังจากที่นายสมหมายยื่นขอประกันตัว น.ส.ทานตะวันและแฟรงค์ นายสายน้ำได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าถึงคำสั่งของศาลว่า เบื้องต้นในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ จะครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 2 คนในผลัดแรก ซึ่งจะต้องรอดูพนักงานสอบสวนว่าจะขอฝากขังต่อในผลัดที่ 2 หรือไม่ ศาลจึงมีคำสั่งให้ทางผู้ร้องนำเอกสารใบรับรองแพทย์มาประกอบเพิ่มเติม โดยนัดฟังคำสั่งในวันที่ 25 ก.พ. เวลา 13.30 น.

ทั้งนี้ นายสายน้ำมองว่า ถ้าพนักงานสอบสวนมาขอยื่นฝากขังในผลัดที่ 2 และอาการของเพื่อนทั้ง 2 คนคงแย่จะกว่าเดิม ซึ่งในพรุ่งนี้เราก็จะมาร่วมติดตามคำสั่งศาลอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเรื่องของใบรับรองแพทย์ที่ศาลให้เอามาประกอบเพิ่มเติมนั้น ก่อนหน้านี้เคยยื่นไปแล้ว หลังจากนี้ก็จะไปพูดคุยกันเพิ่มเติมว่าจะดำเนินการกันอย่างไรต่อไป

อดน้ำอดอาหารต่อไป

"ถึงแม้ว่าศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ตะวันและแฟรงค์ก็คงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเช่นเดิม และทั้ง 2 คนยังคงยืนยันว่าจะอดน้ำอดอาหารต่อไป" นายสายน้ำกล่าว

นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า กรณีที่นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางตรากฎหมายนิรโทษกรรม ให้สัมภาษณ์สื่อโดยบอกว่ากรรมาธิการไม่ได้มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องการทุจริต แต่มาตรา 112 มีรายละเอียดแตกต่างกันบ้าง แต่เห็นด้วยกันในหลักการใหญ่นั้น ตนขอเตือนนายชัยธวัชว่า อย่าเอาความคิดเห็นตัวเองมาครอบความเห็นของกรรมาธิการทั้งหมดว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่ เพราะเชื่อว่า กมธ.ส่วนใหญ่ต่างก็ไม่เห็นด้วย เนื่องจากประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น เป็นความผิดร้ายแรงกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ และที่สำคัญศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยแล้ว แต่การขอแก้ไขมาตรานี้ก็ถือเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้น เมื่อผู้กระทำความผิดจาบจ้วงละเมิดสถาบัน อยู่ซ้ำๆ หลายคดี ซึ่งมีอัตราโทษหนัก ก็ไม่สมควรที่จะได้รับการนิรโทษกรรม

นายธนกรย้ำว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ใช่คู่ขัดแย้งทางการเมือง จึงขอเตือนและเรียกร้องให้นายชัยธวัช หยุดดึงสถาบันลงมาเกี่ยวข้องได้แล้ว  เพราะยิ่งจะเป็นการให้ท้ายกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหว และถ้าได้รับการนิรโทษกรรม จะยิ่งเปิดช่องให้มีการทำผิดมากขึ้นอีกหรือไม่ ซึ่งไม่ควรเป็นเช่นนั้น ถือเป็นการเหยียบย่ำน้ำใจคนไทยทั้งชาติมากขึ้นไปอีก ซึ่งตนไม่เห็นด้วยกับการรวมคดี ม.112 ให้ได้รับนิรโทษกรรม

“เชื่อว่า กมธ.วิสามัญศึกษาตรากฎหมายนิรโทษกรรมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะเหมารวมปลดล็อกผู้ต้องหาคดีม.112 ซึ่งผู้ที่เสนอร่างก็ขอให้พึงระวังและคิดให้ดี ให้รอบคอบ ไม่สมควรยกโทษหรือนิรโทษฯ ให้กับผู้ที่จาบจ้วง ก้าวล่วงสถาบันอันเป็นศูนย์รวมใจคนไทยทั้งชาติ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่สำนึก ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และผู้ใหญ่ก็ควรหยุดให้ท้ายสนับสนุนเสียที ตนมองว่าวันนี้คนไทยได้เห็นเจตนาทางการเมืองของบางพรรคแล้ว และยิ่งชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ   หากยังดื้อรั้น ดึงดัน ตนขอคัดค้านร่างนิรโทษกรรมนี้จนถึงที่สุด” นายธนกรย้ำ.

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง