
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้เห็นปรากฏการณ์ที่บรรดาธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ประกาศขึ้นดอกเบี้ยกันถ้วนหน้า ซึ่งก็เป็นไปตามคาดหมาย หลังจากมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีการลงคะแนนเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.75% เป็น 2.00% ต่อปี และให้มีผลทันที ซึ่งการปรับขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกัน 6 ครั้ง
ดังนั้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องก็มีทั้งผลดี และผลเสีย ด้านดีก็คือ ผู้ฝากเงิน หรือคนที่กำลังทำการออมเงินก็จะได้รับอานิสงส์จากผลตอบแทนที่ได้รับเพิ่มขึ้น แต่สำหรับฝ่ายผู้กู้ที่เป็นหนี้กับสถาบันการเงิน ก็จะต้องมีการแบกภาระที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาแบงก์จะมีการค่อยๆ ทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ แต่ถึงอย่างไรก็ส่งผลกระทบต่อผู้กู้แน่นอน
ทั้งนี้จากข้อมูลของ กนง. ระบุว่า การปรับดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องส่งผลให้สินเชื่อในระบบขยายตัวลดลง โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ เนื่องจากธุรกิจขนาดใหญ่มีทางเลือกในการระดมเงินทุนในต้นทุนที่ถูกกว่า อย่างการออกหุ้นกู้ ไประดมเงินทุนจากตลาดตราสารหนี้แทน
อย่างไรก็ดี ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นแบบนี้ก็มีคำแนะนำสำหรับประชาชนทั่วไปในการรับมือกับปัญหาเรื่องต้นทุนการเงินที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีดังนี้
1.ต้องวางแผนทางการเงินสำหรับอนาคต อย่างที่ทราบกันดีว่า ดอกเบี้ยขึ้นส่งผลกระทบต่อการผ่อนชำระ โดยเฉพาะสินค้าที่มีมูลค่าสูง อาทิ บ้านและที่อยู่อาศัย รถยนต์ เป็นต้น ซึ่งในภาวะแบบนี้ประชาชนทั่วไปก็จะต้องประเมินขีดความสามารถในการผ่อนชำระของตัวเองว่าสามารถผ่อนได้ระดับไหน และอาจจะต้องมีการปรับลดสเปกของสินค้าที่เราจะซื้อให้มีความเหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระของเรา
โดยหลักการเช็กสุขภาพทางการเงินง่ายๆ ก็คือ เราไม่ควรมีหนี้สินเกิน 50% ของสินทรัพย์ที่มีทั้งหมด เช่น เรามีสินทรัพย์อยู่ 1 ล้านบาท เราต้องไม่ควรมีหนี้รวมกันทุกประเภทเกิน 500,000 บาทนั่นเอง ขณะเดียวกันอีกหนึ่งเกณฑ์มาตรฐานที่แนะนำให้ตรวจสอบก็คือ "ภาระการผ่อนชำระในแต่ละเดือน" ซึ่งไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ทั้งหมด โดยภาระการผ่อนชำระก็จะนับรวมการผ่อนรายการที่เป็นหนี้ทั้งหมด เช่น ค่าผ่อนรถยนต์ ผ่อนบ้านที่อยู่อาศัย ผ่อนหนี้บัตรเครดิต รวมไปจนถึงภาระการผ่อนสินค้า 0% ทั้งหมดที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนด้วย
2.ต้องฝึกการบันทึก หรือการทำบัญชี เรื่องนี้ก็มีความสำคัญ เพราะบันทึกหรือบัญชีมันคือข้อมูลนำทางสำหรับการจัดการเรื่องเงินได้ดีที่สุด เมื่อเราทราบว่าทุกเดือนเรามีค่าใช้จ่ายไปกับเรื่องใดบ้าง ซึ่งบางทีเราจะเห็นว่ามีค่าใช้จ่ายบางรายการที่ไม่จำเป็น สามารถตัดลดได้ ก็จะทำให้การบริหารเงินของตัวเอง มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยยุคนี้การบันทึกค่อนข้างง่าย เพราะในระบบแอปพลิเคชันของสถาบันการเงินต่างๆ ก็มีสลิป และประวัติการใช้เงินที่เก็บให้อัตโนมัติอยู่แล้ว ผู้ใช้เพียงนำมารวบรวมและวิเคราะห์ วางแผนได้ง่าย
3.การรีไฟแนนซ์หนี้อาจจะคุ้ม สำหรับผู้ที่เจอดอกเบี้ยลอยตัว อันนี้ถือเป็นอีกประเด็นสำหรับลูกหนี้ บางครั้งหากเรากำลังเจอกับภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น การรีไฟแนนซ์ย้ายเจ้าหนี้อาจจะได้รับเงื่อนไข โปรโมชั่น ดอกเบี้ย ถูกกว่าที่ผ่อนอยู่ก็เป็นไปได้
ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ประชาชนสามารถนำไปปรับใช้ได้ เพราะที่สำคัญเลยเราต้องอยู่กับภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นอีกสักระยะ โดยก็มีการคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง.จะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ ดังนั้นการตัดสินใจและปรับพฤฒิกรรมในการรับมือได้เร็วย่อมจะส่งผลดีไม่มากก็น้อย ดีกว่าปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม.
ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอเชียกับเศรษฐกิจโลกยุคใหม่
ในช่วงที่ผ่านมาได้มีงานวิจัยล่าสุดที่จัดทำโดย McKinsey Global Institute (MGI) ในหัวข้อ Asia on the cusp of a new era เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและการเมืองโลกในปัจจุบันอาจส่งผลให้โลกเข้าสู่ยุคใหม่
“เอลนีโญ”ดันเทรนด์Net Zeroมาแรง
รายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ระบุว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในสภาวะ “เอลนีโญ” ซึ่งจะยาวนานไปจนถึงช่วงมกราคม-มีนาคม 2567 และคาดในเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2567
จับตา'สุกี้หมาล่า'มาแรงผุดทุกหัวถนน
ในระหว่างนั่งทำงานเพลินๆ ผมได้เปิดช่องดีบีซัวเถาฟัง เพราะอยากรู้เกี่ยวกับมุมมองของจีนและความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแดนมังกร และในอีพี 563 ล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ เจ๊กกุ่ย แป๊ะตง 2 ผู้รอบรู้
เทรนด์ธุรกิจตอบโจทย์ตลาดสูงวัย
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ เพราะในมุมของภาครัฐถือเป็นอีกประเด็นใหญ่สำหรับภาระงบประมาณที่จะต้องจัดสรรมาเพื่อดูแลสวัสดิการสำหรับประชากรกลุ่มนี้
เทคโนโลยีผนวกวิถีรักษ์โลก
ปัจจุบันที่กระบวนการดูแลรักษ์โลกนั้นก้าวหน้าไปอย่างมาก เช่นเดียวกับการพัฒนาเทคโนโลยี และเมื่อนำทั้ง 2 สิ่งมาผนวกกัน สังคมจึงมีเทคโนโลยีดีๆ ที่สามารถอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ รวมถึงการสร้างกระบวนการทำงานที่ไม่สร้างผลกระทบให้กับโลกได้อีกด้วย
เตรียมเช็กอินนั่งสายสีชมพู
เมื่อพูดถึงโครงการไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู เป็นรถไฟฟ้าโมโนเรลสายที่สองที่จะเปิดให้บริการในประเทศไทย มีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างเขตมีนบุรีและจังหวัดนนทบุรี มีระยะทางให้บริการ 34.5 กิโลเมตร (กม.)