ลุย 'แลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง' ทำประชาพิจารณ์ 18 ส.ค.

21 ก.ค. 2566 – นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงโครงการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมริ่ว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ว่าเป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างทะเลอ่าวไทยอันดามัน หรือโครงการแลนด์บริดจ์ (Landbridge) คือท่าเรือฝั่งอ่าวไทย ในจังหวัดชุมพร เเละท่าเรือฝั่งอันดามัน จังหวัดระนอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ การเงิน วิศวกรรม สังคม และการออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน โครงการพัฒนาโครงสร้างด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้

นายปัญญา เปิดเผยว่า เพื่อให้การจัดการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการจัดทำรายงาน EHIA เป็นไปตามประกาศสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้กำหนดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 โครงการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมริ่ว อ.หลังสวน จ.ชุมพร เพื่อกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 เวลา 08.30 น.-12.00 น. ณ ห้องประชุมโรงแรมอวยชัยแกรนด์ อ.หลังสวน จ.ชุมพร

สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมริ่ว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของโครงการแลนด์บริดจ์ (Landbridge) คือท่าเรือนํ้าลึกฝั่งอ่าวไทย ในจังหวัดชุมพร เเละท่าเรือนํ้าลึกฝั่งอันดามัน จังหวัดระนอง โดยมีเส้นทางเชื่อมโยงท่าเรือทั้ง 2 เเห่ง ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร ได้แก่ ทางหลวงพิเศษขนาด 6 ช่องจราจร ทางรถไฟขนาดรางมาตรฐาน 2 ทาง โดยเกิดจากจุดได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ของประเทศ การเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านการขนส่งและการค้าของเอเชีย ซึ่งโครงการแลนด์บริดจ์สามารถลดระยะทาง ร่นระยะเวลา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และอาจส่งผลให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่อง จนเป็นผลผลิตในรูปเเบบพร้อมใช้ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวนอกจากจะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและโลจิสติกส์แล้ว ยังถือเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ Southern Economic Corridor : SEC ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์กลางของภาคใต้ในการเชื่อมโยงการค้าและโลจิสติกส์กับพื้นที่เศรษฐกิจหลักของประเทศ และภูมิภาคฝั่งทะเลอันดามัน (BIMSTEC) เป็นฐานการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพและการแปรรูปเกษตรมูลค่าสูง และเพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการท่องเที่ยวสู่นานาชาติ

ทั้งนี้ ปัจจุบัน โครงการอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มต่างๆ เช่น นักลงทุนต่างชาติในสายการเดินเรือต่าง ๆ ผู้ประกอบการชาวไทยและชาวต่างชาติ และการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมทั้งยังดำเนินการศึกษาความเหมาะสม ประเมินผลกระทบสิ่งเเวดล้อม เเละวิเคราะห์รูปเเบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน ควบคู่ไปกับการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะอย่างรอบด้าน

โดยกระทรวงคมนาคมเล็งเห็นว่า หากโครงการ Landbridge แล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในพื้นที่ภาคใต้จาก 2% เป็น 10% เป็นระยะเวลาต่อเนื่องอย่างน้อย 10 ปี สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้เกือบ 500,000 ล้านบาท รวมทั้งจะเกิดโอกาสการจ้างงาน เพิ่มอาชีพใหม่ ๆ ในชุมชน เพิ่มรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกพื้นที่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผงะ! พบระเบิด 3 ลูก กระสุนปืนกลเกือบ 100 นัด ใกล้หน่วยเลือกตั้ง อบจ.ชุมพร

คนงานตัดปาล์มคิดว่าขยะใช้เท้าเตะกลายเป็นระเบิด 3 ลูก ถึงกับว่างป่าราบ แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเป็นชนิดขว้างซ้อม ผลิตในเกาหลีใต้ และเครื่องกระสุนปืนกลอีกเกือบ 100 นั

ตร. รวบแก๊งโจ๋เมียนมา แต่งรถซิ่งแข่งบนถนนหลวง

พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร, พ.ต.ท.สกฤชญ สุขนิตย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ต.ปิยพล ฉัตรภูมิ รรท.สว.สส.สภ.เมืองชุมพร พร้อมกำลังชุดสืบสวน ควบคุมตัววัยรุ่นสัญชาติเมียนมา

'สุริยะ' ของบกลาง จ่ายชดเชยรถไฟฟ้าบีทีเอส 133 ล้าน ส่วน รฟม. มีรายได้ให้จ่ายเอง 144 ล้าน

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี หลังกระทรวงคมนาคมได้ของบกลาง 329 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ประกอบการจากมาตรการรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี