ชวนคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. 14 พ.ค. 2566

13 พ.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เชิญชวนประชาชนคนไทยทุกคนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 08.00 -17.00 น. ร่วมกันขับเคลื่อนประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง พิจารณาเลือกคนดีที่มีความรู้ความสามารถมาเป็นผู้แทนของประชาชนเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร และบริหารประเทศให้เจริญก้าวหน้า เกิดการพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายอนุชาย้ำถึงการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ว่า ขอให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ศึกษาข้อมูลรายละเอียดรูปแบบการเลือกตั้ง ส.ส. ประจำปี 2566 ให้เข้าใจอย่างชัดเจนก่อนออกไปใช้สิทธิเข้าคูหาลงคะแนนเลือกตั้ง เพื่อให้การใช้สิทธิเลือกตั้งถูกต้องตามหลักเกณฑ์ข้อกำหนดของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดจนทำให้ผิดกฎหมาย หรือบัตรเสีย และทำให้ผู้สมัคร ส.ส. และพรรคการเมืองที่ประชาชนตั้งใจมาใช้สิทธิลงคะแนนให้เข้าไปเป็นผู้แทนของตนเองในสภาฯ ต้องเสียคะแนนไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รวมทั้งห้ามขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิดในเขตเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 พ.ค. 2566 ถึงเวลา 18.00 น. ของวันที่ 14 พ.ค. 2566 หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายมาตรา 147 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566

สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 นี้ มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ 1) สำหรับเลือก ส.ส. แบบแบ่งเขต (บัตรสีม่วง) เลือกคนที่รัก และ 2) ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (บัตรสีเขียว) เลือกพรรคที่ชอบ ทั้งนี้ การทำเครื่องหมายกากบาท (x) ลงบนบัตรเลือกตั้ง ข้อพิจารณาว่าแบบไหนที่เป็นบัตรดีและแบบไหนเป็นบัตรเสีย คือ เครื่องหมายกากบาท (x) ที่ทำให้เป็น “บัตรดี” ต้องดูออกว่าเป็นเครื่องหมายกากบาท (x) และกาเครื่องหมายเดียวในบัตรเลือกตั้งเท่านั้น ห้ามใส่ข้อความหรือเครื่องหมายแบบอื่น หากทำเครื่องหมายที่ทำให้เป็นบัตรเสีย หรือเขียนข้อความใด ๆ ลงไปในบัตรเลือกตั้ง ถือว่าเป็นบัตรเสีย ดังนั้น อย่าลืมศึกษารายละเอียดก่อนออกไปใช้สิทธิเพื่อให้การลงคะแนนเลือก ส.ส. ที่รัก และเลือกพรรคที่ชอบตรงตามที่ตนเองตั้งใจไว้

“รัฐบาลมีความห่วงใยการเดินทางของประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง จึงกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชน เพื่อสร้างความมั่นใจและความอุ่นใจต่อประชาชนในด้านการเดินทาง พร้อมขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความระมัดระวัง มีสติ อย่าประมาท โดยเฉพาะผู้ขับขี่ยานพาหนะ ให้งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างขับขี่ยานพาหนะ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นต่อตนเองและผู้อื่น รวมทั้งขอให้ประชาชนระมัดระวังดูแลป้องกันตนเองจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยขอให้สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และหมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ เพื่อให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโควิด-19” นายอนุชากล่าว

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลและติดตามรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือ Add Friends เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2566 ได้ที่ LINE Official Account : ECT Thailand และแอปพลิเคชัน Smart Vote หรือหากมีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1444 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครม. อนุมัติงบปี 68 จ้างภารโรงเพิ่มวงเงิน 2,739 ล้านบาท ช่วยเข้าเวรแทนครู

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณวงเงิน 2,739.96 ล้านบาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ

แล้วกัน! สว.วันชัย ถามไม่เอาทักษิณ-เพื่อไทย แล้วจะเอาใครไปสู้ก้าวไกล

นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ไม่เอาเพื่อไทย จะเอาใครมาสู้” ระบุว่าก็เห็นพูดกันว่าก้าวไ

โฆษกรัฐบาล โวผลงานนายกฯ ดันราคายางพุ่งทะลุ 90 บาท สูงสุดในรอบ 7 ปี

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลสำเร็จของนโยบายขับเคลื่อนยางพาราไทยของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งล่าสุดราคายางพาราสูงขึ้นทะลุ 90 บาท ถือเป็นราคาสูงที่สุดในรอบ 7 ปี

กกต. ตั้งวอร์รูมเลือก สว. เปิดช่องผู้สนใจ ยื่นขอปรึกษา-คำแนะนำ ก่อนลงสนามชิงเก้าอี้

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา โดยจัดตั้งศูนย์เตรียมการเลือกสมาชิกวุฒิสภาประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้เป็นศูนย์ประสานงานในการเตรียมการแต่งตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอ และคณะกรรมการระดับจังหวัด